‘ผมอยากมีใครรว่ มแชรค์ วาม รสู้ กึ นกี้ บั ผม นคี่ อื เหตผุ ลที่ ผมคดิ วา่ พรอ้ มแลว้ ทจี่ ะสรา้ ง ครอบครวั ของตวั เอง อยาก กา้ วไปอกี เฟสของชวี ติ ’
เงินส่วนนี้ที่ระเหยไปทุกเดือนๆ ผมรับได้ไหม” ขณะที่คนฟังกำลังคิดตาม คุณเซนต์ก็ส่งตัวอย่าง มารัวๆ “นาฬิกาที่ผมใส่ ถ้าราคาตกผมจะรีบขาย ถือว่าเรากำไรการใช้ไปแล้ว หรือราคากำลังขึ้น เอาๆ ผมก็ขาย จนบางทีคุณแม่บอกว่า ‘ซื้อมาก็ เก็บไว้ใช้เถอะลูก’ (หัวเราะ) คือผมไม่ยึดติดกับ สิ่งใดทั้งสิ้น ผมมีของสะสมเยอะ แต่ถ้าอะไรที่เกิน fair value ผมก็ขาย ส่วนการใช้จ่ายเพื่อความสุข หรือหาประสบการณ์ให้ชีวิต ผมก็คิดแบบเดียวกัน ฉะนน้ั กอ่ นใชจ้ า่ ยอะไร ผมคดิ แบบนท้ี กุ อยา่ ง คณุ แม่ ก็งงๆ และบ่นบ้างว่าผมจะคิดอะไรเยอะแยะ (หัวเราะ) แต่ผมไม่เครียดกับสิ่งที่ทำนะครับ ทุก อย่างมันคิดอัตโนมัติไปเองแล้ว คนรอบข้างก็คงมี อึดอัดบ้าง (ยิ้ม) แต่คิดฟังก์ชั่นนี้แล้วผมแฮปปี้และ รู้สึกเซฟเพราะรู้ว่าเราใช้จ่ายอะไรไปเท่าไหร่ มันจะ มีมูลค่ายังไงในอนาคต ผมรู้หมด แต่ผมก็จะ ไม่เปลี่ยนคนอื่นให้ต้องคิดและทำเหมือนอย่างผม”
คุณเซนต์ก็มีการลงทุนของตัวเองควบคู่ไปด้วย นอกจากเล่นหุ้นแล้ว เขาเลือกลงทุนในธุรกิจโรง ไฟฟ้าพลังงานลม “จากข้อมูลวิเคราะห์แล้วว่า ทำได้และให้ผลตอบแทนที่ดีมากๆ ที่สำคัญคน ลงทุนไม่เยอะ นี่คือสิ่งที่ผมคิดดีแล้วและมองว่านี่ คือโอกาส ที่สำคัญผมเลือกผู้ร่วมงานที่มีในสิ่งที่เรา พร่องเพื่อมาเติมในสิ่งที่เราขาด สำหรับผมขอเลือก คนเก่งและนิสัยดีเท่านั้นครับ” นอกจากนี้คุณเซนต์ ยังร่วมลงทุนในธุรกิจร้านตัดผม Never Say Cutz ของคุณนานา ไรบีนากับคุณเวย์ ไทเทเนียม “ผม เข้าไปเสริมในจุดที่เขาอาจจะขาดได้ ช่วยให้ ทำงานเป็นระบบและได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า ใน ขณะที่ทั้งสองคนเป็นศิลปิน ถนัดการครีเอทีฟและ การทำพีอาร์ เหมือนผมเข้าไปช่วยดูหลังบ้านให้ เขา เพื่อให้เขาดูหน้าบ้านได้อย่างไม่ต้องห่วงหน้า พะวงหลัง”
เมื่อเทียบขนาดธุรกิจบาร์เบอร์กับธุรกิจของ โกลเบล็กดูจะแตกต่างกันสิ้นเชิง “Never Say Cutz เป็นแบรนด์ที่แข็งแรงมาก ผลตอบแทนต่อ