ประภำวดีี - ชิิดีชินก โสภณพนิชิ
ศิิษย์์เก่่าสาย์เลืือดเดีย์วก่ันของสองสถาบััน Miss Porter’s School แลืะ Tufts University ‘อย์าก่ให้้ผู้้้ห้ญิิงย์ุคให้ม่่อย์่างนก่น้อย์ โตข้³นเป็็นผู้้้นำาห้ญิิงที่ี²ม่ีความ่คิดเป็็นตัวของตัวเอง ม่ีอิสระที่ี²จะเลืือก่เส้นที่างเดินของตัวเอง’
จากการเป็นลูกสาวคนโต จนมาทกุ วันนี้ลูกสาวคน นไี้ ดพ้ ว่ งอกี ตาำ แหนง่ ดว้ ยการเปน็ รนุ่ นอ้ งของผเู้ ปน็ มารดา นั่นคือการที่คุณนกน้อย-ชิดชนก เจริญรอย ตามคณุ แมน่ ก-ประภาวดี โสภณพนชิ ซง่ึ เปน็ General Manager ของ Christie’s ประจำาประเทศไทย เวียดนาม ลาว เมียนมาร์ และกัมพูชา ด้วยการเรียน มัธยมปลายในโรงเรียนประจาำ แห่งเดียวกัน ตามด้วย มหาวิทยาลัยแห่งเดียวกันอีกเช่นกัน
โรงเรียนประจำ±ำหญิงล้วน Miss Porter’s School
เราคงต้องเริ่มต้นเร่ืองราวจากคุณแม่นกกันก่อน เธอเกดิ ในครอบครวั แพทยร์ ะหวา่ งทพ่ี วกทา่ นไปเรยี น ต่อ ณ กรุงนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา และกลับ ไทยเมื่ออายุได้ 4 ขวบ โดยเข้าเรียนที่โรงเรียนสาธิต จุฬาฯ ก่อนจะกลับไปอเมริกาอีกรอบในวัย 15 ปี เพื่อ เขา้ เรยี นในโรงเรยี นประจำหญงิ ลว้ นชอื่ Miss Porter’s School ที่คอนเนกทิคัต ซึ่งอดีตสุภาพสตรีหมายเลข หนึ่งอย่างแจ็กเกอลีน เคเนดี้เคยเรียน
“ตอนนั้นภาษาคือไม่ดีเลย เพราะตอนเด็กๆ คุณพ่อคุณแม่อยากให้เรามีความเป็นไทย ก็เลยให้ เรยี นสาธติ ฯ มไี ปซมั เมอรเ์ มอื งนอกบา้ ง แตก่ ไ็ มเ่ หมอื น เด็กสมัยนี้ ช่วงสองปีแรกที่ไปถึึงนกก็เลยค่อนข้างใช้ เวลาในการปรับตัว ปรับภาษา และวิธีการใช้ชีวิตกว่า จะลงตัว Miss Porter’s School เป็นโรงเรียนเล็กๆ มี นักเรียนเอเชียน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นชาวอเมริกัน
“ตอนเรยี นทนี่ นั่ นกตงั้ ใจจดจอ่ กบั การเรยี นหนงั สอื และเล่นกีฬา เพราะกีฬาทำให้เรามีเพ่ือนและมี กจิ กรรม เรม่ิ มสี งั คมใหม่ เพราะนกเลน่ ทงั้ วอลเลยบ์ อล และแบดมินตัน ซึ่งนกชอบเล่นกีฬาตั้งแต่อยู่สาธิตฯ แล้วละค่ะ ส่วนเรื่องการเรียนไม่ได้รู้สึกว่ายาก แต่ ภาษาอังกฤษนี่สิคะกลับยาก ทว่าเป็นผลดีค่ะ เพราะ เขาฝึึกให้นกกล้าพูดพรีเซนต์งานหน้าชั้น หรือให้เล่น ละครของเชคสเปียร์
