ทำาความรู้จัก มะเร็ง 3
ซึ่งเป็นเชื้อที่พบอยู่ในอวัยวะเพศชาย โดย ในความสัมพันธ์ที่หลากหลายและซับซ้อน ที่มากขึ้นท�าให้พบว่านอกจะก่อมะเร็งปาก มดลูกในหญิงแท้ และทวารหนักแล้ว ขณะ นี้ยังพบโอกาสเกิด “มะเร็งช่องคลอดใหม่” ในกลุ่มผู้ชายที่แปลงเพศเป็นผู้หญิงแล้ว
เรียกว่า อัตราการเกิดโรคมะเร็งจาก การมีเพศสัมพันธ์นั้นจะล้อไปกับช่องทางที่ มีการสอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าไป แต่ทั้งนี้ จะขอโฟกัสที่มะเร็งทวารหนัก และช่อง ง คลอดใหม่
การเกิด “มะเร็งทวารหนัก” เกิด ขึ้นได้กับทั้งหญิงและชายที่มีเพศสัมพันธ์ ทางทวารหนัก แต่ชายที่มีเพศสัมพันธ์กับ ชายอาจจะพบได้มากกว่า เพราะเป็นช่องทาง ง หลักของการมีเพศสัมพันธ์ อีกทั้งที่ทวาร หนักของผู้ชายจะมีเชื้อเอชพีวีอยู่ประมาณ ครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่ตรงอวัยวะเพศ ความ เสี่ยงจึงมีเยอะ ดังนั้นใครก็ตาม ที่มีเพศสัมพันธ์ทางนี้ ต้อง ตรวจแปปสเมียร์ทวารหนัก ซึ่ง ปัจจุบันยังพบการตรวจคัดกรอง ค่อนข้างน้อย ส่วนกรณี “มะเร็งช่องคลอด ใหม่” นั้น เนื่องจากผู้ชายที่แปลง เป็นเพศหญิงนั้นจะใช้เนื้อเยื่อจาก หนังหุ้มปลายองคชาต ซึ่งปกติ จะมีเชื้อเอชพีวีก่อ “โรคหูด” ชนิดที่ สามารถทำาให้ เกิดโรคมะเร็ง ได้ เดิมทีส่วน นี้จะอยู่ภาย นอกการเป็น หูดหรือไม่ เป็นก็สามารถ สังเกตได้ แต่พอถูก น�าเข้าไปอยู่ภายใน แล้วก็จะรู้ได้ยาก ซึ่ง จากการตรวจช่องคลอดใหม่ของอาสา สมัคร ชายข้ามเพศเป็นหญิง30 คนมี20% หรือ 1 ใน 5 ที่พบเชื้อเอชพีวีชนิดนี้ แต่ ตอนนี้ยังไม่พบว่าใครมีรอยโรคที่จะก่อ มะเร็งในอนาคต ดังนั้นในกลุ่มนี้ ต้องมา ตรวจทางสูตินรีเวชเหมือนผู้หญิงแท้เป็น ประจำา
“ถ้าเป็นกลุ่มชายรักชายที่ไม่ได้ติด เชื้อเอชไอวีก็ยังมีสิทธิเจอรอยโรคระยะ ก่อนเป็นมะเร็งทวารหนัก 10% แต่ถ้า มีเอชไอวีด้วยมีโอกาสเจอรอยโรคมะเร็ง ทวารหนักเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า หรือ 20% เพราะฉะนั้นถ้าเป็นกลุ่มชายรักชายอายุ 40 ปี ขึ้นไปขอให้มาตรวจแปปสเมียร์ทวาร หนัก ปีละ 1 ครั้ง แต่ในคนที่มีเชื้อเอชไอ วีด้วยควรมาตรวจเมื่ออายุ 30 ปี”