Hello! (Thailand)

ยลสถาปัตยกรรมงามก­ลางเมืองเว้

เมอื งหลวงเกา่ ยคุ จกั รวรรดขิ องเวยี ดนาม

-

เวยี ดนามตอนกลา­ง ในแถบดานงั ฮอยอนั และเว้ ยงั คง รอ่ งรอยแหง่ อดตี อนั ยง่ิ ใหญง่ ดงามทน่ี า่ ไปเยย่ี มชม โดย เฉพาะอยา่ งยง่ิ เว้ ซง่ึ เคยเปน็ เมอื งหลวงเกา่ ในสมยั ราชวงศ์ เหงยี น ชว่ ง พ.ศ. 2345 - 2488 มหี มโู่ บราณสถานใน­เมอื งเว้ ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดก โลกตง้ั แต่ พ.ศ. 2536 จงึ เปน็ เมอื งทน่ี า่ คน้ หา HELLO! พา คุณผู้อ่านไปค้นพบเสน่ห์ของเว้ ผ่านร่องรอยอารยธ­รรมที่ โลกยกยอ่ ง

การเดินทางไปเว้ไม่ยากเลยเพรา­ะมีสายการบิน บางกอกแอร์เวย์สบินตรงสู่ดานังทุกวันอย่างสะดวกสบา­ย และมีเลานจ์ใหม่ที่สนามบินสุวรรณภูมิให้ไปนั่งรอพร้อม บริการอาหารว่างและเครื่องดื่ม เดี๋ยวนี้นอกจากจะมี ขา้ วตม้ มดั ทข่ี น้ึ ชอ่ื จนเปน็ ทร่ี จู้ กั แลว้ ยงั มขี นมเทยี นไสเ้ คม็ รสชาติเข้มข้นให้ชิมอีกด้วย ส่วนเครื่องดื่มก็ไม่เคยนอกใจ

น้ำต้นข้าวสีเขียวที่ให้ความสดชื่นและเต็มอิ่มไปด้วยคุณ ประโยชนก์ อ่ นขน้ึ เครอ่ื งบนิ แมจ้ ะอม่ิ แปรแ้ ตอ่ าหารทเ่ี สริ ฟ์ บนเครื่องก็ปฏิเสธไม่ได้ด้วยความน่ารับประทาน คราวนี้ ขาไปเสิร์ฟผัดไทยและขาก­ลับเสิร์ฟข้าวผัดแสนอร่อย ซึ่ง ไม่เคยทำให้เราผิดหวังกับอาหารและก­ารบริการของ สายการบนิ บางกอกแอรเ์ วยส์ เลย

เราใช้เวลาบินประมาณสอง­ชั่วโมงเศษก็ถึงสนามบิน ดานงั ในเวลาเกอื บบา่ ยโมง ประทบั ใจในความให­ม่ ใหญโ่ ต และสะอาดสะ­อ้านของสนามบินมาก เราเดินทางต่อด้วย รถยนต์สู่เมืองเว้ ตามทางหลวง­หมายเลข 1 โดยลอด อโุ มงคไ์ หเ่ หวนิ ทไ่ี ดช้ อ่ื วา่ เปน็ อโุ มงคท์ ย่ี าวทส่ี ดุ ในเอเชยี ใต้ ความยาว 6.3 กม. การสรา้ งอโุ มงคน์ ต้ี อ้ งเจาะภเู ขาขนาด ใหญ่ 3 ลกู เพอ่ื ยน่ ระยะทางขน้ึ เขา จากนน้ั เดนิ ทางลดั เลาะ เลียบภูเขาที่โอบแนวชายฝั่งทะเลเอาไว้ นับว่าเป็นแนว ชายฝง่ั ทส่ี วยทส่ี ดุ แหง่ หนง่ึ ของเวยี ดนาม โดยดา้ นหนง่ึ เปน็ ทะเลสาบชาย­ฝั่งที่มีน้ำใสแจ๋ว ส่วนอีกด้านเป็นหาดทราย บริสุทธิ์ยาวหลายกิโลเมตร เพลิดเพลินกับวิวสองข้างทาง ตลอดระยะเว­ลาสองชว่ั โมงเศษจงึ ถงึ ทพี่ี กั

