มีแววดีแต่อย่าประมาท
พร้อมกับการออกมาตรการช้อปช่วยชาติ หรือ
มาตรการลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาที่รัฐบาลกา�หนดขึ้นระหว่างวันที่ 14-31 ธ.ค. 59 สา�หรับการใช้จ่ายซื้อสินค้าหรือบริการจากผู้ประกอบ การที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามจ �านวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 15,000 บาท และการมอบเงินสวัสดิการแห่งรัฐให้กับผู้มีรายได้น้อย ซึ่งจะกระตุ้นการหมุนเวียนของเงินได้ระดับหนึ่ง ล่าสุดยังมีรายงาน ว่า ยางพาราที่ราคาตกมาหลายปี เริ่มขยับตัวดีขึ้น บางชนิดถึง กก.ละ 80 บาท ท า�ให้เกิดการคาดการณ์ว่าอาจจะสูงกว่านี้ขึ้นไปอีก
เชื่อกันว่าราคาที่ขยับตัวสูงขึ้น เป็นเพราะราคา
น้า�ม นัปรับตัวเพิ่ม จากความพยายามของประเทศผู้ส่งออกและประเทศ นอกกลุ่มที่ทา�ความตกลงลดกา�ลงัการผลิต โดยการยางแห่งประเทศไทย วิเคราะห์ว่า มีหลายสาเหตุ ได้แก่ยางธรรมชาติทางภาคใต้ออกสู่ตลาด น้อยเพราะมีฝนตก นา้�ท่วมหลายจุด ขณะที่ความต้องการของประเทศ จีนเพิ่ม เพื่อเติมปริมาณสต๊อกที่ลดลงเล็กน้อย ส่วนประเทศอินเดียก็ ใช้ยางเพิ่มขึ้น ประกอบกับราคานา้�มันปรับตัว ค่าเงินบาทและเงินเยน อ่อนตัวลง ก�าไรของภาคอุตสาหกรรมดีขึ้น และเศรษฐกิจจีนเพิ่มมี เสถียรภาพ
แนวทางการวิเคราะห์ในมุมมองของผู้ประกอบ
การที่เกี่ยวข้องยังเห็นว่า ราคาในตลาดต่างประเทศมีทิศทางจะลดลง ซึ่งอาจเป็นช่วงสั้น ๆ ที่นักลงทุนเทขายเก็งก�าไร หรือการที่ราคาสูง ขึ้น ท�าให้ผู้ประกอบการบางรายขาดทุน จึงกดดันให้ราคาปรับลดลง จึงต้องรอดูปัจจัยอื่น ๆ จากต่างประเทศที่จะส่งผลกระทบ ส่วนใน ประเทศไทยเชื่อว่าการมีฝนตกหนักและน้�าท่วมทางภาคใต้ ท�าให้ ผลผลิตออกน้อย ดันราคาให้สูงได้
ช่วงที่ผ่านมา ราคายางพาราตกตา่� ทา�ให้รัฐและ
เอกชน ต้องหาทางออก ทั้งลดพื้นที่ปลูก โค่นทิ้งบางส่วน และการใช้ งานวิจัยเพื่อการแปรรูปหรือใช้ประโยชน์อื่นในประเทศ เช่นการนา�ไป ผสมท า�ถนน หรือท า�โฟมยางส า�หรับปูพื้นแหล่งรองรับนา้� ซึ่งทา�ได้ผล ดี อย่างไรก็ตาม การแปรรูปมักทา�ในช่วงที่ยางราคาตก ท า�ให้ต้นทุน ต า่� แต่เมื่อราคาดีขึ้น ควรพิจารณาว่า จะกระทบกับงานวิจัยหรือความ พยายามพัฒนาผลิตภัณฑ์จากยางอย่างไร นอกจากนี้ ควรตรวจสอบ ว่า แนวทางที่เคยก า�หนดให้หน่วยราชการนา�ไปแปรรูปใช้ในรูปแบบ ต่าง ๆ ยังดา�เนินการอยู่หรือไม่ มีปัญหาใดที่ควรสนับสนุน ทั้งนี้ การ แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ย่อมคุ้มค่ากว่าการขายผลผลิตขั้นต้นอย่าง แน่นอน.