ปวริศา เพ็ญชาติ สวยเอ็กโซติก แบบแหวนแหวน
สวยเอ็กโซติกในแบบ แหวนแหวน
แม้จะเติบโตมาในครอบครัวที่มีความเป็นไทย เต็มร้อย คุ้นเคยและเห็นผ้าไทยมาตั้งแต่เด็กๆ ทว่ากว่าเวิร์กกิ้งวูแมนคาแร็กเตอร์สุดมั่นใจในตัว เองอย่างคุณแหวนแหวนจะกล้าสวมใส่ชุดผ้าไทย เฉิดฉายไปยังสถานที่ต่างๆ เช่นในทุกวันนี้ เธอผ่าน จุดแห่งความกังวลใจในค่านิยมที่หลายคนมีต่อ ผ้าไทยมาแล้ว
“ตั้งแต่จำความได้ก็เห็นผ้าไทยแล้วค่ะ มองไป ทางไหน ผู้ใหญ่ในบ้านก็ใส่ผ้าไทยกันทั้งนั้น ทุกสุด สัปดาห์ คุณแม่ (คุณปัญญชลี เพ็ญชาติ) ส่งแหวน ไปฝึกมารยาทที่เรือนไทยของคุณทวด (ท่านผู้หญิง จงกล กิตติขจร) ได้เห็นผ้าไหมพับเป็นตั้งๆ อยู่ใน บ้าน แต่ที่จำได้แม่นเลยคือวันลอยกระทง นอกจาก คณุ ยา่ (คณุ นงนาถ เพญ็ ชาต)ิ สอนทำกระทงใบตอง แล้ว ยังจับหลานแต่งตัวเป็นนางนพมาศน้อย จำได้ ว่าชอบและมีความสุขมากที่ได้นุ่งผ้าถุงแม้ต้องพับ หลายทบหน่อย เพราะยังตัวเล็กนิดเดียว”
แล้วความสุขจากการได้นุ่งผ้าไทยก็หวนกลับมา หาเจ้าตัวอีกครั้งสมัยเป็นนิสิตคณะเศรษฐศาสตร์ ภาคอินเตอร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ความสวย บาดตาของนางนพมาศประจำคณะในลุคสาวไทย ผิวสีน้ำผึ้ง คิ้วเข้มตาคมทำให้คุณแหวนได้รับฉายา ว่า ‘มะหมี่อินเตอร์’
“ตอนนน้ั หนงั เรอ่ื ง ‘แมเ่ บย้ี ’ กำลงั ดงั หลายคนบอก วา่ แหวนคลา้ ยกบั คณุ มะหม-่ี นภคปภา นาคประสทิ ธ์ิ ส่วนตัวรู้สึกว่าใส่ผ้าไทยแล้วเราดูเอ็กโซติกขึ้น แล้ว ผ้าไหมก็ดูเข้ากับเรา รู้สึกสวยเก๋โดดเด่นและมีเสน่ห์ ในแบบของตัวเอง” แต่เมื่อเทศกาลลอยกระทงมี เพยี งปลี ะครง้ั แมจ้ ะรสู้ กึ สวยมน่ั ใจในชดุ ไทย แตก่ ย็ งั ไม่มีโอกาสได้ใส่บ่อยไปกว่านั้น กระทั่งเธอได้ไป ศึกษาต่อในหลักสูตร Program for Leadership Development ท่ี Harvard Business School
“จริงๆ สมัยเรียนโรงเรียนอินเตอร์ที่เมืองไทย แหวนเริ่มใช้ผ้าไทยแล้ว ยิ่งตอนมีงานที่ต้องใส่ชุด ประจำชาติ แหวนใสช่ ดุ ไทย แตก่ ป็ ระยกุ ตใ์ หเ้ ขา้ กบั คาแร็กเตอร์เราที่เป็นคนกระฉับกระเฉง ยิ่งคนชม ว่าเราสวยเก๋โดดเด่นและยูนีกมาก ก็ยิ่งรู้สึกถึง คุณค่าของความเป็นไทย และทำให้มั่นใจที่จะใส่ ผา้ ไทยมากขน้ึ ไปดว้ ย พอชว่ งเรยี นฮารว์ ารด์ ทอ่ี เมรกิ า เลยเอาผ้าไหมไทยมาตัดสูทตัดเสื้อโค้ตใส่ในชีวิต ประจำวันเลย”
