Hello! (Thailand)

กินอยู่กับหมีกริซซ์ลีที่ KAMCHATKA

- เรื่องและภาพ: สิรินดา กรรณสูต

เราใช้เวลานานพอดูกับการนั่งเครื่องเปลี่ยนเครื่อง อยู่หลายทอด จากกรุงเทพฯ ไปปูซาน จากปูซาน ไปวลาดิวอสตอก จากวลาดิวอสตอกไปถึงสนามบิน เพโทรพาฟลอ­ฟสก์ของคาบสมุทรคัมชัตกา แล้วนั่ง เฮลิคอปเตอร์เพื่อไปยังเกาะคูริล ที่อยู่ในคาบสมุทร คัมชัตกา แถบตะวันออกไกลของ­รัสเซีย อันเป็นแหล่ง อาศยั ของหมกี รซิ ซล์ ี เปา้ หมายของเรา­ในครง้ั นค้ี อื การไปดู ภารกจิ ประจำปขี องฝงู หมที จ่ี ะมเี ฉพาะชว่ งเดอื นกรกฎาคม ถงึ เดอื นสงิ หาคม กบั การดกั รอจบั ปลาแซลมอนน­บั ลา้ นตวั ที่จะขึ้นมาวางไข่บริเวณปากแม่น้ำบนเกาะนั้น

ต้องขอบคุณความช่างสรรหาของ­พี่คนหนึ่งที่เรามัก รว่ มทรปิ ดว้ ยกนั เปน็ ประจำ หลายครง้ั ทก่ี ารจดั ทรปิ ของเขา พาให้เราได้มีประสบการณ์แปลกใหม่ในหลายๆ ที่ และ ต้องมีอะไรให้เราออกแรงอ­ยู่เสมอ เช่น การไปนอนบน บ้านต้นไม้ที่ต้องเดินป่าปีนเขาขึ้นไป หรือการพายคายัก นบั สบิ กโิ ลเมตรผา่ นเขา้ ไปในถำ้ เพอ่ื ไปนอนแคมปก์ ลางปา่ การเที่ยวที่ไม่มีอะไรสำเร็จรูปนี่เองที่กลายเป็นสิ่งยั่วใจ ทุกครั้งในการออกท­ริป เมื่อเขาออกปาก­ชวนว่าไปดูหมีที่ รัสเซียกันไหม เราจึงตกปากรับคำไปในทันทีเพราะเชื่อว่า ต้องมีอะไรเด็ดๆ รอเราอยู่ที่รัสเซียแน่ๆ

เมื่อไปถึงคัมชัตกา เรายังไม่ได้ตรงไปที่เกาะคูริล ซึ่งเราพากันเรียกอย่างง่ายๆ สั้นๆ ว่า ‘เกาะหมี’ ในทันที เพราะโปรแก­รมของเรา คือตระเวนสัมผัสธรรมชาติของ คัมชัตกาเป็นการเรียกน้ำย่อยไปก่อน ด้วยนักท่องเที่ยว ทม่ี าในจำนวนนอ้ ยเพราะการเ­ดนิ ทางคอ่ นขา้ งยาก เทย่ี วบนิ ไม่ได้มีทุกวัน และราคาของ­ทัวร์ค่อนข้างแพง เนื่องจาก การเดนิ ทางสว่ นใหญเ่ พอ่ื ไปยงั ทต่ี า่ งๆ ตอ้ งใชเ้ ฮลคิ อปเตอร์ เพราะถนนเข้าไม่ถึง เราจึงได้เห็นนักท่องเที่ยวที่พอจะมี อยู่บ้างนั้นเป็นชาวยุโรปวัยเกษียณ ส่วนคนเอเชียนั้น มนี อ้ ยเตม็ ที อาจดว้ ยเหตนุ ท้ี ท่ี ำใหธ้ รรมชาตขิ องคมั ชตั กายัง ดิบอยู่มาก มีบ่อน้ำร้อนให้เรานอนแช่ตัวอย่างไม่อึกทึก ไดน้ ง่ั เรอื ประมงออกไป­ดวู าฬเพชฌฆาต แมจ้ ะไมม่ โี อกาส เห็นเพราะฝนตก­ลงมาเสียก่อน แต่ก็มีสัตว์ทะเลอื่นๆ ผ่านเข้ามาในสายตา­รวมถึงนกและนาก แถมเขายังจับ หอยเม่นสดๆ จากทะเลมาใ­ห้เราได้ชิมกันด้วย ความตื่นตาตื่นใจเริ่มต้นขึ้น เมื่อเฮลิคอปเตอร์ที่เรา นั่งออกจากคัมชัตกาเพื่อไปยังเกาะคูริลกำลังลดระดับ ลงบนลานจอด บ้านพักของเราเป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ ที่มี 2 ชั้น ชั้นบนมีห้องนอน 2 ห้อง ห้องละ 8 เตียง มีห้องอาบน้ำรวม 1 ห้อง ห้องอาหารรวม 1 ห้อง จัดบริเวณสำหรับแปรงฟันล้างหน้าเอาไว้นอกบ้าน บริเวณบ้านพักมีรั้วไฟฟ้าเตี้ยๆ ที่กำลังไฟไม่ได้สูง แค่ พอให้หมีรู้สึกนิดเดียวเมื่อตัวโดนรั้ว เราจึงเห็นลูกหมี แม่หมีเดินกันป้วนเปี้ยนหรือว่ายน้ำอยู่แถวนั้น แต่ก็ รักษาอาณาเขต­กันดี ไม่มีหมีตัวไหนเข้ามารบกวน ตรงที่พัก ถัดไปไม่ไกลกันมีบ้านหลังเล็กๆ ของคู่สามี ภรรยาที่ดูแลเกาะนี้อยู่ และสองคนนี้เองที่จะเป็นคน นำทางพาเรา­ไปดูหมีในทุกวันที่อยู่บนเกาะนี้เป็น เวลา 3 วนั ซง่ึ เปน็ แพก็ เกจปกตสิ ำหรบั นกั ทอ่ งเทย่ี ว ทุกกรุ๊ป

