ทุกคำาท้วงต้องพิจารณา
การยกร่างรัฐธรรมนูญ
ขณะนี้
ที่คืบหน้าไปอย่างมาก
โดยนายคำานูณ สิทธิสมาน โฆษกกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ แจ้ง ถึงการพิจารณาบทบัญญัติรัฐธรรมนูญรายมาตราไปแล้ว 310 มาตรา มากกว่าปี 2550 อยู่ 1 มาตรา แต่จะไม่มากเหมือนในปี 2540 ที่มี ถึง 329 มาตรา ส่วนบทเฉพาะกาลมีไม่ต่ำากว่า 10 มาตรา ต่อจากนี้ จะเป็นการทบทวนทีละมาตรา ก่อนนำาส่งร่างแรกให้สภาปฏิรูปแห่ง ชาติพิจารณา ซึ่งพบว่า การร่างมีความคืบหน้าเท่าใด ก็จะมีเสียง สะท้อน มุมมอง ความคิดเห็นเพิ่มขึ้นเท่านั้น ประเด็นปัญหาก็ ปรากฏขึ้นเรื่อย ๆ ดังเช่น การขอลาออกของกรรมาธิการรายหนึ่ง
ประชาชนที่รับทราบข่าว ควรทำาความเข้าใจ สิ่ง
ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องปกติธรรมดา และสะท้อนว่า การร่างรัฐธรรมนูญคราว นี้ มิได้ทำากันแบบปกปิด ทุกฝ่ายมีโอกาสรับทราบความเคลื่อนไหว สิ่ง ที่ไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะนักการเมืองที่จะเป็นผู้รับผลโดยตรง จะสะท้อน ความรู้สึก ความเห็น เป็นสัญญาณออกมาก่อน ซึ่งพบว่า คณะกรรมาธิการ ยกร่าง รวมถึง สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) สมาชิกสภานิติบัญญัติ แห่งชาติ(สนช.) ก็คงรับฟัง เพื่อนำาไปใช้ประกอบการพิจารณา ส่วนที่มี ประเด็นความขัดแย้งภายในของกรรมาธิการด้วยกันเอง หรือการลาออก ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ไม่น่าจะทำาให้สาระหลักของการร่างรัฐธรรมนูญให้ เป็นกฎหมายหลักของประเทศเพื่อแก้ปัญหาต่าง ๆ เสียไป
เสียงสะท้อนจากนักการเมืองบางราย อาจดู
รุนแรง เช่น ยังไม่ไปข้างหน้า แต่กลับถอยหลัง ไม่ตรงใจประชาชน อาทิ การกำาหนดที่มาของนายกรัฐมนตรีที่เปิดทางให้ผู้ไม่ได้เป็นผู้ แทนราษฎร (ส.ส.)เข้าสู่ตำาแหน่งได้ ที่ถูกตำาหนิว่ากติกาเช่นนี้ ประเทศที่เป็นประชาธิปไตยไม่ทำากัน อาจทำาให้นายทุนที่กำาลังรอ ซื้อพรรคการเมืองรวบอำานาจได้ และเสนอให้กำาหนดคุณสมบัติผู้จะ เป็นนายกรัฐมนตรีให้ชัดเจน ข้อทักท้วงเหล่านี้ แม้มีถ้อยคำาที่ดู รุนแรง แต่กรรมาธิการยกร่าง รวมถึง สปช.และ สนช. ควรเปิดใจ รับฟังและนำาไปพิจารณาหรือมีคำาชี้แจง ทั้งต้องแสดงให้เห็นว่า คำา ทักท้วงทุกประเด็นไม่ได้ถูกละเลย มีกระบวนการหรือรูปแบบที่เห็น ได้ว่า นำาเอาข้อเสนอ ความเห็นกลับไปพิจารณาและมีคำาตอบ
เสียงจากฝ่ายรัฐบาล หรือกรรมาธิการ
พยายามสื่อสารว่า ขั้นตอนที่เป็นอยู่ไม่ใช่บทสรุปว่ารัฐธรรมนูญจะต้อง เป็นตามนั้น แต่ก็ไม่ควรกล่าวอย่างเลื่อนลอย ทั้งนี้ คณะรักษาความ สงบแห่งชาติ (คสช.)และบุคคลในรัฐบาล พยายามหลีกเลี่ยงการ วิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญ กระนั้น ก็ควรทำาให้เชื่อว่า พร้อมรับฟัง และนำาข้อทักท้วงทุกประเด็นร่วมพิจารณา เพื่อให้ร่างรัฐธรรมนูญเป็น ไปเพื่อคนส่วนใหญ่อย่างแท้จริง บรรดาความเห็นที่แตกต่างจะได้รับ การแก้ไข ไม่ควรตัดบทหรือสร้างกระแสชี้นำาเหมือนฉบับก่อน ๆ ที่ให้ รับไปก่อนแล้วแก้ไขภายหลัง เพราะเมื่อทำาจริงจะถูกปฏิเสธหรือกลาย เป็นฝ่ายผิดเพราะพยายามแก้ไขรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ดี ควรทำาความ เข้าใจร่วมกันด้วยว่า การร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย มิได้ หมายความว่าทุกฝ่ายจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ การมีสิทธิเท่าเทียมกัน ก็มิใช่ว่า ทุกคนจะได้ทุกสิ่งเท่ากันทุกประการ.