ฟิลลิป คริเดลก้าและมาดามปาสกาล ฟาบร์ เปิดทำเนียบเอกอัครราชทูตเบลเยียมที่สวยที่สุดในโลก ร่วมสานสัมพันธ์ 150 ปี ไทย-เบลเยียม
ร่วมสานสัมพันธ์ 150 ปีไทย-เบลเยียม
ภายในซอยพพิ ฒั นย์ า่ นสลี ม-สาทรมรี ว้ั ใหญส่ คี รมี ทเ่ี ปน็ ดง่ั ปราการลอ้ มรอบปา่ กลางกรงุ ดา้ นหนา้ ประตตู ดิ ตราสญั ลกั ษณป์ ระเทศเบลเยยี มเอาไว้ และ เมอ่ื ผา่ นประตรู ว้ั เขา้ ไปกพ็ บกบั แมกไมเ้ ขยี วครม้ึ กอ่ น จะคอ่ ยๆ เผยใหเ้ หน็ ตวั อาคารสไตลโ์ คโลเนยี ลขนาด สองชั้นในมุมมองที่น่าสนใจ อันเป็นแนวทางการ วางตวั เรอื นของบา้ นยคุ รชั กาลท่ี 6 ตวั เรอื นมรี ปู ทรง สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่วางด้านยาวรับลมประจำฤดู และ วางด้านแคบรับแดดในทิศตะวันออกและตะวันตก สะทอ้ นถงึ ความเขา้ ใจในการออกแบบอาคารในเขต รอ้ นชน้ื ของสถาปนกิ
ดา้ นหนา้ อาคารเปน็ บอ่ นำ้ รปู วงกลมขนาดใหญใ่ ช้ สำหรบั เปน็ ทว่ี นรถรบั สง่ หนา้ ประตบู า้ น ซง่ึ มนี ำ้ พเุ ลก็ ๆ ตรงกลางและปลูกพันธุ์ไม้น้ำเอาไว้ โดยมีสวนและ สนามหญ้าอันเขียวสะพรั่งเต็มไปด้วยต้นไม้ไทย
หอ้ มลอ้ ม ทผ่ี พู้ ำนกั คอื ทา่ นเอกอคั รราชทตู ราชอาณาจกั ร เบลเยยี มประจำประเทศไทย ฟลิ ลปิ ครเิ ดลกา้ เปน็ ผปู้ ลกู
“ผมเปน็ ลกู คา้ ประจำของจตจุ กั ร มกั จะไปซอ้ื ตน้ ไมท้ ่ี ตลาดนดั สวนจตจุ กั รทกุ วนั พธุ และวนั พฤหสั บด”ี ทา่ นทตู กลา่ วระหวา่ งทพ่ี าเราเดนิ ชมสวนทม่ี คี วามสวยงาม จาก ความขยนั ปลกู และทำสวนของทา่ นทช่ี อบใชเ้ วลาวา่ งใน สวนแหง่ น้ี
“ผมไปเที่ยวอยุธยา แล้วเห็นต้นปี๊บออกดอกสวย มาก กก็ ลบั ไปหาซอ้ื ตน้ ปบ๊ี ทส่ี วนจตจุ กั ร เพอ่ื มาปลกู ทน่ี ่ี ดอกปี๊บหอมมากทีเดียว” เราแก้ให้ท่านว่าดอกปีบ ไมใ่ ชด่ อกปบ๊ี คราวนท้ี า่ นออกเสยี งไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ทา่ น เก็บดอกปีบสีขาวขึ้นมาส่งให้เราดอมดมกลิ่นหอมเย็น พลางชี้ชวนให้เราดูต้นไม้แต่ละต้นซึ่งมีป้ายกำกับเป็น ภาษาไทย อนั เปน็ ผลงานของ ผศ.