“นกได้ไปอิตาลีเป็นครั้งแรกก็ที่นี่ เพราะครูวิชา ประวัติศาสตร์ยุโรปเป็นอิตาเลียนอเมริกัน ก็เลยได้ไป ทัศนศึกษาที่โรม ปอมเปอี และฟลอเรนซ์ ต้องยอมรับ วา่ โรงเรยี นมอี ทิ ธพิ ลทางความคดิ ของนกอยา่ งมากคะ่ เพื่อนสนิทนกเป็นฮ่่องกงกับเกาหลี ก็ยังเป็นเพ่ือนรัก กันจนถึึงทุกวันนี้ ลูกสาวเขาก็เป็นเพ่ือนกับนกน้อยที่ Miss Porter’s School เพราะเราไปส่งลูก แล้วเจอแม่ เพื่อนเขาซึ่งเป็นรุ่นน้องนกหนึ่งปี ก็เลยได้ reconnect กัน กลายเป็นว่าหลังจากห่างหายกันไป 20 กว่าปี เพราะต่างคนต่างไปใช้ชีวิต กลับมาเจอกันอีกเพราะ ลูก ก็เลยเป็นความน่ารัก ทำให้นกได้รำลึกความหลัง และได้กลับไปช่วยหาทุนสร้างตึกใหม่ให้โรงเรียน นอกจากนี้นกยังได้รับเลือกเป็น Board of Trustees เพื่อเป็นการตอบแทนโรงเรียนด้วยค่ะ”
ด้วยความที่ Miss Porter’s School ในอดีตเป็น เหมอื น finishing school หรอื โรงเรยี นการเรอื น เพราะ นักเรียนส่วนใหญ่จบไปเป็นแม่บ้าน ภรรยานักธุรกิจ ภรยิ าทตู หรอื ไมก่ เ็ ปน็ ภรรยานกั การเมอื ง คณุ นกเลา่ วา่ ทกุ วนั องั คารและวนั พฤหสั เธอกบั เพอื่ นนกั เรยี นจะตอ้ ง แต่งตัวสวยเพื่อร่วมซิตดาวน์ดินเนอร์ นอกจากนี้ยังจะ ตอ้ งผลดั กนั เสริ ฟ์ อาหาร เพอื่ ฝึกึ มารยาทในการเขา้ สงั คม
ปัจจุบันกิจกรรมดังกล่าวนี้ได้ถึูกยกเลิกไปแล้ว คุณนกบอกเราถึึงผลกระทบจากยุคสมัยว่า “เพราะ เขาอยากใหผ้ หู้ ญงิ ยคุ ใหมอ่ ยา่ งนกนอ้ ยโตขนึ้ เปน็ ผนู้ ำ หญิงที่มีความคิดเป็นตัวของตัวเอง มีอิสระที่จะเลือก เส้นทางเดินของตัวเอง มีอาชีพของตัวเอง เพราะทุก คนคาดหวังว่าผู้หญิงต้องประสบความสำเร็จในชีวิต แต่นกก็ยังคิดว่าการเรียนรู้มารยาททางสังคมก็เป็น เรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย”
ส่วนคุณนกน้อยนั้นตั้งแต่เล็กจนโต คุณแม่นก จะพาเธอไปซัมเมอร์ที่นิวยอร์กและคอนเนกทิคัตเป็น ประจำทกุ ปี “เปน็ การเปดิ โลกใหห้ นรู จู้ กั วฒั นธรรมอนื่ ๆ แตม่ อี ยปู่ หี นงึ่ ทคี่ ณุ แมส่ ง่ หนไู ปเรยี นเรอื่ ง sustainable living ที่ฟาร์มของโปรเฟสเซอร์ที่ Cornell University ในคอสตารกิ านาน 2 เดอื น เขาทำเรอื่ ง permaculture วา่ ควรจะปลกู ตน้ นใี้ กลก้ บั ตน้ อะไร มนั ถึงึ จะเตบิ โตได้ ดี” คุณนกน้อยเล่า
“ในการเลี้ยงลูก นกมองว่าควรเปิดโลกให้ลูกได้ พบเจอสิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ โดยเฉพาะสิ่งที่จะมีความ
