3 สาวพรประภา เจนจิรา - จิราพร - จิราภา

เส้นสายใยรักในบ้านคอร์ตยาร์ดกลางฟ้า

‘คุณพ่อเรียกบ้านหลังนี้ว่า รังปลวก เพราะแต่ละชั้นจะมีทางเดิน ซอกแซกมุดห้องนั้น โผล่ชั้นนี้ ได้’ คุณเจน

‘ตอนสร้าง ตั้งใจจะให้ ทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัว แต่บังเอิญว่า ธรรมชาติเรา ชอบอยู่รวมกัน เราก็จะขนกันไปรวมที่ ห้องนั่งเล่นหน้าห้อง คุณพ่อคุณแม่’ คุณเจน

‘ถึงในบ้านจะมีพื้นที่ส่วนตัว ให้กับทุกคน …แต่ก็ ออกแบบบ้านเน้นการใช้เวลา อยู่รวมกันมากๆ ค่ะ’ คุณจอย

ในส่วนของผนัง ไม้สักทั้งหมด มีการ ควบคุมความชื้น ของไม้ที่อบ ทั้งคัด สี คัดผิวไม้ ดูอายุไม้

‘ห้องส่วนตัวของ แต่ละคนสะท้อน ความเป็นตัวเอง ดีมาก ห้องพี่เจน ห้องพี่จอย นี่เปิด เข้าไป จะรู้สึกเลยว่า “อ้า…ใช่! คนนี้เลย”’ คุณน้องเล็ก

ในซอยสุขุมวิท 49 มีบ้านหลังหนึ่งซ่อนตัวอย่าง เงียบเชียบอยู่ในแนวต้นปีบนับสิบต้น แต่ละต้นสูง 14 - 15 เมตร หน้าประตูบ้าน ปลูกต้นจิกน้ำและต้น รวงผึ้ง ยามหน้าแล้ง ต้นจิกออกดอกแดงทิ้งช่อเป็น สายๆ ราวกับม่านดอกไม้แซมใบเขียว

บ้านหลังนี้ ชั้นล่างเป็นที่จอดรถ ปูหินก้อนสี่เหลี่ยม จัตุรัสทั่วพื้น เห็นแล้วนึกถึงถนนแอปเปียนที่กรุงโรม พอ เดินขึ้นชั้น 2 คุณจะยิ้มด้วยความรู้สึกว่าโลกทั้งใบสว่าง ขึ้นมา และถูกดึงให้ไปยืนริมสระว่ายน้ำใต้ซุ้มเล็บมือนาง พร้อมกับหันมองท้องฟ้ากับเมฆก้อนเล็กๆ ที่ลอยอยู่ อย่างไม่รู้ตัว ไม่น่าเชื่อว่า บ้านที่สร้างบนเนื้อที่ 149 ตารางวา จะให้ความรู้สึกดั่งโลกเปิดกระจ่างได้ขนาดนี้

บ้านหลังนี้ โครงสร้างเป็นรูปตัว U และสระว่ายน้ำ ชั้น 2 อยู่ตรงกลางตัว U สถาปนิกจงใจเว้นช่องกลางตึก เปิดโล่งไว้ให้เป็นคอร์ตยาร์ดสำหรับคนในบ้านจะมานั่ง เล่นและกินข้าวด้วยกัน พื้นสระว่ายน้ำปูหินภูเขาไฟโทน สีเขียวครามที่นำเข้าจากสเปน พื้นรอบๆ คอร์ตยาร์ด บางส่วนปูไม้สักทองขนาดกว้าง 8 นิ้ว หนา 1 นิ้ว บาง ส่วนปูหินดำจากสเปน ห้องส่วนตัวของคนในบ้านอยู่ชั้น 3 -4 ส่วนชั้น 5 มีห้องนอนแขก พื้นที่ดูวิวกรุงเทพฯ และ ห้องพระ ซึ่งคุณอารักษ์ บิดาของสามสาวพรประภาใช้ เป็นที่นั่งสมาธิเกือบทุกวัน

“คุณพ่อเรียกบ้านหลังนี้ว่ารังปลวก เพราะแต่ละชั้นจะ มีทางเดินซอกแซกมุดห้องนั้นโผล่ชั้นนี้ได้” คุณเจนจิรา พรประภา (เจน) บุตรสาวคนโตของคุณอารักษ์และ คุณสุรีย์พร (ซินดี้) เล่าอย่างอารมณ์ดี เธอกับน้องสาวคือ คุณจิราพร (จอย) และคุณจิราภา (น้องเล็ก) ให้เกียรติเปิด บ้านของครอบครัวต้อนรับ HELLO! ส่วนน้องชายอีกคน ของคุณเจนนั้น เธอบอกว่า “เจมส์บอนด์ (คุณจิราภัทร พรประภา) วันนี้ไม่อยู่ ไปเที่ยวต่างประเทศกับภรรยาค่ะ”