ปารณ ชาตกลุ ภาค วชิ าภมู สิ ถาปตั ยกรรม คณะสถาปตั ยกรรมศาสตร์ จฬุ า ลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั และนสิ ติ ทท่ี า่ นทตู ขอความชว่ ย เหลือจากทางคณะให้ช่วยค้นคว้าหลักฐานทางประวัติ ศาสตร์ เพอ่ื จดั ทำเปน็ ขอ้ มลู ความรเู้ มอ่ื ครง้ั เปดิ บา้ นหลงั นใ้ี หผ้ สู้ นใจเขา้ ชมฟรเี มอ่ื เดอื นกนั ยายนทผ่ี า่ นมา
สวนแห่งนี้ยังคงลักษณะของสวนในบ้านผู้มีฐานะ ในย่านบางรักสมัยรัชกาลที่ 6 ไว้ได้ใกล้เคียง ไม่ว่าจะ เป็นการทำถนนวนเทียบรถหน้าเรือนใหญ่ การปลูก ต้นปาล์มเป็นแถวตามแนวถนน การปลูกต้นจามจุรี เพื่อให้ร่มเงาตามแนวรั้วบ้าน เดิมพันธุ์ไม้เหล่านี้เป็น พันธุ์ไม้จากต่างประเทศที่เป็นที่นิยมปลูกในสยามยุค กลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 ทว่าก็ยังมีพันธุ์ไม้พื้นเมือง จำนวนมากในบริเวณเรือนบริวารด้านหลัง
“ผมภมู ใิ จกบั สวนนม้ี าก และเราถงึ กบั จดั ทวั รช์ มสวน ในธมี ‘50 ดอกไมไ้ ทยทค่ี ณุ อาจไดช้ ม’ ดว้ ย และนก่ี ค็ อื สว่ นหนง่ึ ของคลองทย่ี งั คงมอี ย”ู่ คลองทท่ี า่ นทตู ชใ้ี หเ้ ราดู ลักษณะเหมือนบ่อน้ำมากกว่า มีปลาคาร์พสีทองว่าย เวยี นใหเ้ หน็ เพยี งตวั เดยี ว ไมแ่ นใ่ จวา่ มปี ลาอยอู่ กี หรอื ไม่ คลองนใ้ี นอดตี เหมอื นเปน็ รอ่ งสวนเชอ่ื มคลองชอ่ งนนทรี ทำหนา้ ทเ่ี สมอื นหลกั เขตในการแบง่ แปลงทด่ี นิ และเพอ่ื ปอ้ งกนั นำ้ ทว่ มในฤดฝู น และเกบ็ นำ้ ไวใ้ ชใ้ นฤดแู ลง้ ซง่ึ มา วนั นย้ี งั เหลอื รอดจากการถกู ถม
“ตอนทม่ี ะมว่ งออกลกู ฉนั ดใี จมาก เพราะคดิ วา่ จะได้ รับประทาน แต่ปรากฏว่าไม่ทันกระรอก ไม่ว่าจะเป็น กล้วยหรือมะม่วง ถูกกระรอกเจาะกินหมด” มาดาม ปาสกาล ฟาบร์ ภรยิ าทา่ นทตู ซง่ึ ขณะเดยี วกนั ยงั เปน็ ผู้อำนวยการสมาคมฝรั่งเศสประจำประเทศไทยด้วย พดู ตดิ ตลกเมอ่ื เหน็ กระรอกไตก่ ง่ิ ไมอ้ ยา่ งสำราญใจ
ท่านทูตชี้ให้เราดูต้นโกโก้กับต้นอบเชย ซึ่งนักธุรกิจ เบลเยยี มทม่ี ภี รรยาชาวไทยกำลงั พยายามปลกู ตน้ โกโก้ ขน้ึ ในไทย เพอ่ื ใชผ้ ลติ ชอ็ คโกแลตในไทย เราจะไดม้ ี
