นรรจาพร - ทวี จงควิินิต ‘มีบ้านทั้งในเมืองและ บ้านริมทะเล แต่สงบสุขที่สุดคือ “บ้านกลางหุบเขา” หลังนี้’
วิลล่าสไตล์ทัสกันของคนรักอิตาลีตัวจริง ‘มีทั้งบ้านในเมืองและบ้านริมทะเล แต่สงบสุขที่สุดคือ “บ้านกลางหุบเขา” หลังนี้’
เป็นผู้หญิงที่ไม่ยอมหยุดสวย เป็นคุณแม่ที่ไม่หยุด ห่วงใยลูก เป็นภรรยาที่ไม่เคยเลิกเป็นคู่คิดของสามี และเป็นคนรักวิถีชีวิตแบบอิตาลี ตั้งแต่เฟอร์นิเจอร์ เครื่องแก้ว กระทั่งที่พักอาศัย ดังนั้นในวันที่คุณเป๊กกี้นรรจาพร จงควินิต และสามี คุณทวี จงควินิต ประธานบริษัท M-tech Audio จำกัด ผู้นำเข้าเครื่อง เสียง และ CEO บริษัท Siam Power จำกัด ผู้บุกเบิก ธุรกิจพลังงานทางเลือกของเมืองไทย ก้าวมาสัมผัส ที่ดินผืนงามกลางเขาใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็นทัสกานีเมือง ไทย ฝ่ายสามีจึงตกลงซื้อที่ดินเพื่อสร้างบ้านภายใน
เวลา 3 ชั่วโมง ขณะที่ศรีภรรยาอย่างคุณเป๊กกี้รับ หน้าที่ตกแต่งบ้าน…ไปตลอดชีวิต ประสาคนรักบ้าน ที่ไม่เคยยอมให้บ้านหมดความมีชีวิตชีวา
“นอกจากบ้านที่กรุงเทพฯ ครอบครัวเราชอบไป พักผ่อนกันที่คอนโดที่หัวหินอยู่หลายปีค่ะ จนวันหนึ่ง ก็ถามกันขึ้นมาว่าทำไมเราไม่มีบ้านเขาใหญ่บ้างล่ะ” นายหญิงของบ้านเปิดฉากเล่าเรื่องราวในห้องรับแขก ดูเพล็กซ์เปิดเพดานโล่งสูงโปร่ง มีขื่อท่อนซุงแข็งแกร่ง และมีแชนเดอเลียร์ใหญ่ระย้าลงมา ซึ่งเป็นของขวัญ ชิ้นสวยจากโครงการที่มอบให้กับเจ้าของบ้าน ทว่าสิ่ง ที่สะดุดตาที่สุดคือโต๊ะรับแขกทำจากรากไม้ชิ้นเดียว สลักเป็นโต๊ะ ผลงานสุดวิจิตรของ Lotus Art de Vivre
“สถาปนิกของบ้านที่กรุงเทพฯ เป็นคนพื้นที่ที่ โคราชนี่เองค่ะ แนะว่าให้ไปอยู่ในหมู่บ้าน แต่เราไม่ ชอบ เพราะหมู่บ้านในต่างจังหวัดถ้าไม่มีคนไปดูแล ผ่านไปสักพักจะดูเก่าโทรมเหมือนบ้านที่โดนทิ้ง เขา เลยชวนให้มาดูที่นี่” ท่ามกลางพื้นที่ในโอบล้อมของ ขุนเขาและทุ่งหญ้ากว่า 2,500 ไร่ของ Toscana Valley Khaoyai ที่ดินไร่กว่าๆ ได้กลายมาเป็น ‘บ้านกลาง หุบเขา’ ของครอบครัวสี่คนพ่อแม่ลูกแห่งตระกูล
