แกงสิงหล’ เมนูน่าสนของชนศรีลังกา
ในบรรดาอาหารไทยต้นตำารับ “แกงสิงหล” นับเป็นเมนูหากินยากที่เรา ไม่ค่อยได้เห็นนัก เช่นเดียวกับทองพลุ, แจงร้อน, สะเต๊ะลือ, ม้าฮ่อ และข้าวเกรียบ อ่อน หากยังคงมีแกงพะแนงและมัสมั่น ซึ่ง มีความคล้ายคลึงดุจพี่น้องพ่อแม่ท้อง เดียวกัน หลงเหลือให้คนรุ่นใหม่ลิ้มลอง ประวัติความเป็นมาของแกง เล่าขานต่อกันว่าเป็นอาหารพื้นบ้านของ
สิงหล ชาวสิงหล ประเทศศรีลังกา ชนหมู่มากในแถบ พื้นที่นั้นนิยมทำายามพบปะสังสรรค์และมีงาน รื่นเริง แต่มาแพร่หลายในสยามเมื่อชาวสิงหล อพยพมาอาศัยใต้ร่มโพธิสมภารในสมัยพระบาท สมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ 2 ซึ่ง นำาศิลปวัฒนธรรมด้านอาหารติดตัวมาด้วย
ดั้งเดิมแกงชนิดนี้หนักเครื่องเทศตาม สไตล์คนเอเชียตะวันตก แต่คนไทยนำามา ดัดแปลงรสชาติ โดยลดความฉุนของเครื่องเทศ ลง แล้วเพิ่มรสกลมกล่อม ครบสามรส “เปรี้ยวเค็ม-หวาน” แบบตำารับไทย และเพิ่มทางเลือก ของวัตถุดิบให้หลากหลาย นอกจากใช้เนื้อแกะ เนื้อควาย เปลี่ยนมาเป็นเนื้อวัว เนื้อหมู และ เนื้อไก่ หากชอบเนื้อปลาสามารถใช้ทดแทนได้ แต่ต้องรู้หลักวิธีทำาเพื่อดับกลิ่นคาว
หากินยากแต่ใช่ว่าจะไม่มีเลย เพราะหาก เอ่ยถึงคนมีฝีมือด้านการ ทำาอาหารไทย อ.วันดี ณ สงขลา ผู้ ก่ อ ตั้ ง และ ผู้ อำานวยการโรงเรียนครัววันดี อาจารย์ประจำาวิทยาลัยในวัง หญิง ได้ถ่ายทอดศิลปะการ ทำาอาหารไทย นอกจากผ่าน ข้อเขียนอันทรงคุณค่าแล้วยังสอนและปั้นเชฟชั้นนำา มาตรฐานสากลมานักต่อนัก และยังส่งผ่านถึง ทายาท “ดาว-ดร.วิชุดา ณ สงขลา ศรียาภัย” สาวนักเรียนนอกที่ผันตัวจากผู้บริหารงานด้านระบบ สารสนเทศ ในบริษัทเอกชนชื่อดังของไทย มาสาน ต่อธุรกิจของครอบครัว จากการถามเพียงคำาเดียว ของผู้เป็นแม่
คุณดาวอมยิ้มแล้วเล่าว่า ถ้าถาม เรื่องทำาอาหารเราทำาเป็นอยู่แล้ว เพราะ ซึมซับศาสตร์ด้านนี้จากคุณแม่ตั้งแต่เด็ก ๆ กระทั่งไปเรียนต่อปริญญาโทและปริญญาเอก ที่สหรัฐอเมริกา กลับมาทำางานในเมืองไทยได้ พักใหญ่ คุณแม่ก็ทวงถามว่าอยากจะมาทำางาน ตรงนี้ไหม เพราะถ้าลูกไม่สนใจทางออกเดียวคือ ยกเลิกกิจการ “คุณแม่มีนิสัยเป็นนักเลง เด็ด เดี่ยวเหมือนผู้ชาย ไม่พูดจาเซ้าซี้ การถามครั้ง นั้นก็ถามเพียงแค่ครั้งเดียวจริง ๆ ด้วยความ เสียดายและใจรักเป็นทุนเดิม ใช้เวลาหนึ่งเดือน ตัดสินใจลาออกมาบริหารงานตรงนี้”
นอกจากการดำาเนินงานที่ปรับหลักสูตรสู่ สากลมากขึ้น ไม่ว่าจะเพิ่มสาขาอาหารและ โภชนาการ, สาขาครัวโรงแรม เพิ่มขึ้นแล้ว ภายใน ปีนี้ยังได้เปิดธุรกิจร้านอาหารไทยชื่อ “ครัววันดี” ซึ่ง จะมีกำาหนดเปิดในเดือน มิ.ย.นี้ สาขาแรกที่ห้าง สรรพสินค้าโชว์ ดีซี ห้างสรรพสินค้าแห่งใหม่ย่าน พระรามเก้า กรุงเทพฯ นำาเสนออาหารไทยให้จารึก ว่ารสชาติไทย ครบเครื่องแบบไทยหาได้ที่นี่ รวมทั้ง เมนูแกงสิงหล
ส่วนใครอยากลองฝีมือด้วยตัวเอง คุณดาว เผยวิธีทำาแบบหมดเปลือก เพียงเตรียมวัตถุดิบ และส่วนผสม ดังนี้ ส่วนผสมพริกแกง ประกอบด้วย เกลือป่น 1/2 ช้อนชา, ลูกผักชีคั่ว 1 ช้อนชา, ยี่หร่า คั่ว 1/2 ช้อนชา, ลูกจันทร์คั่ว 1 ช้อนชา, พริกไทย ลูกจันทร์ 1/3 ลูก ที่ผ่านการคั่วยั่วกลิ่นหอม
ระหว่างรอข้าวสุกโขลกพริกแกงทั้งหมด ให้ละเอียด ตั้งเตา นำาหัวกะทิ 3/4 ถ้วยตวงและ หางกะทิใส่หม้อ ใส่พริกแกง เคี่ยวพอแตกมันใส่ ไก่ตามด้วยกะทิ ปรุงรสนำ้าตาล นำ้าปลา ผัดพอ เข้ากันแล้วใส่หอมแดง, กระเทียม, ผักชีลาว และ ใบเตยช่วยเรื่องกลิ่น เคี่ยวไฟอ่อน ๆ ให้ส่วนผสม เข้ากันดี และแกงมีลักษณะนำ้าขลุกขลิกเหมือน พะแนง ใส่หัวกะทิที่เหลือ 1/4 ถ้วยตวงแล้วยก ลง ตักเสิร์ฟพร้อมข้าว...น่าจะถูกปากคนชอบแกง กะทิมันเข้มข้น.