บ้านที่พักได้ 16 คนนั้นเต็มทุกเตียงตามจำนวน

ที่รับได้ และเป็นเช่นนี้ตลอดสองเดือนที่เกาะหมีเปิดให้ คนเข้ามากินอยู่บนเกาะ ห้องนอนเล็กๆ วางเตียงสองชั้น ติดกันเหลือเพียงช่องทางเดิน พวกเราซึ่งไปด้วยกัน 9 คน ขอพักอยู่ด้วยกันในห้องเดียว ทุกๆ วันของเราจึง ครึกครื้นกันน่าดู

เกือบลืมเล่าไปเสียแล้วว่าทำไมถึงมาเที่ยวที่เกาะนี้ได้ เฉพาะสองเดือนนี้ เหตุก็เนื่องจากว่าเป็นช่วงที่แซลมอน ซ็อกอาย หรือแซลมอนแดง จะว่ายน้ำกลับมาวางไข่ที่ บริเวณปากแม่น้ำคัมชัตกา ซึ่งเป็นไปตามวงจร­ชีวิตของ ปลาแซลมอนที่จะเกิดในน้ำจืด แล้วว่ายออกไปโตใ­นทะเล ก่อนจะว่ายกลับมาวางไข่และตายในต้นน้ำถิ่นกำเนิด แซลมอนชนิดนี้เมื่อกลับมาที่น้ำจืด รูปร่างของมันจะ เปลี่ยนไปโดยปาก­จะมีหงอนขึ้น สีผิวและสีตาเมื่อใกล้ ตายจะเปลี่ยนเป็นสีแดงตามอายุขัย เมื่อวางไข่เสร็จก็จะ ตายไป บริเวณที่เราไปนั้นเป็นจุดที่แซลมอนจะมา­ออกันที่ ปากแม่น้ำเยอะที่สุด เมื่อมีแซลมอนชุกชุมที่สุดจึงกลาย เป็นบริเวณที่หมีกริซซ์ลีมารวมตัวกันเพื่อรอจับแซลมอน กินเป็นอาหารและตุนอาหารเพื่อสร้างไขมันไว้ในร่างกาย ให้มากที่สุด ก่อนจะเข้าช่วงจำศีลในฤดูหนาว