‘ผมหลงใหลเสนห่ ข์ องอติ าลี ทสี่ ดุ พอเจอโครงการ ทอสคานา่ กร็ สู้ กึ วา่ ตอบโจทย์ เราไดจ้ รงิ ๆ’ คณุ ทวี
จงควินิตเมื่อราวๆ พ.ศ. 2553 และด้วยความใส่ใจของ เจ้าของบ้าน วิลล่าสไตล์ทัสกันหลังงามหรูจึงแล้วเสร็จ ในเวลาเพียงปีเศษๆ เท่านั้น “ถ้าลูกยังเล็กคงไม่คิด เรื่องจะมีบ้านแบบนี้เลย เพราะเด็กเล็กๆ ไปอยู่บน ชายหาดแลว้ เปน็ ภาพทส่ี วยงาม เดก็ ๆ กช็ อบบรรยากาศ ชายทะเลทห่ี วั หนิ ดว้ ย” คณุ เปก๊ กเ้ี ลา่ ถงึ ความตง้ั ใจเดมิ
สุดท้ายเมื่อบ้านบนเขาใหญ่แล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ กลับกลายเป็นว่าครอบครัว 4 คนเทใจมุ่งสู่เขาใหญ่ กันแทบทุกวีคเอนด์ “บ้านที่หัวหินสะดวกสบายกว่า ที่นี่ในเรื่องอาหารการกิน เพราะมีร้านอาหารเต็มไป หมด จะเอาแบบไหนเลือกได้เลย แถมเป็นตึกที่ปลูก ริมทะเล เราซื้อไว้ชั้นสูงสุด เห็นวิวทะเลด้านชะอำ สุดลูกหูลูกตา สวยมาก แต่พอบ้านที่เขาใหญ่เสร็จ ลูกๆ กลับชอบที่นี่มากกว่าที่หัวหิน กลายเป็นบ้านต่าง จังหวัดที่มาได้บ่อย มาแล้วเจอเพื่อน มีกิจกรรมทำ เยอะมากค่ะ” คุณเป๊กกี้กล่าว
ชื่อโครงการชัดเจนว่า ‘ทอสคาน่า’ ในภาษา อิตาเลียน หรือทัสกานีในภาษาอังกฤษ และวิลล่าหลัง งามนี้ก็เป็นสไตล์ทอสคาน่าแท้ๆ อีก คุณทวีหัวเราะ แล้วกล่าวว่าเป็นความบังเอิญที่ลงตัว “ช่วงที่ผมเป็น distributor รถเฟอร์รารี่เจ้าแรกของประเทศไทย ผมไป อิตาลีบ่อย ทั้งไปดูโรงงาน ไปเรียนขับรถ แล้วก็เคย เป็นตัวแทนจำหน่ายรองเท้าผู้ชายจากอิตาลีแบรนด์ Lorenzo Banfi ทุกปีพอถึงวันครบรอบแต่งงาน เราจะ บินไปยุโรปกัน ไปหมดทั้งเยอรมนี ฝรั่งเศส แต่ชอบ ที่สุดคือเมืองทัสกานีในอิตาลี ชอบดอกไม้ ชอบป่า ชอบหมู่บ้านเล็กๆ สไตล์ทัสกันมาก ออกแนวสีสัน สนุกสนาน มีสีส้ม สีอิฐ สีเขียว ดูสบายตาดี เราชอบ เข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งบนเขาในเมืองปอร์โตฟิโน ชื่อ Splendido เราไปพักทุกปี มีห้องประจำ มีเทอร์เรซ นั่งกินข้าว มองเห็นอ่าว มีเรือขับเข้ามาจอด เป็นเมือง ชายทะเลที่เงียบสงบมาก เรียกว่าผมหลงใหลเสน่ห์ ของอิตาลีที่สุด พอเจอโครงการนี้รู้สึกว่าตอบโจทย์เรา ได้จริงๆ” คุณทวี ‘Italian Lover’ ที่รักทุกอย่างตั้งแต่รถ บ้าน ไวน์ กระทั่งรองเท้าแบรนด์อิตาลีกล่าว
