The Beautiful Crown
ยอดมงกุฎแห่งความงดงาม คือเหล่าผลงาน เรือนเวลาที่รังสรรค์ขึ้นด้วยความประณีต ละเอียดอ่อนของงานออกแบบ และงานฝีมือการตกแต่งที่เป็นดั่งสัญลักษณ์แห่ง มรดกอันล้ำค่าของประเพณีการประดิษฐ์นาฬิกา
CHOPARD L.U.C Flying T Twin
นาฬิกาซึ่งติดตั้งด้วยกลไก flying tourbillon ชุดแรก ของแบรนด์ ภายใต้ความสง่างามและโดดเด่นทาง เทคนิคของตัวเรือนบางพิเศษทำจากโรสโกลด์ ‘Fairmined’ ผ่านประกาศนียบัตรรับรอง พร้อมบรรจุ หน้าปัดทองแกะลาย guilloché ด้วยมืออย่างประณีต และเปิดโชว์ flying tourbillon รุ่นพิเศษนี้ผลิตขึ้นใน จำนวนจำกัดเพียง 50 เรือน ออกแบบขึ้นสำหรับบุรุษ ผู้หลงใหลในการประดิษฐ์นาฬิกาชั้นสูงอันร่วมสมัย พร้อมทั้งประทับตราแห่งคุณภาพอันทรงเกียรติ ‘Poinçon de Genève’
The New Santos-dumont Watch
นวัตกรรมเรือนเวลาข้อมือภายใต้งาน ออกแบบแห่งนวัตกรรม ซึ่งยังคงไว้ด้วย หน้าปัดทรงสี่เหลี่ยมและตกแต่งด้วย สกรูที่ตั้งใจให้มองเห็นได้เพื่อความ โดดเด่นของนาฬิกา ปิดท้ายด้วยสายซึ่ง สามารถรองรับไปกับสรีระข้อมือได้อย่าง ลงตัวในทุกๆ การเคลื่อนไหว
BVLGARI Octo Finissimo Chronograph GMT Automatic
หวนกลับมาสร้างสถิติโลกครั้งที่ 5 ให้กับคอลเลกชั่น Octo Finissimo ด้วยการเป็นนาฬิกาจักรกลโครโนกราฟบางที่สุดเท่าที่เคยมี มาในประวัติศาสตร์การประดิษฐ์นาฬิกา จากการติดตั้งกลไกจักรกล อัตโนมัติ BVL 318 caliber พร้อมด้วยฟังก์ชั่น GMT ที่มีความหนา เพียง 3.3 มม. ภายในตัวเรือนไทเทเนียมขนาด 42 มม. แต่บางพิเศษ เพียง 6.9 มม. ประกอบเข้ากับสายไทเทเนียมขัดแต่งแซนด์บลาสต์
HUBLOT Classic Fusion Ferrari GT
เผยนวัตกรรมบทใหม่ ภายใต้สัมพันธภาพแห่ง ความล้ำเลิศระหว่าง Hublot และ Ferrari ที่นำเสนอผ่าน เรือนเวลารุ่นพิเศษล่าสุดของทั้งคู่ใน Hublot Classic Fusion Ferrari GT ผสมผสานระหว่างงานออกแบบแห่ง นวัตกรรมยานยนต์เข้ากับสมรรถนะแห่งกลไกอย่าง UNICO ชุดใหม่ที่ผลิตจากโรงงานของตนเอง
นับตั้งแต่ประกาศความร่วมมือขึ้นในปี 2011 Hublot และ Ferrari ได้สร้างซึ่งปรากฏการณ์ครั้งใหม่ของ เทคโนโลยีแห่งยานยนต์และจักรกล สู่คุณสมบัติและ งานออกแบบอันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งถูกถอดรหัสไว้ ภายในผลงานการสร้างสรรค์นาฬิการุ่นพิเศษตัวแทน ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ โดยผลงานในแต่ละเอดิชั่นยัง ล้วนแสดงออกถึงสไตล์ใหม่ นับจากความสำเร็จของ Big Bang Ferrari สู่ MP-05 Laferrari และ Techframe ที่ ถ่ายทอดจิตวิญญาณแห่งการแข่งขันความเร็วผ่าน นวัตกรรมและความประณีตของเรือนเวลาได้อย่าง ลงตัว และเป็นแรงผลักดันให้ Ferrari Design Centre และ Hublot ยังคงเดินหน้าสร้างสรรค์ผลงานของพวก เขาอย่างไม่หยุดยั้ง เช่นเดียวกับในปีนี้ที่ Hublot ได้เผย โฉมเรือนเวลาอันเปลือยโปร่งและสง่างาม ซึ่งเชื่อมโยง ถงึ จกั รวาลแหง่ ‘Gran Turismo’ อนั โดง่ ดงั ภายใตร้ ปู ทรง ตัวเรือนที่คมชัดด้วยเส้นสายเฉพาะตัวและเปี่ยมด้วย พลังของตัวเรือน Classic Fusion ขนาด 45 มม. ติดตั้ง ด้วยกลไกจักรกลอัตโนมัติ flyback chronograph ความถี่ 4 เฮิรตซ์ และสำรองพลังงานได้นาน 3 วัน ที่นับเป็น คุณสมบัติอันเป็นประโยชน์สำหรับการใช้งานในชีวิต ประจำวัน ขณะเดียวกันยังเผยให้เห็นการทำงานของ จักรกลจับเวลานี้จากด้านหน้าปัดอย่างโดดเด่น โดยใน เรือนเวลาสปอร์ตถอดรหัสจากความสัมพันธ์อันยิ่งใหญ่ นี้จะมีให้เลือกทั้งหมด 3 เวอร์ชั่นแตกต่างกัน คือ รนุ่ Titanium ผลติ จำนวนจำกดั เพยี ง 1,000 เรอื น King Gold ผลิตจำนวนจำกัด 500 เรือน และ 3D Carbon ผลิตขึ้น จำนวนจำกัดเพียง 500 เรือน นับเป็นอีกหนึ่งสักขีพยาน แห่งสัมพันธภาพอันแน่นแฟ้นและยาวนานของ Hublot และ Ferrari ที่วันนี้ได้ร่วมกันเขียนประวัติศาสตร์ หน้าใหม่ให้กับการเดินทางอันยิ่งใหญ่ของพวกเขา อีกครั้ง