‘ผมภูมิใจกับสวนนี้มาก และเราถึงกับจัดทัวร์ ชมสวนในธีม ‘50 ดอกไม้ ไทยที่คุณ อาจได้ชม’ ด้วย”
ช็อคโกแลตไทยกับเขาบ้าง เพราะในตอนนี้ก็มี ชอ็ คโกแลตเวยี ดนามและอนิ โดนเี ซยี แลว้
ใกล้กันนั้นยังมีรูปปั้นชาวต่างชาติผู้หนึ่งให้คน ไทยอย่างเรารู้สึกสงสัยว่าท่านผู้นี้เป็นใคร เพราะดู ภูมิฐานน่าเกรงขาม ท่านทูตไขข้อสงสัยของเราว่า ท่านผู้นี้ก็คือกุสตาฟว์ โรลัง-ยัคมินส์ ซึ่งเป็นนัก กฎหมาย นักการทูต และอดีตรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงมหาดไทยของเบลเยียม อีกทั้งยังเป็นผู้ กอ่ ตง้ั สถาบนั กฎหมายระหวา่ งประเทศทไ่ี ดร้ บั รางวลั โนเบลเมื่อ พ.ศ. 2447 ท่านเคยเข้ารับราชการใน ประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2435 จนถึง พ.ศ. 2444 ใน ฐานะทป่ี รกึ ษาราชการแผน่ ดนิ ทว่ั ไปในสมยั รชั กาลท่ี 5 ท่านได้พัฒนาระบบศาลยุติธรรมของสยาม และ เปน็ ทป่ี รกึ ษาดา้ นการตา่ งประเทศ
“ขณะนั้นประเทศไทยอยู่ในระหว่างการล่า อาณานคิ มขององั กฤษ ฝรง่ั เศส และประเทศอน่ื ใน ยุโรป ท่านได้เข้ามาทำหน้าที่เจรจากับฝรั่งเศส จน สุดท้ายไทยเสียอาณาเขตเพียงบางส่วน เขาได้รับ พระราชทานยศเปน็ เจา้ พระยาอภยั ราชาสยามานกุ ลู กิจ ซึ่งเป็นชาวต่างชาติคนแรกในยุครัตนโกสินทร์ที่ ไดร้ บั พระราชทานยศสงู สดุ เทยี บชน้ั เสนาบดี
“ท่านกับครอบครัวอาศัยอยู่ในเมืองไทยเป็น เวลานาน จากนั้นจึงกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายที่แดน
‘ท่านได้เข้ามาทำหน้าที่เจรจากับฝรั่งเศส จนสุดท้ายไทย เสียอาณาเขตเพียงบางส่วน และได้รับพระราชทานยศ เป็นเจ้าพระยาอภัยราชาสยามานุกูลกิจ’
มาตุภูมิ แต่จิตใจท่านยังอยู่ที่ประเทศไทย ลูกหลาน ของท่านส่วนหนึ่งทำอุตสาหกรรมเบียร์์ที่ใหญ่ที่สุดใน โลก เคานตเ์ จอร่ี (เคานตเ์ จรลั ด์ แวน เดอ สตราเทน พอนโธส) กเ็ ปน็ ลกู หลานของทา่ นทม่ี าอาศยั อยทู่ เ่ี มอื ง ไทย ทั้งเคานต์เจอรี่และมูลนิธิเจ้าพระยาอภัยราชาฯ ชว่ ยผมไดม้ ากในการเผยแพรว่ ฒั นธรรมเบลเยยี ม”