“แรงบันดาลใจของบ้านหลังนี้มาจากเราสองคนที่ ชอบท่องเที่ยวอิตาลี เราจะลงเครื่องที่มิลานแล้วเช่ารถ ขับ ไล่ลงมาจากมิลาน ไปฟลอเรนซ์จนถึงทัสกานี แล้วเราก็อยู่กันอย่างนั้น 10 วัน ผมรู้สึกว่าภูเขา บ้าน และวัฒนธรรมของเขาน่ารัก ไม่มีอะไรที่ดูเยอะเกินไป มีความเป็นธรรมชาติที่ลงตัว ให้อารมณ์สบายๆ เป็น เมืองศิลปะจริงๆ แม้แต่บ้านในชนบทที่ดูธรรมดาก็ยัง มีดอกไม้และการใช้สีสันต่างๆก็เป็นศิลปะแท้ๆ เลย เราเลยเอาทุกอย่างที่เราชอบของอิตาลีมาไว้ที่นี่หมด ครับ แล้วคุณเป๊กกี้ชอบของแอนทีกอยู่แล้ว บ้านหลังนี้ เลยยิ่งถูกใจเขา มีที่ให้เขาลงของเยอะ (หัวเราะ)”
คนถูกพาดพิงถึงเล่าถึงความรักเสน่ห์อิตาลีบ้างว่า “ชอบอาหารและอัธยาศัยของผู้คนค่ะ นิสัยคนอิตาลี ค่อนข้างจะเรียบง่ายและเป็นกันเองมากๆ นะคะ แต่ อีกมุมหนึ่งเขาก็ชอบแต่งตัว ชอบศิลปะและเป็น บ้านเมืองที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เราชอบดูของ โบราณอยู่แล้ว เลยชอบไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองเก่า เข้า พักโรงแรมในเมืองนั้นๆ แต่เป็นคนไม่ชอบไปมิวเซียม เลยนะคะ ชอบศึกษาคนมากกว่า เลยชอบนั่งตาม คาเฟ่ ดูคน ดูสิ่งมีชีวิตได้เรื่อยๆ ทั้งวัน คิดอะไรไม่ออก ก็ไปอิตาลี พูดแบบนี้ได้เลยค่ะ ผูกพันและถูกใจ ทุกอย่างที่เป็นอิตาลี พอเราไปทุกปีก็ซึมซับวิถีชีวิต แบบอิตาเลียนมากเข้า พอมีบ้านหลังนี้ก็เลยออกมา ในสไตล์อิตาลีที่เราสองคนชอบค่ะ”
และเมื่อคุยถึงประเด็นถูกใจ คุณเป๊กกี้ก็สีหน้า รื่นรมย์คุยต่อได้ยาวๆ ทันที “ทุกห้องจะต้องมีของ ชิ้นหนึ่งที่เป็นงานแอนทีกผสมไปกับของใหม่ เพราะ สะสมไว้เยอะมาก” เธอลากเสียงยาว ย้ำว่ามากมาย ก่ายกองจริงๆ “สะสมของแอนทีกทุกรูปแบบ ทุกชิ้น จำได้หมดว่าได้มาจากที่ไหน เรื่องราวเป็นยังไง เหมือนเป็นความทรงจำของเราน่ะค่ะ” เธอชี้ให้ดู แชนเดอร์เลียร์แก้วสีที่ติดไว้เหนือบันไดซึ่งระบุปีผลิต ว่า ‘1920’ “ชิ้นนี้ไปเจอที่โรม ซื้อขนใส่เรือมา อะไรที่ หิ้วมือมาได้จะมาจากตลาดนัด จริงๆ แล้ววีคเอนด์นี้
