ſ ยันไม่ทำาซิงเกิ้ลเกตเวย์แน่
“รัฐบาลขอชี้แจงอีกครั้งว่า ไม่มี นโยบายซิงเกิ้ลเกตเวย์เพราะเกตเวย์ของไทยมี การเชื่อมต่อข้อมูลอย่างมากมายมหาศาล การ จะบังคับให้ทุกส่วนรวมถึงภาคเอกชนใช้รวม กันที่เดียวคงไม่สามารถทำาได้และยังขัดกับ แนวทางที่รัฐบาลต้องการส่งเสริมเทคโนโลยี ดิจิตอลทุกรูปแบบเพื่อก้าวไปสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 ดังนั้นการที่จะเข้าไปควบคุมหรือดักจับ ข้อมูลของประชาชนจึงไม่ใช่แนวทางของ รัฐบาลอย่างแน่นอน” พล.ท.สรรเสริญ กล่าว
พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ ทีมโฆษกคณะ รักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่าการ นัดรวมตัวกัน เพื่อแสดงสัญลักษณ์ต่าง ๆ นั้น จะมีเจ้าหน้าที่ตำารวจและเจ้าหน้าที่ทหารกอง กำาลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กลล.รส.) ใน พื้นที่ร่วมกันดูแลความเรียบร้อยอยู่โดยเจ้า หน้าที่ตำารวจจะเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการ ดำาเนินการตามขั้นตอน หากมีการรวมตัวกันก็ ต้องห้ามปรามเพื่อระงับและยับยั้ง รวมถึงรับ เรื่องร้องเรียนดังกล่าวไว้แต่จะใช้สถานที่เพื่อ ชุมนุมนั้นไม่ได้ ซึ่งต้องขอความร่วมมือ เพราะ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ได้ผ่านขั้นตอนตามกระ บวนการจนมีผลบังคับใช้แล้ว ดังนั้นเราควร เคารพอย่างไรก็ตามตนมองว่าการรวมตัวชุมนุม เพื่อแสดงสัญลักษณ์ต่าง ๆ ในช่วงเวลานี้ยังไม่ เหมาะสมต้องขอความร่วมมือว่าในเวลานี้ยังมี งานต่าง ๆ ที่สำาคัญของบ้านเมืองและการ ชุมนุมใด ๆ ตอนนี้นั้นคงยังไม่เหมาะสม เป็นตำารวจในเครื่องแบบประมาณ40 นาย และ ตำารวจนอกเครื่องแบบประมาณ 15 นาย มาดูแลรักษาความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย หากมีการชุมนุมจะ ดำาเนินการตามกฎหมายโดยจะทำาเป็นลำาดับขั้น ตอน เริ่มจากการเจรจาก่อน
ขณะที่บรรยากาศโดยรอบอนุสาวรีย์ ประชาธิปไตยมีกลุ่มประชาชนมาสังเกตการณ์ ในพื้นที่ประปรายแต่ยังไม่มีใครแสดงตนเป็นผู้ ชุมนุมแต่อย่างใด จนกระทั่งเวลา 14.40 น. เจ้า หน้าที่ตำารวจได้สั่งการให้เคลื่อนกำาลังส่วนใหญ่ ไปที่หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร แทน การณ์ถึงสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า ตามที่เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. สนช.ได้ผ่านความเห็น ชอบร่าง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ทั้งที่ สนช.ก็ ทราบว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ 1. คลุมเครือและให้ อำานาจรัฐควบคุมอินเทอร์เน็ตอย่างไร้ขีดจำากัด 2. ให้ปิดกั้นข้อมูลข่าวสารได้อาจเป็นการแช่ แข็งสังคมให้หยุดชะงัก 3. ให้อำานาจปิดกั้นการ สื่อสารเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่รัฐเข้าถึงข้อมูล ส่วนบุคคล การแสดงออกและทำาให้ธุรกรรม ทางการเงินไม่ปลอดภัย และ 4. ล่วงละเมิด ความเป็นส่วนตัวของประชาชน, ที่สำาคัญ สนช. ได้ให้ความเห็นร่าง พ.ร.บ.นี้ โดยไม่คำานึง ถึงเสียงของประชาชนที่ลงชื่อคัดค้านกว่า 3.6 แสนคนเลย ประชาชนอยากรู้ว่า สนช.ทำาเช่น นี้ เพื่ออะไร แล้วใครกันแน่ที่ได้ประโยชน์จาก พ.ร.บ.ฉบับนี้ ทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ของชาติ และประชาชน เราขอเรียกร้องให้ สนช.ทบทวน และยกเลิกการประกาศใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าว