โยกย้ายบิ๊กขรก.ส่งสัญญาณดี
การปฏิรูประบบราชการเป็นเรื่องที่ถูก ถกเถียงในสังคมเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา และดูเหมือนจะมีความเป็นไปได้มากขึ้น เมื่อ คสช.เริ่มเดินหน้าแก้ปัญหาประเทศ
โดยหลังจากที่ คสช.ออกคำาสั่ง คสช. ฉบับที่ 77/2557 คำาสั่งที่ 78/2557 และคำาสั่ง ที่ 79/2557 เรื่องการกำาหนดตำาแหน่งเพิ่มและ การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำารงตำาแหน่ง ซึ่งส่งผล ให้อดีตบิ๊กข้าราชการที่เคยมีข้อครหาทั้งในเรื่อง ที่มา และการทำาหน้าที่ ในครั้งที่ดำารงตำาแหน่ง ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกเก็บ เข้ากรุไปตาม ๆ กัน
ซึ่งก็น่าจะเป็นสัญญาณที่ดี สา� หรับจุด เริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงในระบบราชการ
จะสังเกตได้ว่าการโยกย้ายครั้งนี้ส่วน ใหญ่มุ่งไปที่ตำาแหน่งใหญ่ ๆ ของหน่วยงานที่ มีความสำาคัญในการแก้ปัญหา แต่ที่ผ่านมากลับถูกแทรกแซงจนปฏิบัติ งานไม่ได้ หรือกลายเป็นเครื่องมือของฝ่ายการเมือง
อย่างตำาแหน่งอัยการสูงสุด อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เลขาธิการศูนย์อำานวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือเลขาธิการ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) ซึ่ง ที่ผ่านมาข้อครหาทั้งเรื่องการเป็นคนใกล้ชิดฝ่ายการเมือง และการ ปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของฝ่ายการเมือง
นอกจากนั้นยังมุ่งไปที่หน่วยงานที่เป็นต้นตอของปัญหา หลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้น อาทิ การทุจริตในโครงการจำานำาข้าว ที่ทำาให้ ประเทศขาดทุนหลายแสนล้านบาท โครงการ จัดซื้อแท็บเล็ตให้นักเรียน รวมทั้งการทุจริตใน การจัดซื้อจัดจ้างในสภาผู้แทนราษฎร
ส่งผลให้มีการเปลี่ยนตัวปลัดกระทรวง พาณิชย์ อธิบดีกรมศุลกากร ปลัดกระทรวง พลังงาน เลขาธิการคณะกรรมการการอุดม ศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน รวมถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งหลายคนก็ถูกครหาว่าเป็นคนของฝ่าย การเมือง
แม้การโยกย้ายครั้งนี้จะไม่ถือเป็นการ ปฏิรูประบบราชการ แต่ก็เป็นสัญญาณที่ดี
สัญญาณที่ดีในการสร้างความเชื่อมั่นใน หน่วยงานราชการนั้น ๆ และเป็นการเปิดทาง ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ ไม่ต้องระแวงระวังว่าจะไปทำาให้คนของฝ่าย การเมืองไม่พอใจ
สัญญาณที่ดีในการปูทางไปสู่การปฏิรูป เพราะการปฏิรูปไม่ สามารถเกิดขึ้นได้หากหน่วยงานราชการไม่มีความเข้มแข็ง หรือยังมี อิทธิพลของฝ่ายการเมืองแทรกแซงอยู่ ดังนั้นการที่ คสช. ออกคำาสั่ง โยกย้ายข้าราชการ แบบจี้จุดที่มีปัญหา ก็จะช่วยทำาให้หน่วยงานนั้นๆ มีความเข้มแข็งมากขึ้น
สุดท้ายเรื่องนี้คงต้องขึ้นอยู่กับ คสช. ว่าจะมีแนวทางในการ ปฏิรูประบบราชการอย่างไร และจะปฏิรูปได้จริงมากน้อยแค่ไหน ซึ่งก็ ยังเป็นเรื่องที่ต้องจับตามองกันต่อไป.