ทพ่ี กั ของทรปิ นท้ี ต่ี ง้ั ตารอคอยมาน­าน คอื AZERAI La Residence ซึ่งเป็นโรงแรมแห่งใหม่ในเครือธุรกิจใหม่ของ มสิ เตอรเ์ อเดรยี น เซกา้ (Adrian Zecha) นกั ธรุ กจิ ผสู้ รา้ งโรงแรม ดว้ ยใจรกั อยา่ งมรี สนยิ ม เจา้ ของตำนาน AMANRESORT­S และเป็นโรงแรมแห่งที่สองในเวียดนาม โดยแห่งแรกอยู่ที่ เมืองเกิ่นเทอ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ในประเทศเว­ยี ดนาม

อาเซอรัย เป็นชื่อที่ฟังแปลกหู มีที่มาส่วนหนึ่งจาก ชอ่ื ยอ่ ของคณุ เอเดรยี น เซกา้ และอกี สว่ นหนง่ึ มาจากสว่ น ท้ายของคำว่า คาราวานเซอ­รัย (Caravanser­ai) ในภาษา

เปอรเ์ ซยี ซง่ึ หมายถงึ ทพ่ี กั ของนกั เดนิ ทาง โรงแรมนม้ี โี ลเคชน่ั ทด่ี มี ากตง้ั อยรู่ มิ แมน่ ำ้ หอม (Perfume River) และมปี ระวตั ศิ าสตรท์ ่ี นา่ สนใจ เปดิ ดำเนนิ การเมอ่ื พ.ศ. 2548 โดย นักธุรกิจชาวฝรั่งเศสจับมือกับการท่องเที่ยว ของเมอื งเวเ้ พอ่ื บรู ณะอาคารทส่ี รา้ งมาตง้ั แต่ พ.ศ. 2473 เคยเปน็ สว่ นหนง่ึ ของจวนผวู้ า่ การ ในยคุ อาณานคิ ม เมอ่ื อาณานคิ มฝรง่ั เศสลม่ สลายลงใน พ.ศ. 2497 La Residence จงึ กลาย เป็นบ้านพักรับรองเจ้าหน้าที่ระดับสูงเรื่อย มา เพิ่งแกรนด์โอเพนนิ่งในนาม AZERAI เมื่อต้นปีนี้ หลังรีโนเวตครั้งใหม่จึงสดใส สวยงาม นบั เปน็ โรงแรมทด่ี ที ส่ี ดุ ในเมอื งน้ี จดุ ทน่ี า่ สนใจสำหรบั เราชาวไทยอ­ยตู่ รง ที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนก­าธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหารา­ช บรมนาถ บพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชช­นนีพันปี หลวงเคยประ­ทับที่นี่เมื่อเสด็จพระราช ดำเนนิ เยอื นเวยี ดนามเมอ่ื พ.ศ. 2502 หอ้ งทป่ี ระทบั อยดู่ า้ นบนสดุ ตรงกลางของ­อาคารทเ่ี ปน็ รปู ทรงกลม มปี กี ออกมาทง้ั 2 ขา้ ง อนั เปน็ สว่ นดง้ั เดมิ ของอาคาร และสว่ นทต่ี อ่ ขยายเพม่ิ กย็ งั คงยดึ คอนเซปตเ์ ดมิ จงึ มคี วามกลมกลนื กนั ของอาคารทง้ั หมด ใหค้ วามรสู้ กึ เหมือนอยู่ในยุค 50s ทั้งโครงสร้างและเฟอร์นิเจอร์ สไตลอ์ ารต์ เดโคงดงามแ­ละอบอนุ่ มาก ทส่ี ำคญั คอื ถา่ ยรปู มมุ ไหนๆ กส็ วยไปหมด

