H! WATCH:
THE QUEEN’S SELECTION
Queen of Naples คือชื่อนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลก ซึ่งเป็นของสุภาพสตรี อันเป็นของขวัญชิ้นมาสเตอร์พีซ ที่ Breguet มาสเตอร์แห่งโลกนาฬิกาประดิษฐ์ขึ้น และได้กลายเป็น เรือนเวลาอันดับหนึ่งของเหล่าราชินีในประวัติศาสตร์โลก
นตนาการของคนคนหนึ่งพลิกโลกแห่งเรือนเวลาอย่าง นับครั้งไม่ถ้วน เมื่อนับจากศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา อบั ราฮมั -หลยุ ส์ เบรเกต์ คดิ คน้ นวตั กรรมใหมๆ่ ทเ่ี ปน็ มรดก แก่ช่างทำนาฬิการุ่นหลังสืบมาจนถึงปัจจุบัน เช่น กลไก ทูร์บิญอง (Tourbillon) ที่แก้ปัญหาความไม่เที่ยงตรงของ นาฬิกาอันเกิดจากแรงโน้มถ่วงของโลก หรือระบบขึ้นลาน อตั โนมตั ิ (Self-winding) ซง่ึ ทำใหก้ ลไกตา่ งๆ ภายในนาฬกิ า ทำงานอย่างต่อเนื่องด้วยตัวเองโดยอาศัยแรงเคลื่อนไหว
เบรเกต์ยังเป็นผู้คิดค้นนาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลก Reine de Naples หรือในภาษาอังกฤษแปลว่า Queen of Naples ซึ่งเบรเกต์ทำขึ้นตามพระประสงค์ของคาโรลีน มูราต์ พระกนิษฐาในจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 แห่งฝรั่งเศส ซึ่งต่อมาสตรีผู้นี้ครองพระยศเป็นราชินีแห่งแคว้นเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี พระนางประสงค์จะมีนาฬิกาข้อมือแทน นาฬิกาพก
นาฬิกาที่เบรเกต์ประดิษฐ์ขึ้นตามออร์เดอร์ที่ไม่เคยมี ใครทำไดม้ าก่อน มีหน้าปัดรปู ทรงวงรี ตดิ ต้งั กลไกเคาะ บอกเวลา ใชร้ ะบบปลอ่ ยจกั รแบบกา้ นโยกและปรอทวดั อุณหภูมิ สายนาฬิกาทำจากเส้นทองถักบางเฉียบเท่า เส้นผม แลดูคล้ายกำไลข้อมือ หน้าปัดเงินแกะลาย กิโยเช่ ตกแต่งตัวเลขอารบิก ใช้ช่างฝีมือถึง 17 คนกับ เวลาอีก 2 ปี 6 เดือนทำนาฬิกาหนึ่งเรือน สลักตัวเลข No.2639 กอ่ นนำขน้ึ ทลู เกลา้ ฯ ถวายราชนิ แี หง่ เนเปลิ สใ์ น ปี 1812 น่าเสียดายที่นาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลก สาบสญู ไปหลงั ปรากฏตวั ครง้ั สดุ ทา้ ยในปี 1849
ทว่าสิ่งที่ไม่เคยจางหายไปคือนาฬิกา Queen de Naples ได้รับการยกย่องว่าเป็นที่สุดแห่งความงามของ นาฬิกาสำหรับสุภาพสตรี และยังเป็นเรือนเวลาที่ราชินี หลายพระองค์ทรงเลือกสรรมานานกว่า 200 ปี ตั้งแต่ พระนางมารี อองตัวเน็ตต์ สมเด็จพระราชินีนาถ วิกตอเรีย ไปจนถึงจักรพรรดินีโจเซฟีน
รุ่นที่โดดเด่นในคอลเลกชั่นนี้ ได้แก่ Cammea แสดง ศิลปะการแกะสลักนูนสูงซึ่งสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมานับ ศตวรรษภายในตระกูลช่างของเมือง Torre del Greco ในเขตเนเปิลส์ ประเทศอิตาลีเท่านั้น โดยช่างฝีมือจะใช้ เครื่องมือสตีลปลายแหลมสลักหน้าปัดที่ทำจาก เปลือกหอยทีละชั้นจนได้ความลึกที่ไม่ถึง 2 มิลลิเมตร สลักเป็นรูปดอกทานตะวัน ซึ่งเป็นรูปที่เคยสลักถวาย ราชินีแห่งเนเปิลส์ อันเป็นต้นแบบนาฬิกาข้อมือเรือน แรกของโลก