ครอบครัวสามสาวย้ายมาอยู่บนที่ดินผืนนี้ตั้งแต่ คุณน้องเล็กเพิ่งเกิดได้ไม่นาน ครั้นสี่พี่น้องเริ่มโตเป็น หนุ่มเป็นสาว คุณพ่อคุณแม่เห็นว่า บ้านหลังเดิมเริ่มเก่า ลูกๆ ก็น่าจะต้องการพื้นที่ส่วนตัวที่กว้างขึ้นจะต่อเติมไป ก็จำกัดอยู่แค่นั้น จึงตัดสินใจรื้อบ้านเก่าออกและให้ คุณภากร มหพันธ์ สถาปนิกแห่ง M Space ที่เคยช่วย ออกแบบออฟฟิศของครอบครัวคุณพ่อ มาช่วย ออกแบบบ้านหลังใหม่

โจทย์ ‘รังปลวก’ ที่คุณอารักษ์พูดถึง ถูกตีความเป็น ภาษาสถาปนิกออกมาเป็นบ้านหลังเล็ก 5 หลังในบ้าน

หลังใหญ่หลังเดียว บ้านหลังเล็ก หมายถึง พื้นที่ส่วนตัว ของสี่พี่น้อง กับของคุณพ่อคุณแม่ และพื้นที่ส่วนตัว เหล่านี้จะถูกออกแบบให้เชื่อมโยงถึงกันอยู่ในบ้านใหญ่ พี่น้องทุกคนจะมีห้องส่วนตัวที่ ภายในจะมีส่วนนอน ส่วนพักผ่อน ส่วนทำงาน และส่วนแพนทรีของตนเอง พร้อมมูล เสมือนเป็นบ้านหลังเล็กๆ ของพวกเขาเอง และบ้านหลังเล็กๆ เหล่านี้ก็ถูกออกแบบในรายละเอียด ให้ตอบสนองบุคลิกของแต่ละคน บางส่วนจัดเป็นลอฟต์ บางส่วนเป็นดูเพล็กซ์ บางส่วนเล่นระดับตามความ ต้องการของเจ้าของแต่ละคน

คุณเจนกับคุณจอยต่างจบปริญญาโทจากอเมริกา ชอบห้องส่วนตัวที่เป็นฟลอร์เดียว

คุณเจมส์บอนด์อยากได้ห้อง 2 ชั้น ส่วนนั่งเล่น และ ส่วนนั่งทำงานของเขาจะอยู่ที่ชั้น 3 และมีบันไดขึ้นไป

ชั้น 4 ซึ่งเป็นส่วนนอน

คุณน้องเล็กจบสถาปนิกด้าน Urban Design จาก มหาวิทยาลัยเมจิ อยากได้ห้องเล็กๆ ไว้เป็น ‘ฐานทัพ ลับ’ ส่วนตัว ห้องของเธอก็จะดีไซน์เล่นระดับ และ มีบันไดเล็กๆ ขึ้นไปบนชั้นลอยใต้เพดานห้องตนเอง พร้อมช่องสกายไลต์ไว้ให้นั่งดูท้องฟ้า ใช้เป็นที่เก็บงาน ดีไซน์และภาพเขียนของเธอ หรือจะนั่งวาดภาพใน ‘ฐานทัพลับ’ ของเธอก็สุดแต่ใจ

คุณน้องเล็กบอกว่า “ห้องส่วนตัวของแต่ละคน สะท้อนความเป็นตัวเองดีมาก ห้องพี่เจน ห้องพี่จอยนี่ เปิดเข้าไปจะรู้สึกเลยว่า ‘อ้า…ใช่! คนนี้เลย’ ทั้งการ ตกแต่ง ทั้งการออกแบบใช่เลย”

“ถึงในบ้านจะมีพื้นที่ส่วนตัวให้กับทุกคน” คุณจอย ได้เสริมคุณน้องเล็กว่า “แต่ก็ออกแบบให้มีพื้นที่ส่วน รวมหรือ public space เยอะมาก ชั้น 2 ทั้งชั้นเป็นพื้นที่ที่ ใช้ร่วมกัน ห้องนั่งเล่นหน้าห้องนอนคุณพ่อคุณแม่ที่ชั้น 3 ก็เป็นส่วน public space ที่ใหญ่มาก ขึ้นลิฟต์เปิดมาก็ เข้าห้องนี้ และทุกคนก็จะไปขลุกเล่นกับน้องหมา ดูทีวี ซีรี่ส์ ดูละครด้วยกันที่ห้องนี้ ชั้น 4 ก็มีส่วน public space ชั้น 5 ก็มีส่วน public space การออกแบบบ้านเน้นการ ใช้เวลาอยู่รวมกันมากๆ ค่ะ”

“ตอนสร้าง ตั้งใจจะให้ทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัว” คุณ เจนบอก “แต่บังเอิญว่า ธรรมชาติเราชอบอยู่รวมกัน เราก็จะขนกันไปรวมที่ห้องนั่งเล่นหน้าห้องคุณพ่อคุณ แม่ และเราก็ชอบเอากิจกรรมของเรามาทำในห้องนี้”

