THOMAS JUUL-HANSEN นักออกแบบที่ได้รับ การยอมรับในระดับโลกมากว่า 20 ปี กับผลงานแรกในเมืองไทย
นักออกแบบที่ได้รับการยอมรับ ในระดับโลกมากว่า 20 ปี
“ตึกเจ๋งๆ มากมายในนิวยอร์กเป็นฝีมือของเขาทั้ง นั้น” คุณยงยุทธ ชัยพรหมประสิทธิ์ ผู้บริหาร โครงการ SCOPE Langsuan คอนโดมิเนียมระดับ 6 ดาว บนที่ดินฟรีโฮลด์ผืนที่แพงที่สุดที่มีการซื้อขายกันใน ประเทศไทยเมื่อ พ.ศ. 2561 ที่ราคา 3.1 ล้านบาทต่อ ตารางวาในย่านหลังสวน กล่าวถึงนักตกแต่งภายใน ระดบั โลก โทมสั ยลู -ฮนั เซน เจา้ ของผลงานตกแตง่ คอนโด ที่แพงที่สุดในนิวยอร์กอย่าง ONE57 ซึ่งต้องใช้เงิน 3,140 ล้านบาทถึงจะได้เป็นเจ้าของห้องราคาแพงที่สุดของ โครงการนี้ได้ รวมไปถึงงานตกแต่งที่พักหรูของคนดัง อย่าง David Yurman เจ้าของแบรนด์จิวเวลรี่และ Paula Wagner ผู้อำนวยการสร้างหนังฮอลลีวู้ดชื่อดังอย่าง Mission: Impossible
“ต้องใช้เวลาถึง 20 ปีกว่าผมจะมาเจอคุณยงยุทธ
ซึ่งเป็นคนที่มีเป้าหมายสูงกว่าแค่อยากได้ชื่อผมไปแปะ กับตึก แต่เขาอยากให้สโคป หลังสวนเป็นแลนด์มาร์ค ใหม่ระดับโลก” คุณโทมัสกล่าว
ดีไซเนอร์ระดับโลก
เกิดและเติบโตที่กรุงโคเปนเฮเกนในเดนมาร์กจนถึง วัย 18 ปี คุณโทมัสห่างบ้านเกิดเป็นครั้งแรกเมื่อได้งาน ทำในบริษัทเฟอร์นิเจอร์สัญชาติเดนมาร์กที่มีสาขาใน ไมอามี สหรัฐอเมริกา เขาไม่รู้ตัวเลยว่าการเดินทาง ครั้งนั้นจะทำให้เขาไม่ได้กลับบ้านไปอีกนานแสนนาน “อเมริกาเป็นคนละโลกกับเดนมาร์ก เปิดกว้างกว่าและ ผลักดันให้คนกล้าเสี่ยงมากกว่า คนเดนมาร์กนะครับ ผ่านไป 30 ปียังใช้ชีวิตเหมือนคนรุ่นพ่อแม่เป๊ะๆ ทำ อาชีพเดียวกัน อยู่บ้านหน้าตาเหมือนกัน ผมเลยเป็นคน แรกในตระกูลที่ทำงานสายครีเอทีฟ” คุณโทมัสเล่ายิ้มๆ
เขาคว้าปริญญาตรีด้านสถาปัตย์จาก University of Miami และใช้คำว่า ‘โชคดี’ เมื่อได้เข้าเรียนต่อ ปริญญาโทที่ Harvard Graduate School of Design จาก นั้นก่อตั้งบริษัทของตนเองในชื่อ Thomas Juul-hansen, Llc ที่กลายเป็นบริษัทสถาปัตย์มาแรงที่สุดในนิวยอร์ก ในวันนี้
เวลามีคนบอกว่าเขาเป็นดีไซเนอร์ระดับโลก คำว่า ‘ระดับโลก’ ให้ความรู้สึกว่าสุดยอดหรือเป็นความกดดัน เขาทำหน้านิ่งก่อนตอบช้าๆ ชัดๆ ว่า “ผมไม่ได้ยินคำว่า อะไรทั้งนั้น (ยิ้ม) จะพิสูจน์ให้เห็นว่าทำไม ผมไม่มีคนทำ พีอาร์ให้ ผมไม่มีโบรชัวร์ ไม่มีหนังสือรวมผลงาน ไม่มี แคตตาล็อก เว็บไซต์บริษัทก็ไม่อัพเดตมาเป็นปีแล้ว ไม่ เคยส่งผลงานไปแข่งขันหรือประกวดชิงรางวัล ไม่เคยส่ง ผลงานไปให้สื่อตีพิมพ์ ไม่เคยประชาสัมพันธ์ตัวเองใดๆ เลย ผมแค่อยากทำสิ่งที่ผมรู้สึกภูมิใจกับมันได้และ นั่นคือสิ่งเดียวที่สำคัญสำหรับผม ผมแค่อยากสร้างสิ่ง ที่มีคุณภาพซึ่งถ้าผมทำได้ดีก็มีงานทำต่อไป ถ้าผมทำ ไม่ดีก็ไม่มีใครจ้าง ผมเลยไม่สนใจกับไอเดียที่ต้องจ้าง พีอาร์มาคอยบอกกับใครๆ ว่า ‘โทมัสเจ๋ง โทมัสเก่ง’”
โครงการแรกในเมืองไทย
โลดแล่นอยู่ในวงการสถาปัตย์มากว่า 20 ปี คุณโทมัสยอมรับว่ามีคนติดต่อให้เขาออกแบบโครงการ จากทั่วโลก และหลุดหัวเราะเมื่อเจอคำถามว่าทำไม ต้องรอ 20 ปีกว่าจะมีโครงการแรกในเมืองไทย “มันยาก ที่จะหาคนที่มีความชื่นชมเหมือนกันกับผม มีคนเยอะ มากที่แค่อยากได้ชื่อผมไปแปะกับโปรเจกต์นั้นๆ ผมไม่ อยากทำตึกแค่เพราะมีคนเอาเงินมหาศาลมากองให้ผม ผมอยากทำงานกับคนที่มีเป้าหมายสูงกว่านั้น คนที่ อยากทำสิ่งที่ดีกว่าที่ผมคิดว่าตัวเองจะทำได้ เลยใช้ เวลาตั้ง 20 ปีกว่าผมจะได้มาเจอคุณยงยุทธ เขาไม่ อยากแค่ให้สโคป หลังสวนเป็นแลนด์มาร์คใหม่ของ กรุงเทพฯ แต่ให้เป็นในระดับโลกเลย”
ความกล้าจะแตกต่างของสโคป หลังสวน คือ การรวมห้องชุดพักอาศัย 158 ยูนิตในอาคารความสูง 34 ชั้นที่มีมูลค่าโครงการกว่า 8,400 ล้านบาท พรีเมียม ตั้งแต่ราคาขายเริ่มต้นที่ 38 ล้านบาทไปจนถึง 250 ล้านบาท ความพิเศษแรกที่สัมผัสได้ทันทีคือพื้นที่ห้อง กว้างขวาง เริ่มต้นที่ห้องขนาดหนึ่งห้องนอน 83 ตาราง เมตรไปจนถึงเพนต์เฮาส์ขนาด 443 ตารางเมตร ซึ่งทุก ยูนิตมีเพดานห้องสูงถึง 3.5 เมตร ส่วนห้องเพนต์เฮาส์ เพดานสูงถึง 4 เมตรที่มาพร้อมกระจกหน้าต่างสูงจาก พื้นจรดเพดานทุกห้อง รวมทั้งลิฟต์และล็อบบี้ส่วนตัว
“จริงอยู่ว่าห้องเล็กที่สุดคือ 83 ตารางเมตร แต่จริงๆ แล้วคุณได้ใช้พื้นที่รวมถึง 2,500 ตารางเมตร นั่นเท่ากับ พื้นที่ตึกเตี้ยๆ ทั้งตึกเลย” คุณโทมัสกล่าวถึงพื้นที่ส่วน กลางที่มีทั้งห้องฉายภาพยนตร์ที่มีระบบภาพและเสียง สุดล้ำ ห้องประชุม ห้องสำหรับแชร์พื้นที่ทำงานร่วมกัน สกายเลานจ์ ห้องดนตรี ห้องเก็บของส่วนบุคคล ห้อง กิจกรรมสำหรับเด็ก โรงยิม ฟิตเนส ออนเซ็น ซาวน่า ห้องโยคะ และสระว่ายน้ำควบคุมอุณหภูมิ อีกทั้งมี บริการระดับ 5 ดาวราวกับอยู่โรงแรม เช่น แม่บ้าน ทำความสะอาด การดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง และบริการช่วยจอดรถ
บ้านในฝันของนักออกแบบ