‘ทกุ วนั ทเี่ ราเหนอื่ ยจากชวี ติ ในกรงุ เทพฯ พอได้ มาอยบู่ า้ นนแี้ ลว้ เหมอื นไดช้ ารจ์ แบต แฮปปมี้ าก จนไมร่ จู้ ะบรรยายยงั ไงด’ี คณุ นรรจาพร
จองตั๋วไปปารีสนะคะ เพราะวันอาทิตย์มีตลาดนัด ที่ปารีสอยู่ 2 - 3 แห่งที่ชอบไปเดินมาก โดยเฉพาะ ตลาด Marché aux puces de la porte de Vanves แต่คราวนี้ต้องแคนเซิลตั๋วเพราะมีประท้วงเสื้อกั๊ก เหลืองที่ปารีส ชอบเดินดูของแอนทีกตามตลาดนัด มากแบบอาการหนักเลยค่ะ” มือวางอันดับหนึ่งใน การหิ้วของแอนทีกสารภาพยิ้มๆ
ผลงานการหิ้วของแอนทีกของเธอมีมากกว่าพัน ชิ้น ตั้งแต่โคมไฟ แก้วไวน์สีแดงจากโคเปนเฮเกนที่ ผสมสีด้วยมือ ปากแก้วเนี้ยบกริบเพราะใช้ลวดตัด ชุดถ้วยชาเคลือบเงา กาน้ำชากระเบื้อง เชิงเทียน ตลับกุหลาบ ตุ๊กตากระเบื้องยาโดจากสเปน (LLADRÓ Porcelain Figurines) กระทั่งต้นโอลีฟจาก โรม ที่สำคัญทุกสิ่งทุกชิ้นเธอนำมาใช้งานจริงแบบ ไม่หวง ไม่กลัวแตกหักเสียหาย และไม่ได้สะสมใส่ ตู้โชว์เพื่อเชยชมเฉยๆ
คุณทวีให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าบ้านหลังนี้สร้างเสร็จ เมื่อ พ.ศ. 2558 แต่คุณเป๊กกี้แย้งว่ายังไม่เสร็จ “ยังแต่งบ้านอยู่เรื่อยๆ น่ะค่ะ” ว่าแล้วมัณฑนากร จำเป็นก็สลับหน้าที่เป็นไกด์พาชมบ้านเสียเลย “ตอนเรามาถึงที่นี่ครั้งแรกก็เดินดูที่ดินแปลงนั้น แปลงนี้ จนมาเจอที่ดิน 1.3 ไร่ เลือกแปลงนี้เพราะ ด้านหน้าเป็นส่วนกลาง ไม่มีอะไรบังและไม่สูง
เป็นคนกลัวความสูงมากค่ะ (ยิ้ม)”
บ้านนี้มีตัวตนของคุณเป๊กกี้ชัดเจน หากจะสังเกต ว่ามีดอกไม้แซมอยู่ตามจุดต่างๆ ทั้งบ้าน “ชอบ ดอกไม้ทุกชนิดมากๆ เลยค่ะ” เจ้าของบ้านกล่าว อย่างถูกใจกับข้อสังเกตนี้ “เห็นกุหลาบตรงทางเข้า มั้ยคะ ไปเลือกมาเองแล้วปลูกไว้รอบบ้านเลย เป็น คนที่ต้องมีไม้ดอก สมัยอยู่บ้านคุณพ่อคุณแม่จะมี มะลิซ้อน พุทธรักษา กลางคืนดอกราตรีบาน เป็น บ้านไทย ปลูกดอกไม้ไทยล้อมบ้าน กลิ่นก็หอม สีก็ สวย พอเรามีบ้านของตัวเองก็เอาสิ่งที่เราคุ้นเคย ตั้งแต่เด็กๆ มาใส่” เธอหยุดที่กอกุหลาบบานสะพรั่ง “ถ้าเป็นกุหลาบชอบสีพาสเทลที่สุด pale pink คือ สีโปรด ไม่ใช่แค่ชอบดูนะคะ ชอบวาดรูปดอกไม้สีน้ำ ด้วย กุหลาบนี่ถือว่าวาดยากแบบปราบเซียนเลย แรกๆ เคยฝึกวาดดอกลั่นทม วาดไปวาดมากลาย เป็นดอกจำปี คนเขาว่างั้น ฟังแล้วก็เสียใจ (หัวเราะ)