ทุกวันที่เกาะหมี เราจะตื่นขึ้นมา ทำภารกิจส่วนตัวกันโดยไม่เอ้อระเหย เพราะเราต้อง สลับกันใช้ห้องอาบน้ำ กินอาหารเช้าที่แม่ครัวเตรียมไว้ ให้ ก่อนจะออกเดินจากที่พักกับเป้หลังที่บรรจุเสบียง ซึ่งเป็นน้ำและอาหารง่ายๆ อย่างแซนด์วิช พร้อมสัมภาระส่วนตัว พวกเราทั้ง 16 คน ที่พักอยู่ในบ้านหลังเดียวกันจะต้องเดินไป ด้วยกันโดยมีผู้นำทางคือสองสามีภรรยา ประกบหัวแถวและท้ายแถวเพื่อเข้าไปดู หมีในป่า บริเวณใกล้ปากแม่น้ำที่มีหมีกริซซ์ลี อยู่รวมกันเยอะที่สุดเพื่อรอดักจับปลา นั้น จะมีกรงขนาดใหญ่ที่ไม่ได้มีไว้เพื่อ ดักหมี แต่เป็นกรงสำหรับพวกเรา ซึ่ง ต้องเข้าไปอยู่ในนั้นเพื่อดูหมีล่าปลาที่ อยู่ไม่ไกล ในขณะอยู่ในกรงเมื่อมอง ออกมาด้านนอก เหมือนได้ความรู้ ราวกับเรานั่งดูหนังสารคดีที่ไม่ต้อง ผ่านจอและไม่มีการตัดต่อ ทั้งภาพของหมีที่ รอจังหวะที่จะจับปลา หรือปลาแซลมอน­ที่ถูกจับฉีกร่าง จนไข่ในท้องกระจาย หมีบางตัวก็จับปลาเก่ง แต่บางตัว ก็ฝีมือไม่เอาไหน คอยจ้องจะแย่งปลาจากมือหมีที่จับ เก่งกว่า บางตัวก็ทะเลาะกัน บ้างก็เป็นภาพน่ารักๆ ของ แม่หมีกับลูกหมีที่จะตามติดกันเป็นเงาตามตัวตลอด เวลา แม่ก็ต้องคอยจับปลาให้ลูกกิน และจับเฉพาะปลา ที่ยังเป็นๆ เท่านั้น บริเวณปากแม่น้ำที่ปลามาออกันอยู่ นอกจากหมีผู้ล่าก็ยังมีนกกินปลาที่มารอดักจับอาหารใน ช่วงฤดูกาลของความ­อิ่มหนำ ส่วนมนุษย์จะไม่มีสิทธิ์จับ ปลาไปกิน ดังนั้นอาหารมื้อไหนของเรา­ที่เป็นแซลมอน กจ็ ะเปน็ แซลมอนทแ่ี ปรรปู มาแลว้ หรอื ไขป่ ลาทเ่ี ขาเตรยี ม มาเท่านั้น

คนรัสเซียเล่าให้ฟังว่าทุกๆ ปีจะมีอยู่เพียงวันเดียวที่มี ปรากฏการณ์เรียกกันว่า ‘salmon push’ ปลาแซลมอน ซึ่งอออยู่ปากแม่น้ำจะดันทะลักกันเข้าไปที่ต้นน้ำทีเดียว เป็นฝูงใหญ่ ผิดกับทุกวันที่จะค่อยๆ ทยอยเข้าไป เรา โชคดีที่ได้ยืนอยู่ที่นั่นในวันนั้น และเห็นภาพที่น้อยคนจะ ได้เห็น

อาจจะหนึ่งถึงสองชั่วโมงที่เรานั่งดูหมีอยู่ในกรงในทุก วัน จากนั้นคนนำทางจะ­พาเราเดินเข้าป่าไปตามเส้นทาง ที่พวกเขาบุกเบิกเอาไว้เป็นทางเดินเล็กๆ ผ่านทุ่งสีเขียว สามวันก็สามเส้นทาง บางช่วงต้องลุยลำธารข้ามไปอีก ฝั่ง พวกเราจึงต้องอยู่ในชุดที่คล่องตัวกับรองเท้าบู๊ตที่สูง

