ดี ไซเนอร์ผู้ตกหลุมรักผ้าชาวไทยภูเขา
แบรนด์ดังสัญชาติอังกฤษ สร้างชื่อให้งานหัตถศิลป์ของชาวไทยภูเขา
Jet Shenkman เจ้าของแบรนด์และครีเอทีฟ ไดเร็กเตอร์ชาวดัตช์ ที่สร้างสรรค์ผลงาน เสื้อผ้าในสไตล์แห่งยุค 50s และ 60s ที่เป็นที่ นยิ มในหมเู่ ซเลบรติ แ้ี ถวหนา้ ตลอดจนเชอ้ื พระวงศ์ ของราชวงศ์อังกฤษ โดยเฉพาะดัชเชสเคตที่ทรง เป็นแฟนตัวยงของ EPONINE ไม่ว่าจะทรงฉลอง พระองค์องค์ไหนก็สร้างกระแสความนิยมและ ขายดีที่สุด
เจ็ต เช็งค์แมน ผู้มีความทรงจำในวัยเด็กถึง เสื้อผ้าของคุณแม่ในสไตล์ cashmere twin sets ที่ใส่คู่กับผ้าพันคอ Hermès ทำให้เธอหลงใหล การสะสมเสื้อผ้าวินเทจจากทั่วโลก ตลอดจน เป็นแรงบันดาลใจในงานออกแบบของเธอ โดย ไม่ได้ร่ำเรียนมาจากสถาบันใดๆ แต่ทำด้วยใจรัก ล้วนๆ จนก่อตั้งแบรนด์ของเธอเองในวัย 50 ปี ที่ มีจุดเด่นของแบรนด์คือ elegance และ femininity เน้นการเลือกใช้ผ้าคุณภาพดี งดงาม และเป็น เอกลักษณ์ โดยไม่ได้ตามเทรนด์ แต่สามารถใส่ ได้ทุกวัย ทุกขนาด ทุกรูปร่าง ซึ่งเธอบอกว่าเธอ ใช้เวลานับสิบปีในการหาสไตล์ของตนเอง
เจ็ตเดินทางมาเมืองไทยเพื่อร่วมงานแสดง สินค้าระดับนานาชาติ Style Bangkok 2019 ที่
จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ และร่วมสนทนาในหัวข้อ ‘ค้นหาศักยภาพสินค้าผ้าผืนและแฟชั่นไทย ตอบ โจทย์โลกยุคใหม่’
เธอมาเมืองไทยหลายครั้งแล้ว โดยครั้งแรก นั้นเป็นทริปโรแมนติกประทับใจและเซอร์ไพรส์ จากสามีซึ่งเป็น Investment Banker ชาวอังกฤษ ที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในเมืองใหญ่ๆ เธอย้อนเวลาให้ ฟังว่า
“ในช่วงฮันนีมูนเขาจัดทริปเซอร์ไพรส์ให้ และแวะมาที่กรุงเทพฯ ด้วย แล้วพาไปเชียงราย ไปล่องเรือเลียบแม่น้ำกกและนอนริมแม่น้ำด้วย เป็นประสบการณ์ที่ดีมาก ได้เห็นบ้านชาวเขา และที่จำได้ติดตาคือเห็นชุดกะเหรี่ยงตลอดทริป สวยมาก ฉันเริ่มสนใจอยู่ลึกๆ”
ในช่วงเวลานั้นเธอและสามีใช้ชีวิตประจำอยู่ ที่ญี่ปุ่น โดยเธอเป็นแม่บ้านและได้เข้าสังคมกับ แม่บ้านญี่ปุ่น สิ่งหนึ่งที่เธอสังเกตเห็นเกี่ยวกับ การแต่งกายคือ