ทำเนียบเอกอัครราชทูตเบลเยียมได้รับมอบรูปปั้น ของทา่ นจากมลู นธิ เิ จา้ พระยาอภยั ราชาฯ โดยทส่ี มเดจ็ พระราธิบดีและสมเด็จพระราชินีแห่งเบลเยียมรัชกาล ปจั จบุ นั ไดเ้ สดจ็ ฯ มาทรงทำพธิ เี ปดิ เมอ่ื พ.ศ. 2556
บา้ นเลขที่ 44 ซอยพพิ ฒั น์
แมจ้ ะผา่ นกาลเวลามากวา่ รอ้ ยปี แตต่ วั อาคารยงั คง สภาพสมบูรณ์หลังได้รับการบูรณะครั้งใหญ่เมื่อเกือบ สบิ ปกี อ่ น ใหเ้ หมอื นเมอ่ื ครง้ั แรกสรา้ ง จนไดร้ บั รางวลั อาคารอนรุ กั ษด์ เี ดน่ จากสมาคมสถาปนกิ สยาม ในพระ บรมราชปู ถมั ป์ เมอ่ื พ.ศ. 2537
บ้านเลขที่ 44 หลังนี้จึงคล้ายเป็นมรดกแห่งกาล เวลาที่รำลึกถึงเมื่อครั้งที่ชาวเบลเยียมแรกเข้ามาใช้ ชีวิตในพระนคร โดยที่นางนวม โทณวณิก คหปตานี ที่ได้ซื้อที่ดินในซอยนี้และได้สร้างบ้านขึ้นหลังหนึ่ง โดยใหน้ ายอตั ตลิ โิ อ เฟอรเ์ รโร สถาปนกิ ชาวอติ าเลยี น ประจำกรมพระคลังข้างที่เป็นผู้ออกแบบ หลังจาก สร้างเสร็จแล้วได้ขายให้กับนายหลุย ดูปลาตร์ ที่ ปรึกษากฎหมายชาวฝรั่งเศสในกระทรวงยุติธรรม
ต่อมานายมาร์เซล โปแลง อัครราชทูตเบลเยียม ประจำประเทศสยามในขณะนั้น ได้ขอเช่าบ้านหลังนี้ จากนายดูปลาตร์ เพื่อใช้เป็นสถานทูตและทำเนียบ ภายหลังรัฐบาลเบลเยียมได้ซื้อบ้านหลังนี้พร้อมที่ดิน จากนายดูปลาตร์เป็นเงิน 1,116,000 ฟรังก์เบลเยียม เมื่อ พ.ศ. 2478
โถงทางเขา้ ชน้ั ลา่ งของตวั บา้ นเผยใหเ้ หน็ บนั ไดทน่ี ำ ขน้ึ สชู่ น้ั บน ดา้ นซา้ ยมอื เปน็ หอ้ งรบั แขกขนาดใหญท่ ม่ี ี เฟอรน์ เิ จอรว์ างเรยี งรายโดยมตี โู้ ชวเ์ ครอ่ื งใชเ้ ซรามกิ จาก อิหร่าน เครื่องเงินที่ท่านทตู ซื้อจากตลาดในกรุงคาบุล ประเทศอฟั กานสิ ถาน พรมจากอหิ รา่ น รวมทง้ั ภาพวาด อันเป็นของสะสมของท่านทูตและมาดามปาสกาล ฟาบร์ เมอ่ื ครง้ั ทท่ี า่ นเดนิ ทางไปดำรงตำแหนง่ เอกอคั ร ราชทตู ตามประเทศตา่ งๆ
ท่านบอกกับเราว่า “ผมเป็นชาวยุโรปคนแรกที่ไป อัฟกานิสถานต่อจากอเมริกา เนื่องจากรัฐมนตรีหญิง เบลเยียมต้องการรณรงค์ให้ผู้หญิงอัฟกันออกมา แสดงพลังของผู้หญิงมากขึ้น ท่านจึงส่งผมไปปฏิบัติ ภารกิจนั้น จากนั้นท่านก็ไปอัฟกานิสถานเพื่อกระตุ้น ให้ผู้หญิงอัฟกันออกมาทำธุรกิจและทำงานนอกบ้าน มากขึ้น
