ſ 50 ตำาแหน่งต้องโปร่งใส

อีกเรื่องหนึ่ง น�ยวิช� มห�คณุ กรรม ก�ร ป.ป.ช. กล่�วถึง กรณี ป.ป.ช.จะดำ�เนินก�ร ประก�ศเพิ่มเติมห้�มเจ้�หน้�ทรัี่ฐในตำ�แหน่งต่�ง ๆ กระทำ�ก�รอันเป็นก�รขัดกันระหว่�งผล ประโยชน์ว่� ป.ป.ช. มีคณะทำ�ง�นเรื่องนี้โดย น�ยวิชัย วิวิตเสวี กรรมก�ร ป.ป.ช. เป็นผู้ พิจ�รณ�เบื้องต้น และยังมีคณะเจ้�หน้�ททำี่�ง�น ที่คอยให้ข้อมูลและเหตุผลว่�ผดำู้�รงตำ�แหน่งใด บ้�งที่สมควรจะอยู่ในข่�ย ทั้งนี้ ผู้บริห�ร รัฐวิส�หกิจ ก็อยู่ในข่�ยดังกล่�วรวมถึงผู้ดำ�รง ตำ�แหน่งอื่นอีกร�ว 50 ตำ�แหน่ง ซึ่งเพิ่มเติมจ�ก ตำ�แหน่งเดิมใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่� ดว้ยก�รป้องกันและปร�บปร�มก�รทุจริต พ.ศ. 2542 ม�ตร� 100 ที่กำ�หนดห้�มเจ้�หน้�ทีรั่ฐ กระทำ�ก�รขัดกันระหว่�งผลประโยชน์ เพียง 4 ตำ�แหน่ง ได้แก่ น�ยกรัฐมนตรี, รัฐมนตรี, ผู้ บริห�รท้องถิ่น และรองผู้บริห�รท้องถิ่น

“หลังจ�กนี้ จะมีก�รทยอยประก�ศ ออกม� เพร�ะถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และ บ�งเรื่องยังไม่มีคว�มชัดเจน เช่น กรณีก�รเป็น กรรมก�รบริษัทที่อยู่ภ�ยใต้ก�รดูแลของหน่วย ง�นที่ตัวเองควบคุมอยู่ ว่�ควรจะมีขอบเขตแค่ ไหนเพียงไร ซึ่งก�รประก�ศในลักษณะนี้ ของ ป.ป.ช.จะคล้�ยกับก�รประก�ศให้ผู้ดำ�รง ตำ�แหน่งใดบ้�งต้องยื่นบัญชีแสดงร�ยก�ร ทรัพย์สินและหนี้สิน” น�ยวิช� กล่�ว

น�ยวิช� ยอมรับว่� อ�จต้องมีก�ร ปรับปรุงแก้ไขกฎหม�ยในเรื่องดังกล่�วให้ชัดเจน ยิ่งขึ้นกว่�ทีผ่่�นม� ซึ่งเขียนไว้กว้�ง ๆ ขณะ เดียวกัน ท�ง สปช.อยู่ระหว่�งก�รพิจ�รณ� กฎหม�ยว่�ด้วยคว�มผิดเกี่ยวกับก�รขัดกัน ระหว่�งผลประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ ส�ธ�รณะ โดยค�ดว่�ห�กกฎหม�ยดังกล่�วผ่�น คว�มเห็นชอบ จะได้นำ�ม�บรรจุเพิ่มเติมใน ม�ตร� 100 หมวด 9 ของ พ.ร.บ.ประกอบ รัฐธรรมนูญว่�ด้วยก�รป้องกันและปร�บปร�ม ก�รทุจริต พ.ศ. 2542 ซึ่ง ป.ป.ช. ต้องให้คว�ม เห็นประกอบในส่วนนี้ ขณะเดียวกัน นักวิช�ก�ร หล�ยคนมีคว�มเห็นสอดคล้องกันว่�ควรจะมี กฎหม�ยดังกล่�วออกม�บงัคับใช้