เช้าวันรุ่งขึ้นเราล่องแม่น้ำหอมกับเรือมังกรชม วัดและวัง แม่น้ำหอมอันกว้างใหญ่มีน้ำใสสะอาด และยังมีประชาชนมาว่ายน้ำอยู่เป็นประจำทุกเช้า รมิ แมน่ ำ้ ปลกู พชื สมนุ ไพรทส่ี ง่ กลน่ิ หอมสมชอ่ื แมน่ ำ้ เปน็ ชว่ งเวลา 30 นาทที ผ่ี า่ นไปอยา่ งมคี วามสขุ ของ การลอ่ งเรอื มงั กรรปู ทรงแปลกตาท­พ่ี าเรามาเทยี บทา่ ท่ี Thien Mu Pagoda ทเ่ี หน็ เดน่ แตไ่ กล เปน็ เจดยี ท์ รง แปดเหลย่ี ม 7 ชน้ั แทนชาตติ า่ งๆ ของพระพทุ ธเจา้ มอี ายกุ วา่ 300 ปี ทน่ี ม่ี ที ง้ั ความสงบและ­ความเศรา้ เมื่อเดินไปดูรถออสตินสีฟ้าซึ่งเป็นรถที่พระภิกษุวัย 73 ปจี ากวดั เทยี นมใู่ ชไ้ ปประทว้ งโดยการเผา­ตวั เอง

จนมรณภาพเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลของประ­ธานาธิบดี โง ดนิ ห์ เดยี ม ประธานาธบิ ดคี นแรกของเวยี ดนามผโู้ คน่ ลม้ ระบอบกษตั รยิ บ์ า่ วได๋ ใหห้ ยดุ กดี กนั ชาวพทุ ธและปกปอ้ ง พระพทุ ธศาสนาใน พ.ศ. 2506 ทไ่ี ซง่ อ่ น ถอื เปน็ อนสุ รณ์ แห่งความโหดร้ายและสุดเศร้าที่ติดอยู่ในใจชาวเมืองเว้ ที่สำคัญ หัวใจของท่านไม่ไหม้ไปกับกองเพลิง ปัจจุบัน เกบ็ ไวใ้ นสถปู ทองคำใหป้ ระชาชนไดม้ าสกั การะทว่ี ดั น้ี

จากวัดเราเข้าชมพระราชวังเก่าแก่ The Imperial City of Hue หรอื Citadel ทล่ี อ้ มรอบดว้ ยคนู ำ้ และตน้ ไม้ ใหญ่ร่มครึ้ม แสดงถึงความเก่าแก่ของที่นี่ เป็นหนึ่งใน มรดกโลกของ­เวียดนามซึ่งสร้างตามแบบพร­ะราชวัง ตอ้ งหา้ มของจนี คอื มกี ำแพงสงู ถงึ 3 ชน้ั มพี ระราชฐาน ชน้ั นอก ชน้ั ใน และทอ้ งพระโรง แมพ้ น้ื ทบ่ี างสว่ นกลาย เป็นซากปรักหักพังไปแล้ว แต่รัฐบาลเวียดนามยังคง บูรณะให้ใกล้เคียงกับสภาพเดิมมากที่สุด แต่เราก็ยังได้ เหน็ ถงึ ความรงุ่ เรอื งในอดตี จากงานฝมี อื อนั ประณตี ทห่ี า เทยี มไดย้ ากในสมยั น้ี โดยเฉพาะศลิ ปะการใชส้ สี นั งานไม้ และงานกระเ­บอ้ื งตามผนงั และกำแพงอนั ตระการตา