‘การเป็นทูตช่วยให้ผมรู้จัก ประเทศต่างๆ ในอีกมิติหนึ่ง ในช่วงเวลาที่ ไปประจำอยู่ ที่น่าสนใจคือผมไม่ได้ใช้ชีวิต อยู่แต่ในประเทศเดียว ตลอดกาล’
“การเป็นทูตจึงช่วยให้ผมรู้จัก ประเทศต่างๆ ในอีกมิติหนึ่งในช่วง เวลาทไ่ี ปประจำอยู่ ผมรจู้ กั สงิ คโปรใ์ น ยคุ ปี 2002 โปแลนดป์ ี 1995 อหิ รา่ นปี 1989 และถา้ ผมหมดวาระทน่ี เ่ี ทา่ กบั ผมไดร้ จู้ กั ไทยในยคุ 2018 ทน่ี า่ สนใจ คือผมไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่แต่ในประเทศ เดยี วตลอดกาลเหมอื นคณุ พอ่ คณุ แม่ ผม ซง่ึ เปน็ สง่ิ ทผ่ี มชอบมาก”
บนผนงั หอ้ งรบั แขกภายในทำเนยี บ ทูตหลังนี้ติดโปสเตอร์ให้ความรู้เกร็ด เลก็ เกรด็ นอ้ ยเกย่ี วกบั เบลเยยี ม ไมว่ า่ จะเป็นเครื่องดนตรีอย่างแซกโซโฟน ซง่ึ คดิ คน้ โดยชาวเบลเยยี ม หรอื มนั ฝรง่ั ทอดอยา่ งเฟรนชฟ์ รายส์ ซง่ึ ยงั เปน็ ท่ี โต้เถียงกันว่ามาจากเบลเยียมหรือ ฝรง่ั เศสกนั แน่
“ยุคหนึ่งถึงกับมีสงครามกันเลย ทีเดียวว่า ใครเป็นคนต้นคิดสูตรมัน ฝรง่ั ทอด ระหวา่ งฝรง่ั เศสกบั เบลเยยี ม และคงจะเปน็ เรอ่ื งทต่ี อ้ งถกเถยี งกนั ตอ่ ไปอกี นานกวา่ จะไดข้ อ้ สรปุ แตฉ่ นั วา่ เบลเยยี มฟรายสอ์ รอ่ ยสดุ และฉนั เปน็
‘ยุคหนึ่งถึงกับมีสงครามกันเลยทีเดียวว่า ใครเป็นคนต้นคิดสูตร มันฝรั่งทอด ระหว่างฝรั่งเศสกับเบลเยียม และคงต้องเถียงกัน ไปอีกนาน’
คนฝรง่ั เศส” มาดามบอกกบั เรา
ฟากขวามอื เปน็ หอ้ งรบั ประทานอาหารทป่ี ระดบั พระบรมสาทสิ ลกั ษณก์ ษตั รยิ เ์ บลเยยี ม ทา่ นทตู ผายมอื ไปทางพระบรมสาทสิ ลกั ษณ์ “เมอ่ื หลายสปั ดาหก์ อ่ น เจา้ หญงิ เลอา พระราชนดั ดาในสมเดจ็ พระราชาธบิ ดี โบดวงเสดจ็ มาเยอื นไทย เพอ่ื ฉลองความสมั พนั ธ์ 150 ปี ไทย-เบลเยยี ม ทรงเหน็ เสมริ ฟ์ ในรถไฟฟา้ สะพาน ไทย-เบลเยยี ม และเสดจ็ มาเสวยพระกระยาหารทน่ี ่ี ดว้ ย ใตพ้ ระบรมสาทสิ ลกั ษณข์ องเสดจ็ ป”ู่