“เวลามาที่นี่ก็เลยเอาอุปกรณ์วาดรูปสีน้ำติดมา ด้วยตลอดค่ะ เริ่มเรียนกับอาจารย์ที่เป็นคนฝรั่งเศส ตอนนั้นตั้งท้องลูกคนแรก อยากหากิจกรรมที่ใช้สมาธิ เยอะๆ เริ่มจากสวดมนต์ที่บ้านทุกวัน ท้องแก่ก็นั่ง เก้าอี้ปฏิบัติธรรม แล้วก็ออกไปเรียนวาดรูปที่สมาคม ฝรั่งเศส นักเรียนในคลาสไม่มีคนไทยเลย มีฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เราเป็นคนไทยคนเดียว เรียนกัน 5 - 6 คน วันละ 3 ชั่วโมง แฮปปี้มาก เริ่มจากวาดรูปชายหาด ตอนกลางคืน เอากลับบ้านไปให้สามีดู ‘ทายซิ นี่รูป อะไร’ เขาบอกสะพาน คลาสต่อมาเลยไปบอกครูว่า ไม่เรียนแล้ว เราวาดชายหาด คนเห็นเป็นสะพานไป ได้ ครูก็บอกว่า ยูทำได้ ให้กำลังใจวาดต่อไป
“สีน้ำขนย้ายง่ายที่สุดและใช้กระดาษอะไรก็ได้ เพียงแต่กระดาษวาดเขียนจะทำให้สีเบลนด์กันออก มาสวย วาดรูปดอกไม้ไว้เยอะเลยค่ะแต่ส่วนใหญ่ติด ไว้ที่บ้านกรุงเทพฯ ไม่กล้าเอามาติดที่บ้านนี้ ที่นี่แขก เยอะ บ้านที่กรุงเทพฯ ก็แอบติดไว้ในห้องน้ำ ไม่ค่อย กล้าเอามาโชว์เพราะรู้สึกเสมอว่าเราน่าจะทำได้ดีกว่า นี้และไม่เคยรู้สึกว่าภาพไหนเสร็จ เห็นก็เติมไปเรื่อยๆ” เธอเล่าถึงงานอดิเรกสุดโปรดอย่างติดลมบน “เคยไป วาดภาพนดู้ ทฝ่ี รง่ั เศสดว้ ยนะคะ เปน็ โรงเรยี นทป่ี กิ าสโซ่ เคยมาเรียน ไปนั่งวาดรูปกับเพื่อน 3 ชั่วโมง ส่วนใหญ่ เป็นคนฝรั่งเศสที่ไปนั่งวาดกัน เพื่อนวาดสีน้ำมัน เราก็ ฟินมากวาดดรอว์อิ้งชาร์โคล นางแบบเปลี่ยนท่าทุก 20 นาที แต่คนนั่งหน้าเราสิแปลก เขาวาดสีน้ำ วาด แต่เท้าอย่างเดียวเลยและวาดสวยมากด้วย
“ตอนนี้เพิ่งตระหนักตัวเองว่าชอบเอาตะกร้าหวาย ใบนึงออกไปตัดกุหลาบมาใส่แจกันเอาไปถวายพระ เดินตัดดอกไม้ไปเราได้ยินเสียงนกร้อง รอบตัวมีแต่ ความเงยี บสงบ รสู้ กึ วา่ ทกุ วนั ทเ่ี ราเหนอ่ื ยจากการอยใู่ น กรุงเทพฯ พอได้มาทำอะไรแบบนี้แล้วเหมือนได้ชาร์จ แบต รสู้ กึ แฮปปม้ี ากจนไมร่ จู้ ะบรรยายยงั ไงดคี ะ่ ”
