H! NEW FACE:
ไพรำ ชุมพล ณ อยุธยา ผู้ใฝ่ฝันเป็นเจ้าของ ART GALLERY ในมหานครนิวยอร์ก
เพราะรักในการวาดรูป ถ่ายภาพ เล่นดนตรี ทั้งเล่น ระนาดเอกและเปียโนมาตั้งแต่เด็กๆ ‘คุณลูกหนูไพรำ ชุมพล ณ อยุธยา’ ทายาทรุ่นที่ 5 ของราชสกุล ชุมพล หลานสาววัย 19 ปี ของคุณปู่ ม.ร.ว.จาตุรีสาณ ชุมพล จึงเต็มเปี่ยมไปด้วยความสามารถหลากหลาย ด้าน อีกทั้งเธอยังเป็นเด็กสาวที่กล้าคิด กล้าตัดสินใจ และกล้าลองทำทุกอย่างด้วยตัวของเธอเอง จากการ เลี้ยงดูแบบให้อิสระทางความคิดกับลูกสาวเพียงคน เดยี วของ ‘คณุ พอ่ หน-ู ม.ล.สภุ สทิ ธ์ิ ชมุ พล’ และ ‘คณุ แม่ บีบี้-สุอาภา ชุมพล ณ อยุธยา’
“ความจริงต้องขอบคุณพ่อกับแม่ที่ไม่เคยบังคับ หรือกำหนดเส้นทางชีวิตให้เราเดินแบบตรงเป๊ะ แต่จะ ขีดเส้นบางๆ ไว้เป็นแนวทางว่า นอกเส้นนี้อาจจะ ไม่ปลอดภยั อาจไมด่ ี ไมง่ า่ ยสำหรบั ลกู เรอ่ื งบางอยา่ งท่ี เราอยากทำ พอ่ กบั แมก่ จ็ ะแนะนำ โดยชใ้ี หเ้ หน็ ถงึ ผลดี และผลเสีย โดยยกตัวอย่างและอธิบาย เสร็จแล้วจะ ให้เราเลือก ให้ตัดสินใจเอง และต้องยอมรับผลของ การตัดสินใจที่จะเกิดขึ้นตามมา เรื่องไหนทำลงไปแล้ว ผลออกมาแล้วเราเดือดร้อน พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ซ้ำเติม อย่างตอนที่ตัดสินใจเลิกเรียนอาร์ตไปเรียนฟิสิกส์แทน แล้วไม่แฮปปี้ จนตัดสินใจลาออกจากโรงเรียน Shrewsbury International School เพื่อไปเรียนที่ The Madeira School พ่อกับแม่ก็ไม่ได้ห้ามอะไร แถมยัง สนับสนุนและคอยช่วยเหลือทุกอย่าง”
ขีด ‘เส้นทางชีวิต’ ด้วยตัวเอง
อีกหนึ่งสิ่งที่สาวน้อยคนนี้รักและหลงใหลไม่แพ้กับ ศิลปะและดนตรี นั่นก็คือ ‘การถ่ายภาพ’ ที่ได้ทำงาน ร่วมกับคนอื่น เพราะบางครั้งเธอลงทุนจ้างนางแบบ นิวยอร์กแฟชั่นวีคมาเป็นแบบให้ถ่ายภาพฝึกปรือฝีมือ และเกบ็ เปน็ ผลงาน “การถา่ ยภาพพอรเ์ ทรตและคนใน ลักษณะต่างๆ ทำให้เราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ได้ช่วยกันหามุมมองใหม่ๆ ในการถ่ายภาพ ต่างจาก การวาดรูปที่ต้องใช้เวลาอยู่กับตัวเอง ถ่ายทอด อารมณ์ออกมาผ่านเส้นสายและสีสัน ส่วนการเล่น ดนตรีก็เป็นการผ่อนคลายอารมณ์จากเพลงที่เราได้ เล่นเอง”
แน่นอนว่าเธอสามารถเข้าเรียนที่ Pratt Institute สหรัฐอเมริกา สถาบันสอนศิลปะอันดับต้นๆ ของโลก ได้ โดยเลือกเรียนถ่ายภาพตามความชอบ แต่พอเรียน ไปเรื่อยๆ กลับมาเจอข้อจำกัดเดิมๆ กับการกำหนด หัวข้อ อันเป็นสิ่งที่ตัวเองพยายามหลีกหนีมาตลอด เมื่อความรู้สึกอึดอัดมาเยือนอีกครั้งและไม่อยากเบื่อ การถ่ายภาพที่รักมาก จึงเลือกที่จะถอยออกมา โดย เปลี่ยนไปเรียน Fine Art - Painting แทน แล้วปล่อย ให้การถ่ายภาพยังคงเป็นงานอดิเรกที่รักมากต่อไป เมื่อไหร่ที่อยากจะถ่ายภาพก็หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายได้ ตามใจชอบ