ส่วนอีกด้านของห้อง เป็นภาพวาดรูปทุ่งนาสี เหลืองทองฝีแปรงของศิลปินมีชื่อชาวเวียดนาม มาดามบอกเราวา่ “ปกตภิ าพวาดสว่ นใหญท่ เ่ี ราซอ้ื จะเกบ็ ไวใ้ นโกดงั เพราะเกรงวา่ สภาพภมู อิ ากาศจะ ทำให้ภาพวาดเสีย แต่ภาพนี้ติดตามเราไปทุกหน ทกุ แหง่ (หวั เราะเบาๆ) เปน็ ภาพทฉ่ี นั ชอบมาก
“ถา้ เหน็ แวบแรกคนจะนกึ วา่ ภาพแอบ็ แสตรกต์ แต่ พอเขา้ ไปดใู กลๆ้ จะรวู้ า่ เปน็ ภาพทงุ่ นา ฉนั ไดภ้ าพนม้ี า ตอนฉนั เปน็ ผอู้ ำนวยการสมาคมฝรง่ั เศสทส่ี งิ คโปร์ มี ผู้หญิงเวียดนามคนหนึ่งมาพบเราบอกว่าอยากจัด นิทรรศการศิลปะ เธอคนนี้มีประวัติที่น่าสนใจมาก เธอเป็นลูกสาวของผู้อำนวยการโรงเรียนไฮสคูลที่ ดาลัดของเวียดนามในยุคอาณานิคม หลังจาก สงครามโลกครง้ั ท่ี 2 เธออายุ 16 และหนเี ขา้ ปา่ ไป
ร่วมรบกับโฮจิมินห์เพื่อขับไล่เจ้าอาณานิคมจนฝรั่งเศส ออกไป จากนน้ั เธอสกู้ บั อเมรกิ นั แตพ่ อถงึ จดุ หนง่ึ เธอไม่ เหน็ ดว้ ยกบั โฮจมิ นิ ห์ เพราะรสู้ กึ วา่ เขาเปน็ เผดจ็ การ กเ็ ลย แยกตวั ออกมาและถกู กกั ตวั ไวใ้ นบา้ นหลายครง้ั
“กระทั่งปี 1990 เวียดนามเริ่มเปิดประเทศ ด้วย ความที่ชอบศิลปะ เธอจึงไปติดต่อศิลปินเวียดนามที่ เคยเรียนโรงเรียนศิลปะของฝรั่งเศส หรือเรียนจากครูที่ จบโรงเรียนศิลปะของฝรั่งเศส และเซ็นสัญญากับพวก เขาโดยให้ค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนแลกกับผลงาน ทั้งหมด เธอจึงเป็นคนเดียวที่มีคอลเลกชั่นรูปของ ศิลปินมีชื่อทั้งหมดของเวียดนาม”
“แขกของเราชอบภาพนี้ทุกคน เพราะสีสันสดใส” ท่านทูตพูดพร้อมกับยิ้มกว้าง ก่อนจะกล่าวต่อว่า “เชิง เทียนนี้ได้จากอิหร่าน ประเทศแรกที่ผมไปประจำอยู่ หลังจากสงครามอิหร่าน-อิรักสงบลง เป็นรูปสัตว์ สัญลักษณ์ของจักรพรรดิอาณาจักรเปอร์เซียโบราณ และนี่ก็คือช้างศิลาดล ซึ่งผมซื้อจากสุโขทัย เราสอง คนชอบที่พวกเขายังคงใช้กระบวนการผลิตเหมือนที่ เคยทำมาตั้งแต่เมื่อ 500 ปีก่อน
“และนค่ี อื พระบรมฉายาลกั ษณส์ มเดจ็ พระราชาธบิ ดี และสมเดจ็ พระราชนิ แี หง่ เบลเยยี มรชั กาลปจั จบุ นั กอ่ นท่ี ผมจะมาประจำที่นี่ผมได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีที่ พระราชวงั ในกรงุ บรสั เซลส์ ผมเคยถวายงานทา่ นและรสู้ กึ ชน่ื ชมทา่ นมาก ทรงเฉลยี วฉลาด ทรงงานหนกั และมนี ำ้ พระราชหฤทยั งดงาม”