ขณะที่คุณเป๊กกี้ทุ่มเทความสนใจให้กับการแต่ง บ้าน สมาชิกครอบครัวที่เหลือลงแรงไปกับกิจกรรมที่ ปกติแล้วอยู่กรุงเทพฯ ไม่ค่อยได้ทำบ่อยนัก “ผมเป็น คนชอบปั่นจักรยาน ที่นี่มีลู่ปั่นจักรยาน 6 กิโลเมตร เข้าไปในสนามกอล์ฟ เข้าไปถึงทะเลสาบ มี driving range ในหุบเขาไว้ตีกอล์ฟ ผมเป็นนักกอล์ฟอยู่แล้ว ลงไปตีทุกครั้งที่มา ส่วนใหญ่เริ่มตั้งแต่ 7 โมงเช้าเลย เสร็จ 11 โมง บ่ายก็ตีแบดต่อกับลูกชาย ที่นี่มีคอร์ต แบดอลังการมาก 4 คอร์ต มีสนามเทนนิสให้อีก” คุณทวีเล่าถึงวันเวลาที่หมดไปกับการพักผ่อนกายใจ แท้จริง “มาอยู่สิบกว่าวันได้สบายๆ ไม่เบื่อเลย ถือว่า มาชิลล์ นั่งฟังเพลง คุยกันในครอบครัว ดูธรรมชาติ หรือจิบไวน์ บ้านนี้ทำไวน์เซลล่าเก็บไวน์จากหลายๆ ที่ ผมไม่นิยมเก็บไวน์เก่าๆ ไวน์ปี 2010 รสชาติกำลังดี สดชื่น ไวน์ที่เก็บมานานอย่างปี 2001 มันเข้มข้นไป สำหรับผม แต่ไวน์ฝรั่งเศสค่อนข้างถูกปากผมมาก กว่าไวน์อิตาลี” เขากล่าวอย่างยอมรับว่ามีไม่กี่อย่าง ที่เอาชนะอิตาลีได้
‘ภมู ใิ จทที่ ำบา้ นออกมาแลว้ เปน็ อยา่ งทเี่ ราอยากจะมา ใชช้ วี ติ อยจู่ รงิ ๆ พวกเรารกั บา้ นหลงั นคี้ ะ่ ’ คณุ นรรจาพร
หัวหน้าฝ่ายเอนเตอร์เทนแขกคือคุณมาร์ค-ธาวิน นัก ศกึ ษาหนมุ่ ทก่ี ำลงั ขน้ึ ปี 2 เขากลา่ วอยา่ งคดิ ถงึ ความสนกุ ทบ่ี า้ นกลางหบุ เขาหลงั นใ้ี นวนั ทเ่ี ขาบนิ ลดั ฟา้ ไปศกึ ษาตอ่ ที่ Babson College มหาวิทยาลัยด้านธุรกิจที่ดีที่สุดของ อเมริกาในเมืองบอสตัน “คุณแม่จัดปาร์ตี้กับเพื่อนๆ บอ่ ยมาก มเี พอ่ื นวยั เดยี วกนั กบั ผมมาดว้ ย กส็ นกุ ครบั ”
ด้านคุณพ่อกล่าวกลั้วหัวเราะว่า “ที่นี่เป็นบ้าน ปาร์ตี้” อย่างที่เจ้าของบ้านบรรยายว่าสามารถรับรอง แขกได้ทุกรูปแบบ “แขกขาจร แขกขาประจำ บ้านนี้ไม่ เคยเหงาเลย เวลาแขกมา มารค์ จะเปน็ แผนกเอนเตอรเ์ ทน แก๊งเด็ก เอมมี่เป็นแผนกทำขนม เขาชอบอยู่ในครัวค่ะ” คุณเป๊กกี้เล่าถึงกิจกรรมที่สมาชิกทั้งสี่ของบ้านร่วมแรง ร่วมใจกันทำ