สำคัญต่อไปในอนาคต เช่น นวัตกรรมด้าน การเกษตร วิธีคิดเรื่องการอนุรักษ์ การไป อยู่คอสตาริกาก็เป็นประสบการณ์ใหม่ ที่ นกน้อยจะได้เรียนรู้ทั้งขนบธรรมเนียมและ ภาษาควบคู่กัน สิ่งเหล่านี้จะทำให้นกน้อย โตขึ้นเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งในอนาคต และมี ความรู้รอบตัวค่ะ”
สำหรับแนวคิดเรื่องโรงเรียนหญิงล้วน นนั้ คณุ นกนอ้ ยไมม่ ปี ญั หาในเรอื่ งน้ี “นกนอ้ ย ไม่แน่ใจว่าโรงเรียนอื่นเป็นอย่างไร แต่รู้สึก ว่าการเรียนโรงเรียนหญิงล้วนทำให้เรากล้า คิดกล้าทำ ไม่ต้องรู้สึกอายใคร นกน้อย รู้สึกมั่นใจในตัวเอง เพราะโตมาในสภาพ แวดลอ้ มทเี่ ปน็ หญงิ ลว้ น แลว้ กเ็ ปน็ โรงเรยี น เลก็ ๆ ทอี่ บอนุ่ คะ่ แตน่ า่ เสยี ดายทเี่ จอโควดิ ตอนปีสุดท้าย นกน้อยกลับไทยตอนต้น เดือนเมษายน แล้วก็ไม่ได้กลับไปอีกเลย”
น่าเสียดายที่คุณนกน้อยจำเป็นจะ ต้องกลับไทยมาเรียนและเข้าร่วมพิธีจบ การศึกษาแบบออนไลน์ คุณนกที่เคยมี ประสบการณ์ผ่านงานนี้มาก่อนบอกว่า พิธี จบการศกึ ษาของ Miss Porter’s School นนั้ นา่ รกั มาก นกั เรยี นทจ่ี บการศกึ ษาจะใสเ่ ดรส ขาวสวมมงกุฎดอกเดซ่ี ร้องเพลงประจำ โรงเรียน แล้วกระโดดน้ำพร้อมกัน และ นักเรียนแต่ละคนจะสวมแหวนรุ่นที่เป็นดั่ง เครื่องหมายแสดงถึึงความผูกพันที่ส่งผ่าน ระหว่างศิษย์เก่าจากรุ่นสู่รุ่นอีกด้วย
‘นกมองว่ำควรเปิดีโลกให้ลูกไดี้พบ เจำอสิ¬งใหม่ๆ โดียเฉพำะสิ¬งที่ี¬จำะมี ควำมส±ำคัญต่่อไปในอนำคต่ สิ¬งเหล่ำนีจำะที่±ำให้นกน้อยโต่ขึ้้นเป็น ผูู้้น±ำที่ี¬แขึ้็งแกร่งในอนำคต่ และมีควำมรู้รอบต่ัว’ คุุณนก
Tufts University มหำวิที่ยำลัยแห่งเดีียวกันอีก เชิ่นกัน
ต้องบอกว่าคุณนกเลือกเข้าเรียนชั้นอุดมศึกษาที่ Tufts University ก็เพราะเห็นพี่ชาย (พินิจ พัวพันธ์) เข้าเรียนก่อน เธอเห็นว่าพี่ชอบสถึาบันแห่งนี้มาก จึง เลือกตาม
“เห็นพี่ชายชอบโรงเรียนมาก แล้วนกชอบระบบ Liberal Arts อยู่แล้ว และนกอยากอยู่แถึวอีสต์โคสต์ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ดังเร่ือง International Relations (IR) ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งนกชอบค่ะ นก เรียนเอกสองวิชา ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และ เศรษฐศาสตร์ เพราะอยากเข้าใจกลไกของการเมือง ระหว่างประเทศและเศรษฐกิจ ตอนนกเรียน Tufts University จะอยนู่ อกเมอื งหนอ่ ย เขาเหน็ วา่ เรามาจาก โรงเรียนหญิงล้วน ปีแรกเขาเลยจัดให้นกอยู่หอหญิง