ถึงต้นขา ระหว่างทางที่เดินไปจะมีหมีกริซซ์ลีให้เราเห็น อยู่เป็นระยะ บ้างก็อยู่ในน้ำ บ้างก็เดินไปมา แต่เมื่อเทียบ กับหมีกริซซ์ลีในแถบแคนาด­าหรืออเมริกาซึ่งมีพฤติกรรม ค่อนข้างก้าวร้าวแล้ว ถือว่าหมีที่นี่ไม่น่ากลัว แถมยังดู อารมณ์ดีเสียด้วยซ้ำ อาจจะเพราะ­ด้วยอาหารการ­กินที่ อุดมสมบูรณ์ ไม่กินปลาแซลมอน­ก็กินผลเบอร์รีในป่า และอยู่กันมาอย่างปลอดภัยเพราะเจ้าหน้าที่ที่นี่จะดูแล หมีเชิงอนุรักษ์ เปิดให้คนเข้ามาเที่ยวแบบจำกัดจำนวน ในช่วงสิบเดือนที่ไม่ได้เปิดให้คนเข้ามาท่องเที่ยว ก็มี การเข้ามาบันทึกการเจริญเติบโตและถ่ายวิดีโอบันทึก พฤติกรรมเอาไว้ หมีจึงค่อนข้างคุ้นชินและเชื่อใจว่าจะไม่ ถูกทำร้าย เมื่อเห็นคนมาก็แค่โผล่หัวขึ้นมามอง แล้วก็กิน อาหารหรือทำอะไรของ­มันต่อโดยไม่ได้สนใจคน

คนนำทางเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนในช่วงแรกๆ ที่เกาะ เปิดให้คนนอกเข้าไป และยังไม่ได้มีการจัดการสำหรับ นักท่องเที่ยว มีชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งเข้ามาเที่ยวเพื่อศึกษา หมีและกางเต็นท์นอนกลางป่าทั้งที่มีคนเตือนแล้วว่า ไม่ให้นอน สุดท้ายแล้วเขาโดนหมีทำร้ายจนเสียชีวิต นับเป็นคนเดียวและครั้งเดียวที่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้น เพราะหลังจากจัดการอย่างเป็นระบบ ก็ไม่มีเรื่องไม่ดี เกิดขึ้นอีก ทุกวันนี้ยังมีป้ายหินที่ทำไว้เพื่อรำลึกถึง เหตุการณ์นั้นอยู่

แม้กิจวัตรทุกวันของเราจะเ­ริ่มต้นด้วยการเข้ากรง เดินป่า และกลับมาเข้ากรงอีกครั้งก่อนเข้าที่พัก แต่ ตลอดสามวันที่เกาะหมีแห่งนั้นไม่น่าเบื่อเลยสักนิด นอกจากตรงป­ากแม่น้ำที่หมีมารวมตัวกัน เมื่อเพื่อนใน กลุ่มเราบินโดรนขึ้นไปดู ภาพที่เห็นคือบนเกาะนี้มีหมีอยู่ เยอะมากและ­กระจายกันอยู่ตามจุดต่างๆ แต่เห็นเราบิน โดรนได้แบบนี้ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำได้อย่างเสรี เพราะทางเก­าะก็ต้องจำกัดจำนวนและเ­ราเองก็ต้องจ่าย ค่าธรรมเนียมในการบินต่อวันด้วย

ครบกำหนดสา­มวันบนเกาะหมี เรายังมีไฮไลต์ของ วันสุดท้ายคือการไปดูภูเขาไฟมุตนอฟสกี ซึ่งเป็นภูเขาไฟ ที่ยังปะทุอยู่ เราไปที่นั่นด้วยเฮลิคอปเตอร์โดยใช้เวลา ราวชั่วโมงเศษ เมื่อไปเห็นแล้วก็ได้แต่คิดว่าคงจะดีหาก ได้มานอนแคมป์บนนี้ แต่เมื่อเวลาไม่พอเราจึงต้องรีบไป รีบกลับในวันเดียว เฮลิคอปเตอร์ไปส่งเรายังจุดที่เขา บอกว่าไม่เคยทำให้ใครมาก่อน แต่เห็นว่าเรามีเวลาน้อย จึงมาส่งยังจุดนี้ เราต้องเดินขึ้นเขาไปอีกนานพอสมคว­ร เพื่อจะไปถึงบริเวณที่เป็นจุดหมาย กลิ่นซัลเฟอร์โชย รุนแรงจนต้องมีผ้าปิดปาก หิมะยังหลงเหลืออยู่บนพื้น ประกอบกบั ควนั ของภเู ขาไฟทล่ี อยอวนอยู่ จงึ เปน็ ทางเดนิ ที่เวิ้งว้างแต่สวยงามเอาเ­รื่อง