“ผมชอบความสงบของที่นี่และมีกิจกรรมให้ทำเยอะ ชอบที่สุดคือสวนผักพื้นบ้านอินทรีย์ในหมู่บ้าน เข้าไป เด็ดผักสดๆ และเอามาทำอาหารที่บ้านได้” คุณมาร์ค ไล่เรียงเรื่องสนุกของบ้านกลางหุบเขาอีกว่า “แล้วก็ชอบ ไปฟาร์มอัลปากา ขับรถโกคาร์ต ไปสวนสนุก ไปถ่ายรูป ข้างนอก มีเรื่องให้ทำเยอะครับ ผมชอบกรุงเทพฯ นะ แต่บางทีเบื่อชีวิตในเมือง ออกมาที่นี่บ้างก็ดีครับ แล้ว เวลาขับรถไปกับน้องสาว เราชอบร้องเพลงไปด้วยกัน”
น้องสาววัยทีน คุณเอมมี่-นวลนภรรน์ ที่ใกล้จะจบ ไฮสคูลจากโรงเรียนนานาชาติเซนต์แอนดรูว์ส สุขุมวิท คอยเล่าเสริมพี่ชายอยู่ไม่ห่างว่า “พี่มาร์คเรียนสาย ธุรกิจแต่ก็ชอบละครเวทีมากค่ะ ตอนอยู่โรงเรียนเรา สองคนแสดงละครเวทีมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ เลย พอ เขาไปเรียนต่อแล้วก็เหงานิดหน่อย แต่พี่มาร์คกลับ เมืองไทยบ่อยค่ะ เขาคิดถึงน้องสาว (หัวเราะ) อีกไม่ นานหนูก็จะตามพี่มาร์คไปเรียนต่อเหมือนกัน อยาก เรียนธุรกิจเหมือนพี่มาร์ค และถ้ามีเวลาก็อยากเรียน การแสดงด้วย” พี่ชายสลัดใบหน้าขรึมเล่าถึงวิชาโปรด ที่มหาวิทยาลัยไม่ได้สอนว่า “ผมก็สมัครการแสดงที่ มหาวิทยาลัย เป็นบทละครของเชคสเปียร์ครับ”
สาวน้อยยังให้ลองชิมคุ้กกี้ที่เธอทำเอง รสชาติแรก ชิมนั้นอร่อยจนต้องถามว่าไม่ลองทำขายดูหรือ ก็ได้ยิน เสียงหัวเราะสดใสแทนคำตอบ “ไม่สามารถทำขายได้ ค่ะ เราซื้อแป้งและส่วนผสมทุกอย่างที่วิลล่า อย่างเค้ก สตรอเบอร์รีก็ใช้สตรอเบอร์รีสดจากเกาหลี” พี่ชายที่ กำลังเรียนหลักสูตร Entrepreneur วิเคราะห์แล้วสรุป ผลว่าใช้ของดีเกินไป ตั้งราคาขายยาก น้องสาวเลย หัวเราะร่วน “พี่มาร์คชอบทำสเต๊ก หนูชอบทำเค้กกับ คุ้กกี้ หนูเคยทำคุ้กกี้กับเพื่อนแล้วขับรถกอล์ฟไปทั่ว หมู่บ้าน เอาคุ้กกี้ไปแจกพนักงานค่ะ ถ้ามาที่นี่ทำขนม ได้ทั้งวัน ดูยูทูบแล้วฝึกเอง ค่อยๆ ปรับสูตรไปเรื่อยๆ ครั้งแรกทำเวลเว็ตเค้ก ออกมาแตกเลย ครีมแข็ง” เสียง พี่ชายให้กำลังใจว่า “แต่อร่อยนะครับ กินหมดเลย”