ที่สุดของที่สุดคือ Tomb of Khai Dinh สุสานของ จกั รพรรดไิ คดงิ หท์ ต่ี ง้ั อยบู่ นเนนิ เขาลอ้ มรอบ 2 ดา้ นและ มองเหน็ นำ้ จงึ ถอื เปน็ ฮวงจยุ้ ทด่ี ี ใชเ้ วลากอ่ สรา้ งนานถงึ 11 ปี ตน่ื ตาตน่ื ใจตง้ั แตบ่ นั ไดมงั กรทท่ี อดยาวขน้ึ สชู่ น้ั 1 และบนั ไดสชู่ น้ั 2 อนั เปน็ ลานกวา้ ง เรยี งรายดว้ ยรปู ปน้ั หนิ ของเหลา่ ทหาร มา้ ชา้ ง ราวกบั สสุ านจน๋ิ ซี ชน้ั บนสดุ คอื สุสานที่ยิ่งใหญ่และอลังการในงานฝีมือ ตั้งแต่พื้น ผนัง จรดเพดานที่งดงามด้วยภาพมังกรในม่านเมฆที่จิตรกร รังสรรค์ด้วยเท้าได้อย่างน่าอัศจรรย์ และยังมีทั้งงาน ประดับกระจก กระเบื้องในโทนสีเหลืองที่บ่งบอกถึง สัญลักษณ์ของเวียดนาม เราต้องค่อยๆ เดินชมเพื่อ ซมึ ซบั ความงามอนั วจิ ติ รทย่ี ากจะบรรยาย ไดเ้ หน็ ถงึ การ ผสมผสานศิลปะตะวันออกเข้ากับตะวันตกได้อย่าง ยอดเยย่ี ม ดว้ ยจกั รพรรดไิ คดงิ ห์ พระราชบดิ าบญุ ธรรม ในจักรพรรดิบ๋าวได๋ ทรงครองราช­ย์นาน 9 ปีในยุคที่ ฝรง่ั เศสเขา้ มาปกครอง และทรงเปน็ จกั รพรรดใิ นราชวงศ์ เหงียนเพียงพระองค์เดียวที่ได้เดินทางไปฝรั่งเศส มี รูปปั้นสำริดขนาดเท่าพระองค์จริงของจักรพรรดิไคดิงห์ ซง่ึ สรา้ งทฝ่ี รง่ั เศสใน พ.ศ. 2465 ตง้ั อยตู่ รงกลางสสุ านท่ี ยกพื้นสูงที่สุด นับเป็นที่สุดของโบราณส­ถานแห่งเว้ ทต่ี อ้ งไปชมใหไ้ ด้

ท่ามกลางอากา­ศร้อนจัดของเดือนพฤษภาคม ทำให้เราต้องกลับมาพักผ่อนที่โรงแรมเป็นระยะๆ เพื่อ หลบไอรอ้ น การสลบั กจิ กรรมของวนั ดว้ ยการเขา้ สปาใน ช่วงบ่ายจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด จนหลับใหลไป ท่ามกลางกลิ่นอโรมาหอมข­องน้ำมันนวด กล่อมด้วย เสยี งเพลงเบาๆ และสมั ผสั ทอ่ี อ่ นโยนของเธอ­ราพสิ ต์

สดชน่ื แลว้ จงึ ออกไปตอ่ ทว่ี ดั Tu Hieu ซง่ึ เปน็ วดั เกา่ แก่

และเงียบสงบของท่านติช นัท ฮันห์ ที่ต้องหาโอกาสไ­ป สักการะแม้ท่านจะไม่ได้จำวัดช่วงนั้น แต่เพื่อความสงบ ทางจิตใจและความ­เป็นสิริมงคล ก่อนไปรับประทาน อาหารเย็นมื้อแห่งความประทับใจที่บ้านเก่าของผู้ที่ ทำงานให้ราชวงศ์ที่มีอายุกว่าร้อยปี และตกทอดมา­ถึง ทายาทรุ่นที่ 3 คือ คุณวินห์ สถาปนิกนักอนุรักษ์ที่ Tha Om Garden House ซง่ึ เปน็ บา้ นเกา่ ทผ่ี สมผสานธรรม­ชาติ ได้อย่างกลมกลืนกับงานสถาปัตยกรรม โดยเป็นบ้านที่ ไมม่ ผี นงั แตจ่ ะทำเปน็ บานประตพู บั ทเ่ี ปดิ รบั ลมธรรมชาติ เพราะอยู่ในเขตอากาศ­ร้อนชื้น ฉะนั้นจึงเย็นสบาย มี อากาศถา่ ยเทอยา่ งดี ลมพดั ผา่ นตลอดเวลา และมบี อ่ นำ้ ลอ้ มรอบ แมใ้ นยามคำ่ คนื ยงั สมั ผสั ไดถ้ งึ วถิ ชี วี ติ และความ เป็นอยู่ที่เคยรุ่งเรืองในอดีต ในขณะลิ้มรสอาหารสูตร ชาววังที่ปรุงโดยภรรยาแ­บบเวียดนามแท้ เสิร์ฟมาใน พอรช์ น่ั เลก็ ๆ ในบรรยากาศ­ทล่ี อ้ มรอบดว้ ยสวน มที อ้ งฟา้ และพระจันทร์ให้ชื่นชม นับเป็นประสบการณ์ในการ รับประทานอาห­ารอร่อยที่ประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เนอ้ื ยา่ งบนแผน่ กระเบอ้ื งดนิ เผาบนเตาถา่ นหอมๆ ทน่ี ำมา หอ่ ผกั สไตลเ์ วยี ดนาม อม่ิ ทง้ั อาหารและบร­รยากาศ ตลอด จนศลิ ปวฒั นธรรม