Les Jardins du Petit Trianon-les Glycines เป็นรุ่นที่ ได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘เลส์ กลีซีนส์’ ดอกไม้สีน้ำเงิน และม่วงที่ปลูกไว้ในสวนหน้าวัง Le Petit Trianon ที่ ประทับโปรดของพระนางมารี อองตัวเน็ตต์ ซึ่งเบรเกต์ นำดอกไม้ชนิดนี้มาตีความใหม่เป็นโบประดับไพลิน และเพชรรูปหยดน้ำวางอยู่ใต้ตัวเรือนทองคำขาว 18 กะรัต สายนาฬิกาทำจากผ้าซาตินสีม่วงสด เป็นการ ยกระดับศิลปะแห่งเรือนเวลาที่ผสานศาสตร์ความงาม ของอัญมณีเข้าด้วยกัน เบรเกต์ยังออกแบบชุดเครื่อง ประดับเข้าชุดกัน ไฮไลต์อยู่ที่สร้อยคอทองคำขาว 18 กะรัต ซึ่งมีเพียงชิ้นเดียวในโลกและประดับด้วย ไพลินถึง 270 เม็ด
Rêve de Plumes เป็นอีกรุ่นที่ได้แรงบันดาลใจจาก ขนนก เครอ่ื งประดบั โปรดของพระนางมารี อองตวั เนต็ ต์ เบรเกต์ถ่ายทอดมาเป็นนาฬิกาน้ำหนักเพียง 223 กรัม ตัวเรือนทองคำขาว 18 กะรัต ฝังเพชร 1,395 เม็ด น้ำหนัก 33.83 กะรัต ส่วนตัวขนนกประดับด้วยมรกต หรืออัญมณีต่างๆ อีก 341 เม็ด
พระนางมารี อองตัวเน็ตต์ทรงเป็นมิวส์องค์สำคัญ ของเบรเกต์ ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากราชินีผู้ทรงพระ เยาว์แห่งฝรั่งเศสในนาฬิกาหลายรุ่น เช่น Marieantoinette Dentelle ประดับริ้วเพชรเหลี่ยมและทับทิม พมา่ ทข่ี อบตวั เรอื น สายนาฬกิ าผา้ ซาตนิ สแี ดงสด แสดง ถงึ ความสงู ศกั ดข์ิ องพระนาง และ Le Petit Trianon ซึ่ง พิเศษที่มีวงแหวนประดับด้วยเพชรทรงพรินเซสคัตและ เพชรเหลี่ยมมรกตคล้องตัวเรือนและสายนาฬิกาผ้า ซาตินสีดำเข้าด้วยกัน เป็นตัวแทนพระตำหนักโปรดของ พระนาง
ส่วน Baguette เป็นรุ่นที่ฉีกกรอบเส้นสาย ละมุนละไม แล้วแทนที่ด้วยเหลี่ยมคมของ เพชรเหลี่ยมที่ขอบตัวเรือน ส่วนหน้าปัดใช้ เทคนิคชั้นสูงฝังเพชรเหลี่ยมสลับกับพื้นมุก รวมแล้วประดับเพชรเหลี่ยมกว่าร้อยเม็ด แต่แทรกความอ่อนหวานที่สายนาฬิกาสไตล์ สายสร้อยเพชรที่ทำจากไข่มุกอะโกย่าสีชมพู จึงเป็นเหมือนกำไลข้อมือที่มีฟังก์ชั่นบอกเวลาเที่ยงตรง ไปด้วยในตัว
ความเท่ที่ไม่ธรรมดาอยู่ในรุ่น Big Number แม้จะอยู่ ในโทนสีเงินทั้งเรือนด้วยวัสดุหลักอย่างมาเธอร์ ออฟ เพิร์ลและเพชร แต่ก็มีลูกเล่นน่าสนใจอยู่ที่พื้นหน้าปัด ทำจากเนื้อมุกธรรมชาติ ตัวเลขอารบิกเขียนด้วยมือ เล่นขนาดต่างๆ กัน และสายสร้อยนาฬิกาแบบสายโซ่ แซมด้วยเพชรให้มีเอฟเฟกต์วิบวับ ซึ่งมีให้เลือกขนาด เล็กลงในรุ่น Mini อีกด้วย
สิ่งที่น่าประทับใจเกี่ยวกับนาฬิกาคอลเลกชั่นนี้ก็คือ มุมมองที่เบรเกต์มีต่อผู้หญิง ช่างทำนาฬิกาผู้นี้มองว่า ผู้หญิงเป็นได้มากกว่าเครื่องประดับในชีวิตของผู้ชาย และถึงกับทำนายอนาคตอย่างไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าในภาย ภาคหน้าผู้หญิงจะออกไปทำงานหาเลี้ยงตัวได้ ไม่ได้ เป็นแม่และภรรยานั่งอยู่บ้านรอให้ผู้ชายหาเลี้ยงอีก ต่อไป นาฬิกาข้อมือเรือนแรกของโลกจึงตกเป็น ของผู้หญิง หนำซ้ำเบรเกต์ยังออกแบบอย่าง ใส่ใจว่าต้องมีน้ำหนักเบาให้อยู่บนข้อมือเล็กๆ ของเธอได้
อาจกล่าวได้ว่า Queen of Naples เป็นนาฬิการุ่นปฏิวัติโลกอย่างแท้จริง แม้ประดับด้วยอัญมณีอย่างวิจิตร หรูหราไม่ต่างจากสร้อยข้อมือ แต่ จุดประสงค์หลักก็คือเป็นเครื่อง
บอกเวลา เมื่อเบรเกต์ตระหนักว่า ผู้หญิงต้องการเครื่องมือในชีวิต มากกว่าจะใช้ชีวิตที่มีแต่เครื่อง
ประดับ และเธอต้องการลิขิต เวลาของตัวเองได้ไม่ว่าจะ
เป็นผู้หญิงในยุคสมัย
ใดก็ตาม