เมื่อกลับมาเมืองไทย นอกจากความสำเร็จ ทางการศึกษาหาความรู้แล้ว คุณแหวนยังนำพา ความมั่นใจในการสวมใส่ผ้าไทยกลับมาเต็มตัว เธอจึงเริ่มตัดชุดไทยเก๋ๆ ไว้ใส่ในชีวิตประจำวัน มากขึ้น คุณแหวนหัวเราะนิดนึงเมื่อนึกถึงความ รู้สึกตัวเองที่เคยคิดเหมือนใครหลายคนว่าใส่ผ้า ไทยแล้วแก่และเชย
“คิดแล้วก็ตลกดีว่าค่านิยมนี้มักเกิดกับคนที่ยัง ไม่เคยใส่ผ้าไทยจริงๆ แต่เมื่อแหวนได้ใช้ผ้าไทย บ่อยขึ้นเลยได้รู้ว่านั่นเป็นสิ่งที่คิดกันไปเอง คำว่า ใส่ผ้าไทยแล้วดูแก่ แหวนยืนยันเลยว่าไม่จริง ถ้า
‘ถ้าเลือกดีไซน์ชุดให้เหมาะ กับคาแร็กเตอร์ตัวเอง และรู้จักการมิกซ์แอนด์ แมตช์ ใส่ยังไงก็ไม่แก่ แต่ กลับดูเก๋มีสไตล์ และเท่ ไม่เหมือนใคร’
คุณเลือกดีไซน์ชุดให้เหมาะกับคาแร็กเตอร์ตัวเอง และรู้จักการมิกซ์แอนด์แมตช์ ใส่ยังไงก็ไม่แก่ แต่ กลับดูเก๋มีสไตล์และเท่ไม่เหมือนใคร
“คำแนะนำของแหวนคือต้องปรับจูนความคิด ตัวเองก่อน จากนั้นให้ค่อยๆ นำผ้าไทยมาอยู่ใน ชีวิตประจำวันเราให้เคยชินเสียก่อน อาจจะใช้เป็น ผ้าพันคอ ผ้าผูกผม หรือจะเป็นต่างหู กระเป๋า รองเท้าที่มีการใช้ผ้าไทยในการตกแต่ง”
การก้าวผ่านความเคอะเขินและไม่กล้าใส่ ผ้าไทยของคุณแหวน เป็นแรงบันดาลใจให้ปัจจุบัน เธอทำธุรกิจกระเป๋าที่ตกแต่งด้วยผ้าไหมทอมือ แบรนด์ PAVA นอกจากส่งเสริมและต่อยอดภูมิ ปัญญาและวัฒนธรรมผ่านผ้าไทยแล้ว ยังเป็น ความตั้งใจส่วนตัวที่อยากให้ผ้าไหมไทยเป็นส่วน หนึ่งในชีวิตประจำวันของคนรุ่นใหม่ในการหยิบผ้า ไทยมาใช้ได้อย่างมั่นใจที่จะสวยในสไตล์ของตัวเอง
คุณแหวนยังมีเทคนิคการนำผ้าไทยมาใช้ให้ คุ้มค่าสมราคาในแบบของเธอว่า “อย่างที่ทราบกัน ว่าผ้าไหมมีราคา การนำผ้ามาใช้ให้คุ้มมูลค่ามี หลายวิธี ตั้งแต่การนำผ้าไทยมาประยุกต์กับผ้า ชนิดอื่น เช่น แขนเสื้อข้างหนึ่งใช้ผ้าไหม อีกข้าง เป็นผ้าชีฟอง ทำให้เรามีชุดผ้าไทยหลายชุดจาก ผ้าผืนหนึ่ง การผสมผสานผ้าแบบนี้ยังทำให้ เราใส่ผ้าไทยได้ง่ายขึ้นด้วย แต่ถ้าเป็นผ้า ไทยที่ทอลวดลายวิจิตรก็ไม่ควรนำไปตัดชุด แหวนจะใส่เป็นผ้านุ่งเพื่อโชว์ลวดลายที่ ประณีต หรืออย่างมากก็แค่เย็บเนากลัดผ้า สำหรับใส่เป็นครั้งคราวไป”