จากหลังเลนส์ สู่เบื้องหน้าการเป็น ‘นางแบบ’
และงานอดิเรกดังกล่าวก็กลายเป็นประตูโอกาสสู่ รันเวย์ระดับอินเตอร์ ทว่าไม่ใช่ในฐานะช่างภาพแฟชั่น แต่เป็นนางแบบที่เดินเฉิดฉายในงาน New York Fashion Week Spring / Summer Collection 2019 “ต้องบอกว่าเป็นความบังเอิญมากกว่าค่ะ เพราะตอน แรกตั้งใจหานางแบบเพื่อมาเป็นแบบถ่ายภาพเก็บ เป็นผลงาน ก็หาข้อมูลในเว็บไซต์ต่างๆ แต่ดันไปเจอ ประกาศรับสมัครนางแบบเดินนิวยอร์กแฟชั่นวีค เลย คิดว่าไหนๆ เราก็ลองทำอะไรมาหลายอย่างแล้ว ลอง หาประสบการณ์เกี่ยวกับการเดินแบบบ้างก็ไม่น่าจะ เป็นอะไร
“อันที่จริงแม่ก็ไม่ยอมหรอกค่ะ เพราะเห็นว่าเรายัง เดก็ กลวั วา่ ลำพงั คนเดยี วเขา้ ไปในวงการนจ้ี ะไมท่ นั คน แต่ก็ตื้อแม่จนใจอ่อน วันรายงานตัวเราไปแบบงงๆ หน้าไม่แต่ง ถือใบสมัคร พร้อมรองเท้าส้นสูงหนึ่งคู่ ส่วนคนอื่นๆ ถือแฟ้ม portfolio มากันทุกคน จากนั้น ทีมงานก็ให้ลองเดิน พร้อมถ่ายรูปหน้าตรง หน้าข้าง เก็บไว้ แล้วให้กลับบ้านไปรอฟังผล ถ้าได้รับเลือกตอน เย็นจะมีข้อความส่งไปให้มาฟิตติ้ง เราก็รอไป แต่ ปรากฏว่าค่ำแล้วยังไม่มีข้อความใดๆ ส่งมา คิดว่าคง ไม่ได้ ตอนนั้นแม่ดีใจมากๆ จนกระทั่งตี 1 ถึงมี ข้อความแจ้งว่าได้รับคัดเลือกและให้มาฟิตติ้งชุด”
สุดท้ายเธอก็ได้รับเลือกให้เป็น 1 ใน 5 นางแบบที่ เดินให้กับแบรนด์ Siani Alexa แม้จะเป็นการเดินแบบ ครั้งแรก แต่ผลงานออกมาน่าพอใจ ได้รับคำชมจาก ทีมงานแฟชั่นวีค “มีเวลาซ้อมแค่ไม่กี่ชั่วโมง แต่ รองเท้าที่ใส่มันกัดมาก ซ้อมจนเนื้อที่เท้าเปิดเป็นแผล ก่อนเดินจริง เจ็บจนไม่อยากก้าวเท้า แต่ก็กัดฟันบอก ตัวเองว่า นี่เป็นรันเวย์ของเราแล้ว ต้องทำให้ดีที่สุด พอเดินเสร็จมารู้ทีหลังว่า มีสไตลิสต์จากเมืองไทยมา ดูโชว์และชมให้เพื่อนแม่ฟังว่าเดินเก่ง ไม่รู้ว่าเราเป็น คนไทย ตอนแม่มาเล่าให้ฟังก็ดีใจมากค่ะ”
อย่างไรก็ตาม ถึงจะเลือกเรียนศิลปะ หลงใหลการ ถ่ายภาพ และเล่นดนตรีอย่างที่ใจรัก แต่เธอกลับไม่ได้ คาดหวังว่าตัวเองจะต้องเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงระดับ โลก แค่ใฝ่ฝันที่จะเป็น Art Dealer และมี Art Gallery เปิดแสดงผลงานศิลปะสักแห่งในมหานครนิวยอร์ก เมืองที่ศิลปินจากทั่วโลกต่างแวะเวียนมาหาแรง บันดาลใจ พร้อมทั้งช่วยโปรโมตงานของศิลปินหน้า ใหม่ๆ ให้เป็นที่รู้จักด้วย