“ทกุ คนใสแ่ บรนดเ์ นมกนั หมด พอไดม้ ารจู้ กั กนั เขาเห็นว่าฉันเป็นคนตะวันตกก็เลยขอให้มาช่วย เป็นสไตลิสต์ให้หน่อย ฉันก็ทำไปด้วยความชอบ
และเริ่มสนใจผ้าเก่า เริ่มหลงรักกิโมโน ชอบความยูนีก และชอบการสง่ั ตดั เฉพาะตวั
ด้วยสายตาของสไตลิสต์ที่สะสมประสบการณ์มา นาน ประกอบกับการเดินทางมากจึงช่วยเปิดโลกทัศน์ ของเธอ อีกทั้งมีความเข้าใจเรื่องรูปร่างของผู้หญิง จึง จุดประกายให้เธอเริ่มสร้างแบรนด์ของตัวเองที่เป็นการ สั่งตัดเท่านั้นในปี 2010 โดยใช้บ้านในลอนดอนเป็น สตูดิโอ พร้อมๆ ไปกับการเลี้ยงดูลูก 4 คน และลูกๆ นี่แหละที่เป็นคนตั้งชื่อแบรนด์ EPONINE เป็นภาษา ฝรั่งเศส “เมื่อลูกๆ เห็นแม่ทำธุรกิจนี้ ก็บอกว่าต้องใช้ชื่อ นี้เท่านั้นเลย คือ EPONINE ซึ่งเป็นตัวละครในเรื่อง les Misérables เพราะมีคาแร็กเตอร์ชัดเจนมาก”
ปัจจุบันลูกสาวคนที่ 2 ได้มาเป็นผู้ช่วยของเธอและมี สตูดิโอเป็นของตัวเองเมื่อ 7 ปีที่แล้ว
“ลูกสาว นีน่า มีความคิดสร้างสรรค์ดีมาก เป็น คนดูแลสตูดิโอ นับเป็นก้าวที่ใหญ่มากจากการทำงานที่ บ้านแล้วออกมาเช่าสตูดิโอข้างนอก แต่ฉันโชคดีมาก หลายคนต้องซัฟเฟอร์ แต่ฉันโตแบบช้าๆ
“ฉันมีวิชั่น แต่ตัดเสื้อไม่เป็น ก็หาคนจากลอนดอนมา สอนใหเ้ รยี นรวู้ ธิ ที ำเสอ้ื จนสดุ ทา้ ยเจอชา่ งเสอ้ื ทเ่ี ดนิ เขา้ มา ในชวี ติ และทำงานดว้ ยกนั มา 9 ปแี ลว้ ฉนั เปน็ แคส่ ไตลสิ ต์ เรามีทีมเวิร์กที่ดีมาก ยอมรับซึ่งกันและกัน และเราก็ยัง รับสั่งตัดอยู่ เมื่อลูกค้ามาที่สตูดิโอของเรา ก็จะนั่งคุยกัน วา่ ชอบสไตลไ์ หน จะใชผ้ า้ แบบไหน แลว้ จงึ ออกแบบ และ ใหล้ กู คา้ มาลอง ใชเ้ วลาทง้ั หมดประมาณ 6 อาทติ ย์
“ลูกค้าช่วงแรกๆ ก็มาจากเพื่อนๆ แล้วบอกต่อๆ กัน มา จนกระทั่งปี 2016 ก็ดังชั่วข้ามคืนอย่างมหัศจรรย์ มี คนโทร.มาจากเท็กซัสเพียงแค่ 2 นาทีที่ภาพดัชเชสเคต ใส่เสื้อของฉันเผยแพร่ออกไป”
EPONINE มาโด่งดังครั้งยิ่งใหญ่อีกทีเมื่อปีที่แล้วเมื่อ เครสสิด้า โบนาส อดีตพระสหายหญิงในเจ้าชายแฮร์รี่ สวมใส่ชุดชาวเขาซึ่งเป็นผลงานของเธอในพระราชพิธีเสก สมรสของเจา้ ชายแฮรร์ แ่ี ละเมแกน มารเ์ คลิ