ทา่ นทตู เชอ้ื เชญิ ใหเ้ ราทานชอ็ กโกแลตทท่ี า่ นซอ้ื จาก เบลเยยี มแกลม้ กาแฟเบลเยยี มหอมฉยุ นอกจากจะชอบ ทำสวนแลว้ ทา่ นทตู ยงั ชอบทำอาหาร และเพง่ิ จะนำกงุ้ ทะเลเหนอื สดใหมม่ าเมอื งไทยดว้ ย โดยทา่ นวางแผนวา่ คำ่ นน้ั จะทำโครเกตก์ งุ้ สดรบั ประทานอนั เปน็ เมนพู น้ื เมอื ง ของเบลเยยี มใหม้ าดามรบั ประทาน คกู่ บั เบยี รโ์ รเซย่ ห่ี อ้ Hoegaarden ทเ่ี ปน็ เบยี รด์ งั ของเบลเยยี ม ซง่ึ เหมาะเปน็ เครอ่ื งดม่ื เบาๆ ในยามบา่ ยสำหรบั สภุ าพสตรี
ทำเนยี บทตู เบลเยยี มทส่ี วยทสี่ ดุ ในโลก
ตลอดระยะเวลานบั 100 ปขี องบา้ นหลงั น้ี แนน่ อนวา่ ต้องผ่านพ้นเหตุการณ์ต่างๆ ทั้งดีร้ายมาแล้วมากมาย ทา่ นทตู ผอู้ ารบี อกเราวา่ “ตอนทท่ี มี งานรายการโทรทศั น์ ของเบลเยียมมาถ่ายรายการที่เมืองไทย เขาบอกว่า ทำเนยี บทตู เบลเยยี มประจำประเทศไทยเปน็ ทำเนยี บทตู เบลเยยี มทส่ี วยทส่ี ดุ ในโลก ซง่ึ ทำใหผ้ มภมู ใิ จมาก”
นน่ั เพราะหลงั จากผา่ นการบรู ณะแลว้ ทำเนยี บทตู ก็ กลับมาสวยเหมือนใหม่ ช่องลมที่เป็นไม้สลักลายดู แปลกตาเปน็ ลวดลายผสมผสานระหวา่ งฝรง่ั ผสมจนี ทด่ี เรยี บแตห่ รู นอกจากนท้ี น่ี ย่ี งั คงบนั ไดบา่ วเอาไว้ ซง่ึ เปน็ บนั ไดเลก็ ๆ ทส่ี ามารถขน้ึ ไปถงึ หอ้ งใตห้ ลงั คา ซอ่ นอยทู่ าง ด้านหลังตัวบ้านสำหรับคนรับใช้โดยเฉพาะ อันเป็น ธรรมเนยี มทม่ี มี าแตโ่ บราณ
กอ่ นทท่ี า่ นทตู จะมารบั ตำแหนง่ ทน่ี ่ี ทา่ นทตู คนกอ่ นได้ เทปนู รอบบา้ นเพอ่ื ปอ้ งกนั นำ้ ทว่ ม แตด่ ว้ ยความทป่ี นู ไป กน้ั ชอ่ งระบายอากาศทใ่ี ตถ้ นุ ทำใหพ้ น้ื ไมช้ น้ั ลา่ งทง้ั ชน้ื และผุ “ทา่ นทตู ทา่ นนน้ั จดั งานเลย้ี งทท่ี ำเนยี บทตู แลว้ ปรากฏวา่ มแี ขกคนหนง่ึ รว่ งลงไปเลย พน้ื พงั เปน็ รู จากนน้ั กเ็ ลยรอ้ื พน้ื ทง้ั หมดออกแลว้ ใสค่ านเหลก็ เสรมิ ทบุ ปนู ทก่ี น้ั ชอ่ งระบายอากาศออกเพอ่ื จะไดร้ ะบายความชน้ื แลว้ ปู พน้ื ใหม่ และตอนนม้ี นั แขง็ แรงดแี ลว้ ” ทา่ นทตู พดู เหมอื น จะเดาใจเราออก เมอ่ื เหน็ เรารบี กม้ ลงมองพน้ื ใตเ้ ทา้ ตวั เอง