หลังจากเทร็กกิ้งบนแนวภูเขาไฟนั้นจนพอใจ ก็เดินลง มาจนถึงจุดที่รถเข้ามาถึง และนั่งรถกลับเข้าเมืองซึ่งใช้ เวลาเกือบ 5 ชั่วโมง ความประทับใจถูกเก็บเอาไว้เป็น ภาพถ่ายและวิดีโอที่พวกเรานำกลับมาตัดต่อเป็นบันทึก การเดินทางสั้นๆ ที่ดูกี่ครั้งก็ยังอดนึกถึงความสนุกสนาน ของวนั เวลาบนเกาะ­ครู ลิ ไมไ่ ด้ แมจ้ ะผา่ นเวลามามาก­กวา่ หนึ่งปีแล้วก็ตาม

 ??  ??
 ??  ??
 ??  ??
 ??  ?? บริเวณปากแม่น้ำคัมชัตกาที่จะมีหมีกริซซ์ลีมาคอยดักจับ ปลาทกี่ ำลงั กลบั มาวางไขใ่ นนำ้ จดื มแี ตป่ ลาเปน็ ๆ เทา่ นนั้ ที่จะเป็นเหยื่อ (ล่าง) เส้นทางที่เราเดินบนแนวภูเขาไฟ มุตนอฟสกี (บนซ้าย) ที่พักบนเกาะคูริล ที่รองรับนักดู หมีได้คราวละ 16 คน พวกเรากินอยู่กันง่ายๆ ก่อนจะ ออกเดินเท้าไปดูหมีทุกวัน (ล่างซ้าย) พาหนะที่รับส่งเรา
ไปยังเกาะนี้ มีเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น
บริเวณปากแม่น้ำคัมชัตกาที่จะมีหมีกริซซ์ลีมาคอยดักจับ ปลาทกี่ ำลงั กลบั มาวางไขใ่ นนำ้ จดื มแี ตป่ ลาเปน็ ๆ เทา่ นนั้ ที่จะเป็นเหยื่อ (ล่าง) เส้นทางที่เราเดินบนแนวภูเขาไฟ มุตนอฟสกี (บนซ้าย) ที่พักบนเกาะคูริล ที่รองรับนักดู หมีได้คราวละ 16 คน พวกเรากินอยู่กันง่ายๆ ก่อนจะ ออกเดินเท้าไปดูหมีทุกวัน (ล่างซ้าย) พาหนะที่รับส่งเรา ไปยังเกาะนี้ มีเพียงทางเลือกเดียวเท่านั้น
 ??  ??
 ??  ??
 ??  ??
 ??  ??
 ??  ?? ไลล่ า่ เพอื่ ตนุ ไวเ้ ปน็ ไขมนั กอ่ นเขา้ ฤดจู ำศลี (ในกรอบ ซา้ ย) แซลมอนที่ใกล้สิ้นอายุขัย สีตัวและสีตาจะกลายเป็นสีแดง (ล่าง) มีเพียงสองเดือนในหนึ่งปีเท่านั้นที่เราจะได้ เห็นภาพเหล่านี้ (บนซ้าย) ด้วยความที่ภูเขาไฟมุตนอฟสกียังเป็นภูเขาไฟที่ปะทุอยู่ เราจึงได้สัมผัสทั้งควันและกลิ่นซัลเฟอร์ที่รุนแรงจนต้องพึ่งผ้าปิดปาก (กลางซ้าย) ใน กรงที่เรายืนดูหมีกริซซ์ลีทุกวัน (ล่างซ้าย) นักล่าแห่งคาบสมุทรคัมชัตกาและปลา แซลมอนแดงที่มาชุมนุมกันอยู่นับล้านตัว
ไลล่ า่ เพอื่ ตนุ ไวเ้ ปน็ ไขมนั กอ่ นเขา้ ฤดจู ำศลี (ในกรอบ ซา้ ย) แซลมอนที่ใกล้สิ้นอายุขัย สีตัวและสีตาจะกลายเป็นสีแดง (ล่าง) มีเพียงสองเดือนในหนึ่งปีเท่านั้นที่เราจะได้ เห็นภาพเหล่านี้ (บนซ้าย) ด้วยความที่ภูเขาไฟมุตนอฟสกียังเป็นภูเขาไฟที่ปะทุอยู่ เราจึงได้สัมผัสทั้งควันและกลิ่นซัลเฟอร์ที่รุนแรงจนต้องพึ่งผ้าปิดปาก (กลางซ้าย) ใน กรงที่เรายืนดูหมีกริซซ์ลีทุกวัน (ล่างซ้าย) นักล่าแห่งคาบสมุทรคัมชัตกาและปลา แซลมอนแดงที่มาชุมนุมกันอยู่นับล้านตัว

Newspapers in Thai

Newspapers from Thailand