จบวันด้วยการนั่ง Cyclo ท่องราตรีเมืองเว้อย่าง สนกุ สนาน พรอ้ มความรสู้ กึ ทบ่ี อกกบั ตวั เองวา่ ‘เวม้ ดี กี วา่ ทค่ี ดิ ’ ประชาชนยงั มคี วามสขุ ยม้ิ แยม้ และเปน็ มติ ร

วันสุดท้ายก่อนกลับยังได้แวะไปที่ศาลเจ้าหง็อกเซิน เจ้าหญิงหง็อกเซินเป็นพระราชธิดาในจักรพรรดิด่ง คั๊ญ แห่งราชวงศ์เหงียนที่ครองราชย์เพียงระยะสั้นแค่ 3 ปีใน ชว่ ง พ.ศ. 2428 - 2432 เธอแตง่ งานกบั พลโท เหงยี นฮวยเทยี น ลกู ชายของขา้ ราชสำนกั ชน้ั ผใู้ หญแ่ หง่ ราชวงศเ์ หงยี น และ เสียชีวิตหลังคลอดลูกสาวได้ไม่นานในวัยเพียง 20 ปี ใน พ.ศ. 2464 เหงยี นฮวยไดส้ รา้ งบา้ นตามแบบฉบบั ของบา้ น สวนเว้ให้เป็นสถานที่สักการะเจ้าหญิงหง็อกเซิน ภรรยา คนแรกของเข­า ที่สร้างตามตำราฮ­วงจุ้ย และทายาทจา­ก ภรรยาคนท่ี 2 ยงั รกั ษาคณุ คา่ ทางจติ วญิ ญาณแบบดง้ั เดมิ ที่ดีของบรรพบุรุษและดำเนินวิถีชีวิตด้วยการยกย่องบูชา บรรพบรุ ษุ และเปน็ ทเ่ี คารพสกั การะของชาว­เมอื งเวม้ าแต่ โบราณดว้ ย นบั เปน็ เวลาผา่ นมาเกอื บรอ้ ยปแี ลว้ แตท่ น่ี ย่ี งั คงความสวยง­ามของธรรมช­าติและสถาปัตยกรรม ภายในบ้านเต็มไปได้เฟอร์นิเจอร์แอนทีกอายุกว่าร้อยปี ภาพถ่ายของบรรพบุรุษ รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวที่ ลกู หลานเกบ็ รกั ษาไวใ้ หค้ นรนุ่ หลงั ไดช้ น่ื ชม

การมาเยือนเมืองเว้ในครานี้ ได้สัมผัสถึงจิตวิญญาณ ของชาวเมืองเว้ที่ยังคงยึดมั่นต่อขนบธรรมเนียมประเพณี แต่โบราณที่ยึดโยงอยู่กับราชสำนักอย่างเหนียวแน่น มี ความเปน็ เอกลกั ษณท์ แ่ี ตกตา่ งจากเมอื งอน่ื ๆ ในเวยี ดนาม มาก จงึ เปน็ อกี จดุ หมายหนง่ึ ทน่ี า่ ไปเยอื น

