มั่นใจราคายางพาราขยับ
นายเยี่ยม ถาวโรฤทธิ์ รักษาการผู้ว่า การการยางแห่งประเทศไทย (กยท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สถานการณ์ยางเริ่มดีขึ้น เนื่องจากความ ต้องการใช้ยางในตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มที่ ดีขึ้น ประกอบกับรัฐบาลส่งเสริมให้มีการใช้ยาง ในประเทศมากขึ้น เพื่อไม่ให้ตลาดต่างประเทศ เป็นผู้กำ�หนดราคา จากปัจจุบันที่มีการใช้ยางใน ประเทศเพียงประมาณ 600,000 ตันต่อปี หรือ ประมาณร้อยละ 14 ของก�ำลังการผลิตทั่ว ประเทศคือ 4.5 ล้านตันต่อปีเท่านั้น นอกจากนี้ ล่าสุดได้มีการประชุมสภาไตรภาคียางพารา (ITRC) สมัยพิเศษ ซึ่งประกอบด้วย 3 ประเทศ สมาชิก คือ ไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งที่ ประชุมได้มีมติตั้งคณะท�ำงานร่วม 3 ประเทศ เพื่อ หาข้อสรุปในการออกมาตรการรักษาเสถียรภาพ ราคายางพารา ซึ่งจะมีการประชุมอีกครั้งเร็ว ๆ นี้ โดยจะพิจารณาใช้ 5 มาตรการ
ประกอบด้วย 1. มาตรการจำกัด � ปริมาณการส่งออกยาง โดยจะพิจารณาหา ปริมาณที่เหมาะสมซึ่งจะอยู่ระหว่าง 200,000300,000 ตัน 2. มาตรการเพิ่มปริมาณการใช้ ยางในประเทศของทั้ง 3 ประเทศ 3. มาตรการ ลดพื้นที่การปลูกยางพาราเพื่อปลูกพืชชนิดอื่น ทดแทน 4. การจัดตั้งตลาดกลางเพื่อซื้อขาย ยางพาราในตลาดซื้อขายจริง และตลาดซื้อขาย ล่วงหน้า โดยเป็นตลาดที่จัดตั้งร่วมกันระหว่าง ภูมิภาค (Regional Rubber Market : RRM) และ 5. การตั้งสภายางแห่งอาเซียน (ASEAN Rubber Council : ARC) เพื่อเป็นเวทีให้ทั้ง 3 ประเทศมาพูดคุยกันตั้งแต่การแปรรูปยางพารา การศึกษาค้นคว้า งานวิจัย รวมทั้งเวทีแลก เปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน จากมาตรการของ รัฐบาล และ 5 มาตรการร่วมของสภาไตรภาคี ยางระหว่างประเทศ คาดว่าจะสามารถสร้าง เสถียรภาพราคาให้อยู่ในระดับที่ไม่ตำ่�กว่าต้นทุน การผลิต ไม่ท�ำให้เกษตรกรขาดทุน โดยล่าสุด ราคายางแผ่นรมควันชั้น 3 มีราคาอยู่ในระดับ 47-48 บาทต่อกิโลกรัมแล้ว.