“เครสสิด้าเป็นเพื่อนของลูกสาว เธอรู้ว่าสื่อต้องตาม ลา่ หาเธอในงานแตง่ งานในฐานะเปน็ แฟนเกา่ ของเจา้ ชาย แฮร์รี่ เธอมีสไตล์มากและไม่อยากทำอะไรที่เหมือน คนอื่น นีน่าพาเธอมาที่สตูดิโอ ขอให้แม่ทำเสื้อให้ เราก็ เลือกผ้ากันแล้วตัดชุดนั้น”
ชุดผ้าม้งสีชมพูสดใส สร้างความสนใจไปทั่วโลก รวมทั้งเสียงต่อว่าในโลกออนไลน์ว่า เธอไม่ได้ให้เครดิต กับที่มาของผ้าอันสวยงามนี้ว่าเป็นผ้าของชาวม้งจาก ประเทศไทย
“ฉันใช้ผ้านี้ด้วยความชื่นชมวัฒนธรรมนี้แต่ไม่ได้เอ่ย ชื่อว่าเป็นผ้าของม้งตั้งแต่แรก ไม่ใช่ว่าจะไม่ให้เกียรติแต่ อย่างใด ฉันไม่ได้ตั้งใจและเสียใจที่ตอนแรกไม่ได้ให้ เครดิตว่าผ้ามาจากไหน เพียงแต่บอกว่าเป็นผ้าชาวเขา ตอนนี้ฉันบอกเลยว่าเป็นผ้าของม้งตลอดเวลา เพื่อให้ เครดิตประเทศไทย และต่อไปนี้ก็จะให้เครดิตที่มาของ ผ้าแต่ละชิ้น ไม่ว่าจะเป็นชิ้นเล็กขนาดไหนก็ตาม เพื่อ เป็นการให้เกียรติที่มาของผ้านั้นๆ”
เธอหลงรักผ้าชาวเขาอย่างแท้จริง ด้วยเสน่ห์ของ สีสันและลวดลายที่เป็นอกลักษณ์
“เราเพิ่งมาใช้ผ้าชาวเขาเมื่อ 3 - 4 ปีมานี้เอง ฉันพบ ผ้าม้งที่เชียงใหม่ ฉันตื่นเต้นมาก ตอนแรกว่าจะเก็บไว้ เองเพราะชอบมาก มันพิเศษมาก ด้วยความที่ชอบผ้า พน้ื เมอื ง พอเรม่ิ มงี านแบบนก้ี ต็ อ้ งหาของทางอนิ เทอร์เน็ต กว่าจะเจอแต่ละเจ้าก็ต้องใช้เวลามาก และมีจำนวน
‘เราไปเลอื กซอื้ ผา้ จากศนู ยศ์ ลิ ปาชพี และพบผา้ ทมี่ ขี นาดเลก็ มากแตส่ วย จรงิ ๆ กต็ อ้ งวางแผนวา่ จะเอาไปทำ อะไร ผา้ ทฉี่ นั ซอื้ มกั มปี ระวตั คิ วาม เปน็ มาที่ใหค้ วามรสู้ กึ พเิ ศษ’
น้อยด้วย ทำให้ผลิตงานออกมายาก
“แพตเทิร์นของผ้าม้งหาที่ไหนไม่ได้แล้วในยุโรป มีทั้ง องค์ประกอบของครอสติช การปัก การให้สีที่ยูนีกมาก ชมพู แดง เขียว ดำ ฉันชอบไอเดียที่ชุดชุดหนึ่งไม่มีทาง เหมือนใคร ใส่ไปงานไหนรับรองว่าไม่ซ้ำใคร”