ถามถึงเมืองน่าอยู่ที่สุดในโลก เขาตอบทันทีว่า นิวยอร์ก “ผมทำหลายอย่างได้เยอะมากในวันหนึ่งๆ พลังของเมืองเยอะมากจนรู้สึกว่ามีชีวิตชีวาตลอดเวลา” และพูดถึงเสน่ห์ของกรุงเทพฯ ไว้ดังนี้ “ที่นี่มีวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์อันยาวนาน ขณะเดียวกันผู้คน ทันสมัยและเปิดกว้างมากต่อความหลากหลาย เช่น ใน เรื่องเพศและศาสนา” แต่เขานิ่งเงียบไปเกือบ 5 นาที ทีเดียวกับคำถามว่า ‘บ้านในฝัน’ ของนักตกแต่งภายใน อันดับต้นๆ ของนิวยอร์กหน้าตาเป็นอย่างไร
“ผมจะบอกให้ว่าวิวที่ผมมองเห็นจากบ้านในฝันของ ผมเป็นยังไง ผมเห็นมหาสมุทรครับ ผมคิดว่าวิวสำคัญ กว่าหน้าตาของบ้านเสียอีก ตอนเด็กๆ ผมโตมาในบ้าน พ่อแม่ที่อยู่ริมมหาสมุทรที่เดนมาร์ก ไม่มีวันไหนที่ผม ไม่เล่นเซิร์ฟ ถ้าผมสร้างสถานที่แบบนั้นได้ อาจจะนอก เมืองนิวยอร์ก ที่นั่นละคือบ้านในฝันของผม”
คุณโทมัสอธิบายว่าบ้านในฝันของคนส่วนใหญ่อาจ ไม่ใช่หน้าตาของบ้าน แต่เป็นความรู้สึกขณะอยู่ในบ้าน ต่างหาก “การได้กลับบ้านและมีความสุขคือของขวัญ ของชีวิต ถ้าผมช่วยให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีในด้านนี้ ได้ ผมจะมีความสุขมาก”
สิ่งที่ส่งให้เขาประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ได้มา จากคำนี้เช่นกัน ‘คุณภาพ’ “ผมเชื่อในการใช้เวลาอย่าง มีคุณภาพ ถ้าคุณทำงาน 45 ชั่วโมงต่อสัปดาห์แบบไม่อู้ คุณจะได้งานเท่ากับที่ใช้เวลาถึง 80 ชั่วโมง ยิ่งทำงาน มาก ประสิทธิภาพในการทำงานจะยิ่งตกลง แต่ทีมงาน ผมนะครับ เช้าวันจันทร์มานี่ผิวเป็นสีแทน ผ่อนคลาย ยิ้มแย้ม คุณภาพของงานก็สูงขึ้น และผมไม่เคยได้ยิน ว่าบริษัทสถาปัตย์ที่ไหนในโลกออกกฎห้ามพนักงาน ทำงานวันหยุดนอกจากบริษัทผม ผมไม่อยากทำงานกับ คนหน้าบึ้ง ขี้เหนื่อย และเกลียดเจ้านาย บริษัทอื่นเวลา ไปดื่มกันพนักงานสุมหัวกันบ่นเจ้านาย แต่ทีมผมไม่เคย บ่นว่าผมเลยสักคำ!”
เขามองไปรอบๆ ห้องของสโคป หลังสวนที่เขาลงมือ ตกแตง่ เองทกุ ตารางนว้ิ ดว้ ยสายตาภมู ใิ จ “เมอ่ื 20 ปกี อ่ น ตอนที่เพิ่งเริ่มอาชีพใหม่ๆ ผมภูมิใจกับสิ่งที่ทำลงไป สิ่งที่ กำลังอยู่ในวันนี้ผมก็ภูมิใจ และจะภูมิใจมากยิ่งกว่านี้อีก กบั สง่ิ ทผ่ี มจะทำไดใ้ นอนาคต เหมอื นถามวา่ รกั ลกู คนไหน มากทส่ี ดุ ผมกร็ กั เทา่ ๆ กนั ทกุ คนนะ่ แหละครบั ”
‘ใช้เวลาตั้ง 20 ปีกว่าผมจะทำ โครงการแรกในเมืองไทยที่สโคป หลังสวน ผมอยากทำให้ที่นี่เป็น แลนด์มาร์คใหม่ระดับโลก’