คุณเจนปัจจุบันดำรงตำแหน่ง President ของ Third500 (เดิมชื่อ Healthios) ช่วงนี้ต้องช่วยบริษัท แม่ที่อเมริกาเปิดสาขาที่สิงคโปร์ก็จะค่อนข้างยุ่ง แทนที่จะหลบไปทำงานที่ห้องตนเอง เธอก็จะขน คอมพิวเตอร์มานั่งทำ Financial Model ในหมู่ น้องๆ

คุณจอยที่เป็นอาจารย์ประจำภาควิชาภาษา อังกฤษและภาษาศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ อดีตรองคณบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์ บางทีก็จะขนงานวิชาการมานั่งทำที่ห้องนั่งเล่น ของครอบครัว ใครจะดูทีวี หรือเล่นกับน้องหมาก็ เล่นไป เธอทำงานของเธอได้ แม้แต่คุณน้องเล็ก เองที่ทำงานด้านออกแบบ ซึ่งน่าจะต้องการโลก ส่วนตัวมากกว่าใคร ก็บอกว่า “ชอบเอางานมานั่ง ทำกับครอบครัว ไม่ชอบไปนั่งทำคนเดียว รู้สึก เหงา” ว่าแล้วเธอก็หัวเราะ “และเราชอบดูทีวีด้วย กัน ไม่มีอารมณ์แบบไปเปิดดูคนเดียว ดูคนเดียว ไม่สนุกค่ะ”

“ส่วนใหญ่เราจะดูทีวีซีรี่ส์ แต่ถ้าคุณพ่อจะดู แข่งมอเตอร์ไซค์ เราก็ดูด้วย ชอบไม่ชอบก็ต้องดู ไฟต์บังคับ” คุณเจนบอก ก็คุณพ่อของสามสาว เป็นผู้สนับสนุนการแข่งขันมอเตอร์ไซค์ และท่าน ยังดำรงตำแหน่งรองประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ.พี.ฮอนด้า จำกัด อันเป็นบริษัทที่คุณปู่ ของเธอ (ดร.ไพโรจน์ พรประภา) ก่อตั้งร่วมกับทาง ฮอนด้าญี่ปุ่น บริษัทครองยอดขายรถจักรยานยนต์ อันดับหนึ่งของประเทศไทยมาร่วม 30 ปี สาวๆ บ้านนี้ก็ต้องช่วยเชียร์การแข่งขันทุกแมตซ์

ในการก่อสร้างบ้านหลังนี้ครอบครัวยังเลือก ที่จะใช้ระบบการก่อสร้างแบบที่ใช้กันในอาคาร ขนาดใหญ่ และให้บริษัท BCM เข้ามาเป็นที่ ปรึกษาและช่วยควบคุมช่างก่อสร้างอีกที ทุกขั้น ตอนการก่อสร้างจึงได้มาตรฐาน ไม่ว่าจะเป็น ความเหลวของคอนกรีต การจี้คอนกรีต Formwork ที่ใช้ไปถึงน้ำยาลอก Formwork เพื่อให้ได้ผนังบ้าน ที่สม่ำเสมอ ส่วนที่เป็นปูนเปลือยก็ออกมาให้เนื้อที่ สวย วัสดุที่เลือกใช้ก็คัดสรรอย่างประณีต มีการใช้ กันสาดวัสดุกระจกที่ดูโมเดิร์นอย่างมาก ให้แสง สว่างสาดเข้าสู่ตัวบ้าน แต่กันฝน ทั้งยังมีการใช้ ระเบียงกระจกนิรภัยเทมเปอร์ไร้โครงสร้างบดบัง สายตา ให้มุมมองบ้านที่ดูโปร่ง ไม่ทึบตัน

ด้านการตกแต่ง เจ้าของบ้านจะไปเดินเลือกซื้อ เฟอร์นิเจอร์กับสถาปนิกและให้อาจารย์สุริยะ อัมพันศิริรัตน์ เป็นผู้ออกแบบภูมิทัศน์และลง ต้นไม้รอบบ้าน ส่วนเฟอร์นิเจอร์ไม้ภายในบ้าน ส่วนใหญ่จะเป็นของอาจารย์ไสยาสน์ เสมาเงิน ท่านเป็นศิลปินช่างไม้ที่เจ้าของบ้านรักและสนิท สนมด้วยเป็นพิเศษ

บ้านพรประภาจึงมั่นคงด้วยโครงสร้างที่แข็งแรง และความผูกพันของคนในครอบครัวที่เหนียวแน่น อย่างยิ่ง

การก่อสร้างใช้ระบบการ ก่อสร้างแบบที่ใช้ในอาคาร ขนาดใหญ่ และมีบริษัทที่ ปรึกษาเข้ามาช่วยควบคุม การก่อสร้างอีกที