สภาลูก-เมีย
เพิ่งรู้เหมือนกันว่า่ ้ ื สมาชิกสภานิติ บัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ยุคนี้เขานิยมแต่งตั้ง ลูก-เมีย มาเป็นผู้เชี่ยวชาญประจา�ตวั เพื่อช่วย งาน โดยได้รับเงินเดือนราชการ ซึ่งเป็นเงิน ภาษีของประชาชนด้วย
เป็นใครกันบ้างไม่อยากสาธยาย เพราะ มีจา�นวนมากเกรงกินพื้นที่โดยใช่เหตุ
จาไม่ได้ว่า� สนช.สมัยก่อนนิยมท �า แบบนี้หรือไม่
และไม่ทราบเหมือนกันว่า สภา ลูก-เมีย ยุคนี้ แตกต่างจาก สภาผัว-เมีย ยุคก่อนอย่างไร?
รู้แต่ว่าสมัยนั้นโดนวิจารณ์กันเละไป เหมือนกัน ทั้งวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร
ความจริง สภาลูก-เมีย กับ สภา ผัว-เมีย น่าจะเป็นคนละเรื่องกัน เพราะ สภา ลูก-เมีย แค่แต่งตั้ง ลูก-เมีย มาช่วยงาน กิน เงินภาษีประชาชน แต่ สภาผัว-เมีย เป็นการ สืบทอดอ�านาจในต�าแหน่งทางการเมืองของ วงศ์ตระกูลนักการเมือง
นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภา นิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เองก็บอกแล้วว่า ตามระเบียบข้อบังคับ สนช.ไม่ได้ห้ามเรื่องการ แต่งตั้งลูก-เมีย หรือเครือญาติมาดา�รงตา�แหน่ง ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ปฏิบัติงานประจา�ตวั สนช. ซึ่ง หลักการคุณสมบัติในต �าแหน่งเหล่านี้ก�าหนด เพียงว่า มีคุณวุฒิเหมาะสม และไม่เคยต้องคดี มาก่อน ไม่มีข้อห้ามเรื่องเครือญาติ
ส่วนจะมีความเหมาะสมหรือไม่ คิดว่า สนช.อาจต้องการคนที่มีความไว้วางใจมาช่วย งาน จึงดึงคนใกล้ชิดมาเป็น สนช.ปฏิบัติตาม ระเบียบเดิมของสภาที่มีมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว ทุกอย่าง ไม่ได้ไปแก้ไขอะไรเลย
เช่นเดียวกับ นายบวรศักดิ์ อุวรรณ โณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ บอกไม่ใช่เรื่องแปลก แล้วแต่คนมอง เพราะ บางต า�แหน่งต้องได้คนที่ไว้วางใจมาช่วยเหลือ ในการทา�งาน
“การแต่งตั้งต�าแหน่งผู้ช่วย หรือผู้ เชี่ยวชาญประจาตัวนั้น� ไม่ใช่เรื่องแปลก เนื่องจากไม่ได้เป็นต �า แหน่งที่ใหญ่โต หรือมี ส่วนในการบริหารราชการแผ่นดิน”
ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายก รัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. บอกว่า ได้สอบถาม กลับไป และได้รับคา�ตอบว่า ไม่มีกฎหมายเขียน ระบุไว้ อย่าไปพันกันกับเรื่อง สภาผัว-สภาเมีย เพราะมันคนละสมัย ครั้งนั้นก็บอกว่ากฎหมาย ไม่ได้ห้าม ครั้งนี้ก็เหมือนกัน แต่ได้กา�ชับไปว่า ขอให้ระมัดระวัง และไปตรวจสอบด้วยว่า ที่ตั้ง มาทา�งานได้ หรือไม่ได้อย่างไร มีเหตุผลความ จา�เป็นหรือไม่..เรื่องนี้คงต้องพูดด้วยกฎหมาย แต่ถ้าถามว่าถูกหรือไม่ ไม่ขอตอบ
แต่ นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา คงมองต่างมุม ถึง บอก ไม่ใช่เรื่องทา�ผิดกฎหมายก็จริง แต่เป็น เรื่องของ จริยธรรม ที่กระทบต่อความรู้สึก ของประชาชนที่อุตส่าห์มีความหวังกับสนช. ที่ประกาศจะเข้ามาปฏิรูปประเทศ
เมื่อก่อนชี้หน้าว่านักการเมืองเลว ขี้ โกง กินภาษีประชาชน ตั้ง สภาผัว-เมีย แต่มาวันนี้กลับมาตอกย้�าท �า ประชาชนสิ้น หวัง สนช.บางท่าน ตั้งลูกตั้งเมีย เป็นผู้ช่วย บางคนลูกยังเรียนไม่จบก็ตั้งแล้ว ประชาชน อุตส่าห์ฝากความหวัง และให้เกียรติ สนช.สูง มาก แต่กลับไม่เคารพเกียรติตัวเอง
ว่าแล้วก็แต่งกลอนเหน็บตอนหนึ่ง ว่า “..คุณรังเกียจ เหยียดหยาม ประณาม ด่า เอาทั้งลูก ภรรยา มาสืบสาน นักการเมือง มันชั่วช้า ทั้งสามานย์ น่าสงสาร ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง”
ก็ว่ากันไป คงเป็นเรื่องของความเห็น ต่างล่ะครับ เหมือนกับสองคนยลตามช่อง ท �า นองนั้น แต่ละฝ่ายต่างมีมุมมองเป็นของ ตัวเอง ก็รับฟังกันเอาไว้
ส่วนผมเองก็ไม่อยากวิพากษ์วิจารณ์ อะไรหรอก เพราะโต ๆ กันแล้ว อะไรควร ไม่ควร ย่อมรู้อยู่แก่ใจ
จะว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเองหรือไม่? ลองเอาไปคิดดู.