และเมอ่ื วนั ท่ี 15 เดอื นกนั ยายน พ.ศ. 2561 ทา่ นทตู ได้ เปดิ บา้ นใหส้ าธารณชนเขา้ ชม ซง่ึ วนั ดงั กลา่ วเปน็ วนั ทท่ี กุ ประเทศในทวปี ยโุ รปกำหนดใหเ้ ปน็ Monument Day
“เรากเ็ ลยตดั สนิ ใจทจ่ี ะเปดิ ทำเนยี บทตู ของเรา และ เราได้ ดร.ชมชน ฟสู นิ ไพบลู ย์ และอาจารยท์ า่ นอน่ื กบั ลกู ศษิ ยช์ ว่ ยคน้ ประวตั คิ วามเปน็ มาของอาคารหลงั น้ี และ
‘ผมได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชินีเบลเยียมที่ กรุงบรัสเซลส์ ผมเคยถวายงานท่านและรู้สึก ชื่นชมท่านมาก ทรงเฉลียวฉลาด ทรงงานหนัก และมีน้ำพระราชหฤทัยงดงาม’
จดั ทำทวั รช์ มทำเนยี บทตู โดยมนี สิ ติ นำชม เราภมู ใิ จ ในผลงานของพวกท่านมาก และบ้านหลังนี้นับเป็น เครื่องช่วยเผยแพร่วัฒนธรรมเบลเยียมที่ดีเลิศ” ทา่ นทตู กลา่ ว
ความพเิ ศษอกี อยา่ งของบา้ นหลงั นค้ี อื เปน็ บา้ น สไตล์ฝรั่งที่สถาปนิกออกแบบให้รับกับสภาพภูมิ อากาศรอ้ นชน้ื ของไทย เจาะหนา้ ตา่ งเปน็ จำนวนมาก และมเี พดานสงู โดยวางแปลนบา้ นใหส้ อดคลอ้ งกบั การเคลอ่ื นทข่ี องดวงอาทติ ย์ แมว้ า่ จะมบี า้ นรปู แบบน้ี อกี หลายหลงั ในกรงุ เทพฯ แตไ่ มม่ หี ลงั ไหนทเ่ี หมอื นทน่ี ่ี
กอ่ นจากกนั เราถามทา่ นทตู วา่ เคลด็ ลบั การเปน็ ทตู ทด่ี อี ยตู่ รงไหน ทา่ นตอบอยา่ งไมล่ งั เลเลยวา่
“คณุ ตอ้ งรกั ประเทศทค่ี ณุ ไปประจำอยู่ สำหรบั ผม ซง่ึ ประจำทพ่ี มา่ ลาว และกมั พชู าดว้ ย ผมรกั ไทยและ กมั พชู าทส่ี ดุ เพราะตา่ งกม็ ภี มู ปิ ระเทศสวยงาม ลา่ สดุ ผมกบั ภรรยาเพง่ิ ไปสโุ ขทยั มา เราชอบทน่ี น่ั มาก ถา้ ผม มเี วลาอกี กจ็ ะไปเทย่ี วอทุ ยานแหง่ ชาตขิ องไทยใหม้ าก กวา่ นด้ี ว้ ย”
ทา่ นทตู อำลาพวกเรากอ่ นจะไปเตรยี มทำโครเกต์ กุ้งเป็นมื้อพิเศษให้กับตนเองและมาดาม เมื่อนึกถึง คำพดู เมอ่ื ครูู่่ ทา่ นชนะใจชาวไทยคนนไ้ี ปแลว้ ละ