ตลาดประชุมสัมมนานครนายก
หลังได้เปิดมุมมองด้านท่องเที่ยว จ.นคร นายก กับคุณอัญชลี ชัยทรัพย์ ประธานสภา อุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.นครนายก รอบหนึ่งแล้ว คราวนี้จะขอนำาเอารูปแบบการส่งเสริมท่องเที่ยว กลุ่มจัดประชุมสัมมนาและนิทรรศการมากล่าวถึง บ้าง เพื่อดูว่าจะมีความเป็นไปได้แค่ไหน?หน?
โดยความเป็นจริงการพัฒนาตลาด าด ท่องเที่ยวไทยที่ยาวนานมาร่วม 56 ปีนั้น น การเจาะกลุ่มตลาดทั้งในและต่าง ประเทศที่ได้แยกเป็นกลุ่มคนรัก ธรรมชาติ วัฒนธรรม โบราณสถาน แล้วก็จำาแนกออกเป็นกลุ่มคนทำางานุ ผู้ ู สูงวัย กลุ่มสนใจกีฬา การจัดประชุมสัมมนาและ นิทรรศการก็ถือเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่มีศักยภาพต่อการ ส่งเสริมตลาดด้วย จะต้องไปใช้สถานที่ในการจัด กิจกรรมกินอาหารแล้วก็พักแรม ไม่นับรวมท่อง เที่ยวกับจับจ่ายสินค้าอีกต่างหาก ปลอดภัย มีบริการคุณภาพเสริมคำาว่าสยามเมืองยิ้ม มี สนามบิน โรงแรม แหล่งท่องเที่ยวและแหล่งจับจ่ายสินค้า ทันสมัยมากมาย ปี 2545 รัฐบาลก็จัดตั้งหน่วยงานชื่อ “สำานักงาน ส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (สสปน.)” ขึ้นมา เพื่อหวังโกยเงินจากตลาดกลุ่มนี้ องค์กรที่ว่านี้ใหม่ ๆ ก็ ขยันออกทำาตลาดต่างประเทศกันถี่ แต่ไม่รู้เป็นเพราะเหตุ ใดถึงได้มีการเปลี่ยนตัวผู้บริหารกันเป็นว่าเล่น? การขยายตัวของธุรกิจที่ว่านี้ได้เริ่มมีมากขึ้นทั้งที่ เชียงใหม่ ภูเก็ต พัทยา หรือแม้แต่โรงแรมเล็กใหญ่ ต่าง ก็เริ่มสร้างห้องประชุมสัมมนา จัดเลี้ยงและนิทรรศการ รวมถงทาต รวมถึงทำาตลาดควบคู่ไปด้วยซึ่งก่อให้เกิดกระแสเงิน หมุนเ หมุนเวียนหนุนภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศได้ อีก อีกทางหนึ่ง
รัฐบาลชุดนี้เองก็ประกาศจุดยืน ชั ชัดเจนให้หน่วยงานราชการงดเดินทางไปดู ง งานต่างประเทศ พร้อมสนับสนุนให้มีการจัด ปร ประชุมสัมมนาภายในประเทศ นัยว่าเพื่อช่วย กระ กระตุ้นเศรษฐกิจ ธ การไ การได้พบปะพูดคุยกับคุณอัญชลี ซึ่งเป็น ตัวแทนภาคเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.นคร นายก จึงได้รู้ตัวเลขข้อมูลของ ททท.สำานักงานนคร นายก ระบุว่า เมืองนี้มีที่พักทุกระดับชั้น 151 แห่ง คิด เป็นห้องพัก 4,822 ห้อง เป็นสถานประกอบการที่ สามารถรับกลุ่มจัดประชุมสัมมนาขนาดเล็กและใหญ่ได้ส ตั้งแต่ 30 คนถึง 25,000 คน 66 แห่ง ซึ่งถือว่าไม่น้อย
ปัจจุบันคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการแข่งขันในตลาดกลุ่ม นี้ค่อนข้างสูงพอสมควรและกระจายไปทั่วประเทศ แต่การ ขายตลาดประชุมฯ จ.นครนายก คุณอัญชลีรับว่าอยู่ที่ 50% ของการขายห้องพัก ด้วยปัจจัยบวกคือนอกจากมี สถานประกอบการพร้อม ข้อสำาคัญอีกอย่างคืออยู่ใกล้กรุง เทพฯซึ่งเป็นตลาดใหญ่ สามารถลดวันเดินทางและต้นทุน งบประมาณดำาเนินการได้
นอกจากนี้จังหวัดโดยรอบได้แก่ จ.พระนครศรี อยุธยา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จ.ฉะเชิงเทรา ก็ล้วน เป็นนิคมอุตสาหกรรม ที่ยังไงก็ต้องอาศัยสถานที่จัด กิจกรรมด้านนี้ โดยเฉพาะการจัดอบรม ประชุมสัมมนา และหากสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.นครนายก ต้องการ ขยายตลาดให้กลับมาคึกคักเหมือนอดีตจึงควรบูรณาการ การทำางานร่วมกันกับ จ.นครนายก แล้วก็ ททท. ตลอด จน สสปน. ในพื้นที่ รวมถึงผู้ประกอบการจะต้องหมั่นจับ มือกันออกไปนำาเสนอขายสินค้าด้านนี้ต่อกลุ่มตลาดอย่าง จริงจังมากขึ้น บรรยากาศการจัดประชุมสัมมนาถึงจะกลับ มาคึกคักอีกครั้งหนึ่ง
ไม่ทราบ ดร.สุจินต์ ไชยชุมศักด์ิ นายกคิดเรื่องนี้บ้างหรือยังครับ?. พ่อเมืองนคร
บริสุทธิ์ ประสพทรัพย์