เมื่อแบรนด์ EPONINE ได้รับการตอบรับอย่าง ล้นหลามทั่วโลก ตั้งแต่ปี 2017 เธอจึงเริ่มทำเสื้อผ้า สำเร็จรูปออกมาปีละ 4 คอลเลกชั่น แต่ก็มีจำนวนไม่ มากนัก เพราะเธอมีทีมงานเพียงแค่ 5 คนเท่านั้น เมื่อถามถึงจุดเด่นของ EPONINE คืออะไร เธอตอบว่า “วินเทจที่ได้แรงบันดาลใจมาจากยุค 50s และ 60s โดยปรับให้มีความร่วมสมัย เป็นเดรสทรงเอไลน์ เข้าเอว และเข้ารูปช่วงบน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญเพราะคำชมที่สำคัญ ที่สุดมาจากผู้ชาย โดยเฉพาะผู้ชายที่ไม่ได้อยู่ในวงการ แฟชั่น มาบอกว่า รู้มั้ยเมื่อคืนเห็นผู้หญิงคนนึงในงาน ใส่ชุดสวยมาก ผมว่าต้องเป็นเสื้อผ้าของคุณแน่นอน หมายความว่ามันมีลุคที่เป็นซิกเนเจอร์ของเรา สำหรับ ฉันถือเป็นคำชมที่ยิ่งใหญ่มากในการสร้างสรรค์”
เธอยังนิยมใช้ผ้าวินเทจ หรือผ้าที่หายากมาสร้างสรรค์ ผลงาน รวมถงึ ผา้ จากมลู นธิ สิ ง่ เสรมิ ศลิ ปาชพี ฯ ดว้ ย
“อย่างวันนี้ที่เราไปเลือกซื้อผ้าจากศูนย์ศิลปาชีพด้วย และพบผ้าที่มีขนาดเล็กมากแต่สวยจริงๆ ก็ต้องวางแผน ว่าจะเอาไปทำอะไร ผ้าที่ฉันซื้อมักมีประวัติความเป็นมา ที่ให้ความรู้สึกพิเศษ เราดูที่สี งานฝีมือ คุณภาพและ ความยาวของผ้า ฉันชอบไปตามหมู่บ้านเล็กๆ แล้ว ออร์เดอร์มากกว่าใช้ผ้าไหมที่ผลิตจากโรงงานเพื่อการ ส่งออก แล้วเอาผ้าต่างๆ มาผสมกัน โดยไม่จำเป็นต้อง ตามเทรนด์ ผ้าบางชิ้นเป็นผ้าใหม่ แต่บางชิ้นเป็นผ้าเก่าที่ ผ่านการใช้งานมาแล้ว ฉันชอบผ้าเก่ามาก ฉันพยายาม สนับสนุนผ้าพื้นเมืองของอังกฤษด้วย ผ้าบางชนิดก็ทอใน อังกฤษ ฉันจะไม่ทิ้งเศษผ้าเลย จะส่งไปยังมูลนิธิเพื่อการ กุศลเพื่อให้ได้ใช้ประโยชน์ ไม่ให้เสียของสักนิด”
ท้ายสุด เธอให้คำแนะนำสำหรับคนที่ทำงานด้วยใจ รักและต้องผสมผสานกับการทำธุรกิจว่า
“มันเป็นเรื่องที่ท้าทายมาก และยากที่จะทำเงิน สำหรับธุรกิจแฟชั่น ขอให้ทำตามความฝัน มุ่งมั่นทำ และระวังคนที่บอกว่าคุณจะมีชื่อเสียง เป็นดีไซเนอร์ดัง เพราะเขาพยายามให้คุณทำปริมาณมากๆ ซึ่งจะทำให้ คุณสูญเสียทุกอย่าง
“ฉันพบดีไซเนอร์หน้าใหม่ที่อยู่ได้ไม่นานแล้วล้มเหลว เพราะทำใหญ่โตและเร็วเกินไป ฉันแนะนำว่า ให้ไปช้าๆ ถ้ามีสตูดิโอที่ไม่ใช่บ้าน ก็จะมีค่าใช้จ่ายสูง ให้อยู่กับ วิชั่นของตัวเอง อย่าปล่อยให้คนอื่นมาทำให้คุณก้าว กระโดดเร็วเกินไป ให้ไปช้าๆ”
เหมือนดังเช่น EPONINE ที่ประสบความสำเร็จแล้ว ในวันนี้