“แล้วพอขึ้นปี 2 ด้วยความที่นกเป็นเอเชียน อเมริกัน เลยได้เป็นที่ปรึกษาของเด็กใหม่ในบ้านเด็ก เอเชยี นอเมรกิ นั ดว้ ย ซงึ่ มกี จิ กรรมสนกุ มาก ตอนนน้ั ยงั ไมม่ เี ดก็ เอเชยี เรยี นเยอะเทา่ ไร แลว้ พอปี 3 ทาง Tufts ซงึ่ มกั จะสง่ เดก็ junior year ทเี่ รยี น IR ไปเรยี นตา่ งประเทศ นกเลยเลอื กไปเรยี นที่ London School of Economics ประเทศองั กฤษ และโฟกสั ทางเศรษฐศาสตร์ จากนนั้ กลบั ไปเรยี น senior year ที่ Tufts จนจบ และกลาย เปน็ วา่ นกตอ่ โทที่ School of International and Public Affairs (SIPA) ที่ Columbia University ทนั ทคี ะ่ ”
มาถึึงยุคคุณนกน้อย ซึ่งตอนอยู่มัธยมได้ไปชม มหาวิทยาลัยหลายแห่ง และชอบ Tufts University มากที่สุด เพราะนอกจากจะเป็นสถึาบันที่คุณแม่เคย เรียนแล้ว ยังมีอาจารย์เก่งๆ ทางด้านประวัติศาสตร์ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศสอนด้วย นอกจาก นคี้ ณุ นกนอ้ ยยงั ชอบสภาพแวดลอ้ มทสี่ นบั สนนุ ความ สำาเร็จของนักเรียนของที่นี่อีกด้วย โดยคุณนกน้อย สมัคร Early Decision II และสามารถึเข้าได้
เมื่อคุณนกน้อยทราบข่าวนี้เธอถึึงกับหลั่งนำ้าตา ด้วยความยินดี “ตอนที่ถึูกมหาวิทยาลัยแห่งแรก ปฏิเสธ นกน้อยเศร้ามาก เพราะเหมือน 18 ปีที่เรา เรยี นมาเราไมร่ วู้ า่ ตวั เองเรยี นสาำ เรจ็ จรงิ หรอื เปลา่ การ เขา้ มหาวทิ ยาลยั กเ็ ลยเปน็ ชว่ งเวลาทที่ งั้ เครยี ดกบั การ รอคอย ทง้ั เศรา้ ถึา้ ถึกู ปฏเิ สธ และดใี จทไี่ ดร้ บั การตอบ รับ แล้วไม่ใช่แค่นกน้อยคนเดียว เพื่อนหลายคนของ นกน้อยก็คิดแบบนี้เหมือนกันค่ะ”
คุณนกน้อยจึงใช้เวลาตัดสินใจไม่นานที่จะเข้า เรียนเมเจอร์ด้าน IR แบบเดียวกับคุณแม่ และดับเบิ้ล เมเจอร์ทางด้านประวัติศาสตร์ แต่น่าเสียดายที่ตอน เรียนปี 1 โลกยังเผชิญกับวิกฤติโควิด เธอจึงต้องเรียน ออนไลน์ที่เมืองไทย ซึ่งเธอบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่เธอ ได้กลับไปเจอเพื่อนเก่าที่ต่างห่างหายไปเพราะแยก ยา้ ยกนั เรยี นคนละประเทศ ทาำ ใหส้ นทิ กนั มากขนึ้ และ ยังเป็นช่วงเวลาที่เธอได้ทำาความรู้จักเพื่อนคนไทย ใหม่ๆ ซึ่งทุกคนเรียนออนไลน์
แตเ่ มอื่ ขนึ้ ปี 2 ทางมหาวทิ ยาลยั กเ็ ปดิ ใหค้ ณุ นกนอ้ ย ได้เข้าเรียนเสียที สิ่งที่แตกต่างระหว่างยุคคุณนกและ ลูกสาวคือ บ้าน “นกโชคดีที่หอที่เคยอยู่เป็นลักษณะ บา้ น มคี วามอบอนุ่ แตต่ อนนไี้ มม่ แี ลว้ สว่ นปแี รกนกนอ้ ย อยู่หอ และปีต่อมาอยอู่ พาร์ตเมนต์”