ว่าที่บัณฑิตแบ็บสันยังเล่าถึงมุมโปรดของบ้าน ที่เป็นสไตล์ของเขาเองมากที่สุดนั่นคือห้องนอน “ผมไม่ค่อยได้ช่วยแต่งบ้านนี้เลยครับ คุณแม่ไม่ให้ ช่วย (หัวเราะ) บ้านนี้เป็นโปรเจกต์ของคุณแม่ ท่าน มีวิชั่นว่าอยากได้บ้านแบบไหน ผมขอแค่ห้องนอน ตัวเองให้เป็นแบบที่ต้องการ เลยบอกคุณแม่ไว้ ก่อนว่าผมชอบที่โล่งๆ ฉะนั้นขอว่าอย่าตกแต่งอะไร เข้าไปเยอะ มีเตียงกับโต๊ะขอแค่นั้นก็พอครับ มอง วิวชั้นสองได้กว้างๆ แค่นี้ก็สวยแล้วสำหรับผม” ส่วนคุณเอมมี่ที่เวลาส่วนใหญ่ขลุกอยู่หน้าเตาอบ ขนม หากมุมส่วนตัวของเธอคือหน้ากระจกเต็มตัว ภายในห้องนอน “หนูชอบแต่งหน้า คุณแม่เลยซื้อ กระจกเต็มตัวมาให้ในห้องค่ะ” ก่อนจะแนะนำมุม ไฮไลต์ของบ้านว่าเป็นสระว่ายน้ำ “เป็นสระติด ฮีตเตอร์ด้วยค่ะ ว่ายน้ำสบายตัวมาก บางทีพี่มาร์ค ก็จับหนูโยนลงสระ เป็นพี่ที่รักน้องมาก”
คุณเป๊กกี้นั่งฟังลูกทั้งสองคุยกันแล้วอมยิ้มตาม อย่างหยุดไม่ได้ “รู้สึกว่าตัดสินใจถูกที่มีบ้านอยู่ ต่างจังหวัดค่ะ ตั้งแต่ปลูกบ้านมาจนวันนี้ ยังไม่ รู้สึกเลยว่ามีตรงไหนที่ไม่ดี ไม่เจอข้อติเลย ยิ่งเวลา ลูกๆ มาด้วยยิ่งสนุก ถ้ามากันเองสองคนก็อาจจะ เหงา เราได้ร้องเพลงกัน มีอะไรให้ทำหรือแค่นั่งคุย กันก็แฮปปี้ได้ อยู่ที่นี่เราไม่ได้เปิดทีวีเลยนะคะ ซึ่ง เวลาอยู่กรุงเทพฯ เราเหนื่อยจากรถติด กลับบ้าน มาก็ไม่ได้ทำอะไร หมดวัน หมดแรง
“ทุกครั้งที่มาบ้านหลังนี้แล้วมีความสุขค่ะ สไตล์ของบ้านบอกความเป็นเรามากที่สุด พอ ตัดสินใจซื้อที่และเริ่มปลูกบ้านก็เริ่มเปิดกรุตัวเอง ว่ามีข้าวของอะไรบ้างที่มีเก็บไว้เยอะเหลือเกิน ทุก อย่างเอามาใช้ที่บ้านนี้ได้หมดเลย ภูมิใจนะคะที่ทำ บ้านออกมาแล้วเป็นอย่างที่เราอยากจะมาใช้ชีวิต อยู่จริงๆ ทุกอย่างเราเลือกเอง ไม่ได้แค่หิ้วกระเป๋า เดินเข้ามาอยู่ได้เลยง่ายๆ กระทั่งดีเทลเล็กๆ น้อยๆ เราก็ไม่เคยปล่อย พวกเรารักบ้านหลังนี้ค่ะ บางคืน เราขึ้นไประเบียงชั้นสอง นั่งมองพระจันทร์เต็มดวง ค่อยๆ ขึ้นมา วันที่ฝนตกก็นั่งมองฝนตกลงเป็นม่าน จากแอ่งน้ำข้างบน เหมือนเราถอดปลั๊กตัวเอง ได้ อยู่นิ่งๆ และได้ใช้ชีวิตอย่างสงบบ้าง” เจ้าของบ้าน ยิ้มหวาน “ยกเว้นตอนมีเพื่อนมานะคะ”
‘สไตลอ์ ติ าลดี สู บายๆ ลงตวั ไมเ่ ยอะเกนิ มี ศลิ ปะ เราเลยเอาทกุ อยา่ ง ทเี่ ราชอบของอติ าลมี าไว้ ทบี่ า้ นน’ี้ คณุ ทวี