ส่วนใครที่เป็นกังวลว่าผ้าไทยจะดูแลรักษา ยากนั้น คุณแหวนยืนยันเป็นมั่นเหมาะว่า ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ผ้าไทย สมัยนี้แทบทุกผืนแม้จะเป็นการทอจาก ชาวบ้านในชุมชนต่างๆ ที่ห่างไกลต่างก็มี การเคลือบนาโนเพื่อช่วยป้องกันสีซีด สีตก กันความชื้น ทำให้ใช้และดูแลง่ายขึ้น “เก็บ ใส่ในตู้เสื้อผ้าปกติได้เลย”
สำหรับมือใหม่หัดใส่ผ้าไทยที่ยังไม่รู้จะเริ่มต้น ตรงไหนอย่างไรดี คุณแหวนบอกเล่าประสบการณ์ ส่วนตัวที่เริ่มต้นศึกษาหาข้อมูลจากอินเทอร์เน็ต และหนังสือต่างๆ จากนั้นเมื่อเริ่มซื้อหาผ้าไทยก็ได้ วิชาความรู้จากพ่อค้าแม่ขายย่านดิโอลด์สยามบ้าง ศูนย์ศิลปาชีพบางไทรฯ บ้าง งาน OTOP บ้าง และ แหล่งความรู้ด้านผ้าไทยอย่างดีที่ไม่ควรมองข้ามก็ คือเหล่าดีไซเนอร์ผู้คุ้นเคยกับผ้าไทยนั่นเอง รวมถึง กูรูเรื่องผ้าไทยอย่าง อ.เผ่าทอง ทองเจือ ที่หากใคร มีโอกาสได้สนทนาก็จะได้รับความรู้มากมาย นอกจากนี้ ความรู้เรื่องผ้าไทยที่เพิ่มพูนขึ้นของ คุณแหวนนั้น เธอขอบคุณโอกาสดีๆ จากรายการ ‘ว้าว แหวนแหวน’ ของตัวเอง
“แหวนโชคดีที่มีผู้สนับสนุนทั้งศูนย์ส่งเสริม ศลิ ปาชพี ระหวา่ งประเทศ กรมสง่ เสรมิ อตุ สาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวแห่ง
ประเทศไทย ทำให้มีโอกาสได้ลงพื้นที่ไปเห็นถึง กรรมวิธีการทอผ้าตั้งแต่ต้นจนจบ ทำให้รู้เลยว่า กว่าจะทอได้ผ้าสักผืนนั้นยากลำบากเพียงใด ความสวยงามที่ตาเราเห็นนั้นผ่านหยาดเหงื่อแรง กายแรงใจที่ชาวบ้านทุ่มเทลงไป แหวนเลยยิ่งอิน และรักผ้าไทย และเข้าใจว่าทำไมผ้าไทยถึงมีราคา หลายคนชอบพูดว่าผ้าไทยแพง แต่ถ้าได้เห็นอย่าง ทแ่ี หวนเหน็ นค่ี อื สมราคาแลว้ และจรงิ ๆ นา่ จะแพง ได้กว่านี้อีกด้วยซ้ำ เพราะนี่คืองานศิลปะที่มี ชิ้นเดียวในโลก เป็น one of a kind อย่างแท้จริง”