ถึึงกระนั้นคุณนกน้อยก็ยังบอกเราว่าชอบ Tufts มากกกก ทน่ี เี่ ธอไดเ้ ปน็ ประธาน Tufts Thai Association และเป็นสมาชิก History Club ด้วย สำหรับ Tufts
Thai Association คุณนกน้อยจะได้ทุนจากทาง มหาวิทยาลัยเป็นประจำทุกเทอม เพื่อนำมาจัดงาน Thai Night, Thai Dye และงานอื่นๆ รวม 6 งานต่อปี
“เราจัดงานสงกรานต์ งาน Paint Night ทำ เพนต์บาร์ให้คนมาน่ังเพนต์ลายไทยช่วงสอบ เพื่อให้ นักเรียนไทยใน Tufts ซึ่งมี 18 คนรวมทุกชั้นปีสนิท สนมกนั รนุ่ นกนอ้ ยมแี คน่ กนอ้ ยเพยี งคนเดยี วนอ้ ยกวา่ มหาวทิ ยาลยั อนื่ ในบอสตนั เวลาวา่ งยงิ่ ชว่ งหนา้ หนาว นกน้อยจะชอบทำอาหาร เพราะไม่อยากออกไปข้าง นอกมันหนาว ก็เลยทำอาหารที่บ้าน แล้วชวนเพื่อนๆ มากิน นกน้อยทำได้หมดค่ะ ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย ฝึรงั่ เกาหลี พวกข้าวผัดกิมจิ ไข่เจียว พาสต้า สเต๊ก”
“ตรงกันข้ามกับนกเลยค่ะ” คุณแม่นกพูดถึึงข้อ แตกต่าง “นกไม่ใช่คนโซเชียลเก่ง เราแม่ลูกมีอะไร เหมือนกันเยอะมาก แต่ก็ตรงข้ามกันแบบคนละขั้ว อยู่หลายอย่างเลย นกไม่ทำอาหาร นกน้อยชอบทำ อาหาร และนกน้อยเขาจะโซเชียลกว่า ชอบให้คนมา บ้าน อาหารที่เขาทำก็เป็นแบบง่ายๆ มีอะไรในตู้เย็น ก็เอามาทำ ไม่ต้องประดิดประดอยมาก แต่ว่าอร่อย”
Tufts สำหรับคุณนกและคุณนกน้อยแล้ว เปรียบ ได้กับ Miss Porter’s School ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมา หน่อย เพราะทั้งครูกับนักเรียนต่างก็สนิทสนมคุ้นเคย กัน อย่างครูที่ปรึกษาของคุณนกน้อยนั้นก็จะอีเมล หาลูกศิษย์ตลอดเวลา แสดงให้เห็นถึึงความใส่ใจที่ มหาวิทยาลัยแห่งอนื่ ๆ ที่ใหญ่กว่าไม่สามารถึทำได้
“นกกลับไปตอนส่งนกน้อยเข้าเรียน แล้วรู้สึกว่า ทางมหาวิทยาลัยพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่ม มากขึ้น มีตึกใหม่ มีคอร์สที่หลากหลายขึ้น ครูก็มี ประสบการณ์มากขึ้น แล้ว Tufts เป็นมหาวิทยาลัยที่
ศิษย์เก่าเหนียวแน่นดีมาก ไม่ต่างจาก Miss Porter’s School เลย”
สำหรบั การเรยี นการสอนในยคุ คณุ นกนอ้ ย นั้น ทางมหาวิทยาลัยยังเชิญท่ีปรึกษาเรื่อง นวิ เคลยี รป์ ระจำทำเนยี บขาวมาพดู ใหน้ กั เรยี น ฟัง และยังอนุญาตให้นักเรียนสามารถึเลือก ลงเรียนวิชาศิลปะ 2 คลาส ซึ่งเธอเลือกเรียน Ancient Egypt กับโปรเฟสเซอร์ที่เป็นนัก วิชาการชั้นแนวหน้าของการศึกษาพีระมิด อีกด้วย “เหมือนทางมหาวิทยาลัยอยากให้ นักเรียนได้เปิดหูเปิดตาเจออะไรใหม่ๆ ก็เลย ให้เลือกเรียนศิลปะ 2 คลาสด้วยกัน”