 ??  ??
 ??  ??
 ??  ?? ประตูทางออกพระร­าชวังที่มีประตูโค้ง 3 ช่อง ตกแต่งงดงามด้วยงานฝังกระเบื้องตามศิลปะ ของเวียดนาม AZERAI Le Residence ที่พักกลางเมืองเว้ สไตล์อาร์ต เดโค ที่มีอายุเกือบ 90 ปี ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของจวนผู้ว่าฯ ในยุคอาณานิคม ภายในโรงแร­ม AZERAI Le Residence งดงามด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์อาร์ต เดโค และความอบอุ่นของยุค 50s
เจดีย์เทียนมู่ ริมแม่น้ำหอม ทรงแปดเหลี่ยม 7 ชั้น แทนชาติต่างๆ ของพระพุทธเจ้า มีอายุกว่า 300 ปี
ประตูทางออกพระร­าชวังที่มีประตูโค้ง 3 ช่อง ตกแต่งงดงามด้วยงานฝังกระเบื้องตามศิลปะ ของเวียดนาม AZERAI Le Residence ที่พักกลางเมืองเว้ สไตล์อาร์ต เดโค ที่มีอายุเกือบ 90 ปี ซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของจวนผู้ว่าฯ ในยุคอาณานิคม ภายในโรงแร­ม AZERAI Le Residence งดงามด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์อาร์ต เดโค และความอบอุ่นของยุค 50s เจดีย์เทียนมู่ ริมแม่น้ำหอม ทรงแปดเหลี่ยม 7 ชั้น แทนชาติต่างๆ ของพระพุทธเจ้า มีอายุกว่า 300 ปี
 ??  ?? พระราชวังเว้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อ พ.ศ. 2536 สถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลจากจีนมากเพราะถูกปกครองโดย­จีน มานับพันปี
พระราชวังเว้ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อ พ.ศ. 2536 สถาปัตยกรรมได้รับอิทธิพลจากจีนมากเพราะถูกปกครองโดย­จีน มานับพันปี
 ??  ?? (บน) ทางเดินรอบพระราช­วังมุงหลังคา และตกแต่งด้วยไม้ลงรักสีแดงประดับ ทองที่ยังงดงามอยู่จนทุกวันนี้
(ขวา) หนึ่งในอาหารปร­ะจำชาติของ เวียดนามคือ ปอเปี๊ยะทอด
(บน) ทางเดินรอบพระราช­วังมุงหลังคา และตกแต่งด้วยไม้ลงรักสีแดงประดับ ทองที่ยังงดงามอยู่จนทุกวันนี้ (ขวา) หนึ่งในอาหารปร­ะจำชาติของ เวียดนามคือ ปอเปี๊ยะทอด
 ??  ??
 ??  ?? สุสานของจักรพรรดิไคดิงห์ จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายของเวียดนาม งดงามด้วยการผสมผส­านของศิลปะตะวันตก กับตะวันออกได้อย่างกลมกลืน
สุสานของจักรพรรดิไคดิงห์ จักรพรรดิพระองค์สุดท้ายของเวียดนาม งดงามด้วยการผสมผส­านของศิลปะตะวันตก กับตะวันออกได้อย่างกลมกลืน
 ??  ?? อาหารเวียดนามเต็มไปด้วยผักนานาชนิด หอมสมุนไพร รสชาติอ่อนละมุน
ที่ Tha Om Garden House
อาหารเวียดนามเต็มไปด้วยผักนานาชนิด หอมสมุนไพร รสชาติอ่อนละมุน ที่ Tha Om Garden House
 ??  ?? รูปปั้นจักรพรรดิไคดิงห์ตั้งอยู่เหนือสุสานสร้างที่ฝรั่งเศส
รูปปั้นจักรพรรดิไคดิงห์ตั้งอยู่เหนือสุสานสร้างที่ฝรั่งเศส

Newspapers in Thai

Newspapers from Thailand