เสียงร่ำลือว่าคุณแหวนเป็นหนึ่งในผู้ที่ซื้อหา ผ้าไทยสวยๆ เก็บสะสมไว้ไม่น้อย จึงอยากรู้ถึงผ้า ผืนโปรดของเธอ “แหวนชอบผ้าไหมมัดหมี่มากกก ชอบเทกซ์เจอร์และลวดลายของผ้าที่สวยงามและ มีเรื่องราวจากจินตนาการของคนทอ อย่างที่บอก แหวนรู้สึกว่าผ้าทอคืองานศิลปะที่เรานำมาสวมใส่ ได้ ในความคิดแหวน ผ้าไหมนับวันมูลค่าและ คุณค่าจะยิ่งเพิ่มขึ้น ไม่ต่างจากของแบรนด์เนมที่ เป็นแรร์ไอเท็มหรือรุ่นลิมิเต็ดเลย ที่สำคัญยิ่งนาน ไป เหล่าแม่ๆ ป้าๆ ที่ทอผ้าก็จะทอได้น้อยลงตาม แรงกำลัง ฉะนั้น เมื่อไหร่ที่เจอผ้าผืนที่สวยถูกใจ แหวนจะไม่ลังเลที่จะซื้อหามาครอบครองเลยค่ะ
“ถ้าให้เลือกผืนที่ชอบเป็นพิเศษก็คงต้องเป็นผ้า ที่มีเรื่องราวความเป็นมา ผืนแรกคือผ้าไหมมัดหมี่ จาก ต.หนองเข้ จ.สกลนคร ที่ชาวบ้านตั้งใจทอ เลียนแบบหนังของจระเข้ที่เป็นสัตว์ประจำถิ่น ความพิเศษตั้งแต่เป็นหม่อนที่ให้ไหมสีเงินในตัวเอง ซึ่งเลี้ยงยากและให้ไหมเส้นสั้นกว่าหม่อนปกติ การ ทำจึงทวีความลำบากขึ้นจากเดิม จากนั้นนำไป ย้อมครามเป็นสีฟ้าที่มีเอกลักษณ์ เพราะว่ากันว่า น้ำในจ.สกลนครคือน้ำที่ย้อมครามได้ดีที่สุด ที่ สำคัญไปกว่านั้น ผ้าผืนนี้คือผืนต้นแบบที่แหวนไป อ้อนวอนขอซื้อมาเพื่อเป็นของขวัญวันแม่ให้คุณแม่ ของแหวน
“ส่วนอีกผืนคือผ้าไหมทอลายพญานาคจาก จ.สรุ นิ ทร์ แหวนไดฟ้ งั ตำนานพญานาคจากชาวบา้ น แล้วได้ทราบว่ากว่าจะมัดลายให้เป็นเกล็ด พญานาคและนำไปย้อมสีจากเปลือกไม้ธรรมชาติ ให้เป็นสีแดงชาดสวยอย่างที่เห็นนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เลย” คุณแหวนเล่าติดตลกอีกว่า “ตอนซื้อผ้าผืนนี้ ชาวบ้านที่ทอเข้ามาบอกแหวนว่า ‘อย่านำไปตัด เสื้อหรือทำกระเป๋านะ เขาทำใจไม่ได้’ แหวนเองก็ ทำใจไม่ได้เหมือนกัน ทุกวันนี้ผ้าสองผืนนี้จึงยังขึ้น หิ้งไว้อยู่เลยค่ะ”
สุดท้ายใครที่ชื่นชอบผ้าไทยแต่ยังลังเลไม่กล้า ใส่ หรือใครที่ยังไม่เปิดใจรับผ้าไทย คุณแหวน อยากให้กลับมาเห็นคุณค่ามรดกทางวัฒนธรรมอัน เป็นรากเหง้าของคนไทย “ผ้าไทยนี่แหละที่ทำให้ เราโดดเด่น มีคาแร็กเตอร์ไม่ซ้ำใคร สำหรับแหวน นี่คือความฮิป เท่ อินเทรนด์ และยูนีกสุดๆ แล้วค่ะ ไม่ว่าจะเดินทางไปที่แห่งไหนบนโลกใบนี้ นี่คืองาน ศิลปะที่เราสวมใส่ได้จริงในทุกๆ วันเลยค่ะ”