ปลายปีนี้คุณนกน้อยกำลังจะจบจาก Tufts หลังจากทำธีสิสเก่ียวกับสงครามเย็น “ด้วยความที่นกน้อยเรียนดับเบ้ิลเมเจอร์ทาง IR และประวัติศาสตร์ ก็เลยสามารถึทำธีสิสที่ เกี่ยวเนอื่ งกันได้ IR ก็เกี่ยวกับสหภาพโซเวียต และประวัติศาสตร์ก็เกี่ยวกับยุโรป ไม่เหมือน ยุคคุณแม่ซงึ่ เรียนเศรษฐศาสตร์”
ขณะนี้คุณนกน้อยกำลังฝึึกงานอยู่กับ คุณพ่อ (โชน โสภณพนิช) ที่กรุงเทพประกัน ชวี ติ ซงึ่ เปน็ ธรุ กจิ ของครอบครวั “นกนอ้ ยอยาก ทำงานกอ่ นคะ่ เพราะนกนอ้ ยมองวา่ การเรยี น ปริญญาตรีคือการเรียนอะไรท่ีชอบ นกน้อย ชอบประวัติศาสตร์ก็เลยเรียนทางน้ัน แต่การ เรียนปริญญาโทเราควรเลือกเรียนวิชาที่มี ประโยชน์ต่อการทำงานมากกว่า ก็ต้องดูก่อน ว่านกน้อยชอบงานอะไร ถึึงค่อยเรียนต่อค่ะ”
แลว้ จะหนั ไปเรยี นทอ่ี งั กฤษไหมคณุ แมน่ ก ให้คำตอบแก่ HELLO! Education ว่า “จริงๆ สามีนกเป็นนักเรียนอังกฤษตั้งแต่เล็กจนโต เลยค่ะ เราก็เลยมีความรู้สึกว่า ในอนาคต นกน้อยอาจจะไปเรียนปริญญาโทท่ีอังกฤษ ก็ได้ เพื่อให้เขาได้มีประสบการณ์ท่ีนั่นบ้าง แต่ด้วยอุปนิสัยเขาและความเคยชินของเรา เพราะนกโตและชินกับอเมริกา แล้วยังพอมี เพื่อนมีญาติอยู่ที่นั่น เราจะรู้สึกว่าอเมริกา เปดิ กวา้ งและไดเ้ รยี นรอู้ ะไรใหมก่ วา่ ทอ่ี งั กฤษ”
HELLO! Education ยังถึามคุณนกน้อย วา่ ถึา้ หากในอนาคตเธอมลี กู จะยงั ใหล้ กู เรยี น สถึาบนั เดยี วกนั กบั เธออกี หรอื ไม่ คณุ นกนอ้ ย ตอบวา่
“นกน้อยยังไม่มีครอบครัว เลยไม่รู้ว่าจะ เป็นยังไง แต่คิดว่าการเรียนโรงเรียนประจำ ต้องเป็นสิ่งที่เด็กเลือกไปเอง ถึ้าแม่บังคับ เขา จะไมช่ อบแลว้ กแ็ อนต้ีทำใหไ้ มส่ ามารถึซมึ ซบั สิ่งที่โรงเรียนประจำให้ได้ ก็เลยต้องดูก่อนว่า ลูกเป็นยังไง แต่ถึ้าเป็นลูกสาวนกน้อยก็อยาก สง่ ไป Miss Porter’s School คะ่ เพราะนกนอ้ ย รู้สึกว่าได้สิ่งดีๆ เยอะมาก ส่วน Tufts ถึ้าเป็น ลูกชายก็สามารถึเรียนได้ค่ะ”
‘กำรเขึ้้ำมหำวิที่ยำลัยเป็นชิ่วงเวลำ ที่ี¬ที่งั เครียดีกับกำรรอคอย ที่ัง เศร้ำถ้้ำถู้กปฏิิเสธ และดีีใจำที่ี¬ไดี้รับ กำรต่อบรับ แล้วไม่ใชิ่แค่นกน้อย คนเดีียว เพ่อนหลำยคนขึ้อง นกน้อยก็คิดีแบบนีเหมือนกัน’ คุุณนกน้อย