H! PASSION:
‘การวางมาดเป็นความน่าหมั่นไส้ ที่ทำให้คนหลงรักชาร์ลี’
พิมภัทร์ ยมนาค ‘การวางมาดเป็นความ น่าหมั่นไส้ที่ทำให้คนหลงรักชาร์ลี’
หากเป็นทาสแมวแล้วละก็ น่าจะเคยได้ยินชื่อเสียง ของเจ้า ‘ชาร์ลี บราวน์’ แมวอินดี้ผู้โด่งดังในไอจี charliebrownthecat ตัวนี้กันมาบ้าง เพราะมีสาวกแมว ที่ฟอลโลว์ตามชมความน่ารักน่าหมั่นไส้ของชาร์ลีกัน ไม่น้อย ถึงขนาดเคยได้รับเกียรติเป็นหนึ่งในแมวจาก ทั่วโลกที่ได้อยู่ในหนังสือ Cats on Instagram มาแล้ว
“วันหนึ่งพิมไปเห็นไอจี snoooopybabe เป็นแมวพันธุ์ เอ็กซอติก ช็อตแฮร์ (Exotic Shorthair) ที่น่ารักมากเลย ชอบและชักอยากเลี้ยงแมวขึ้นมา ได้ไปเจอรุ่นพี่ซึ่ง บังเอิญเลี้ยงแมวที่เป็นพี่น้องท้องเดียวกับเจ้าสนู้ปปี้ ตัวนี้พอดี พิมได้ลูกมันมาเลี้ยง และเพื่อให้เข้ากับแก๊ง การ์ตูนคลาสสิกสุดอมตะเรื่องพีนัท เมื่อมีสนู้ปปี้แล้ว เลยตั้งชื่อลูกแมวตัวนี้ว่า ‘ชาร์ลี บราวน์’ ที่เป็นตัวเอก ของเรื่อง”
ความโดดเด่นของชาร์ลีนอกจากขนสีเทาเข้มที่น่าจะ ได้มาจากแม่แมวสาวเปอร์เซียขนดำเมี่ยมแล้ว ยังอยู่ที่ ลวดลายหรือมาร์กกิ้งสีเทาที่มองละม้ายคล้ายเครา น้อยๆ ตรงปาก แถมแต้มที่จมูกก็ยังเป็นรูปหัวใจด้วย
“ท่ามกลางแมวหลายตัวที่ฟาร์มแมว ชาร์ลีน่าจะเป็น แมวตัวเดียวที่ไม่ยุ่งสุงสิงกับใคร นั่งเก๊กอย่างเป็น เอกเทศตามลำพัง พิมรู้สึกว่าชาร์ลีเป็นแมวที่ไม่เหมือน แมวอ่ะค่ะ (ยิ้ม) ตอนนั้นเขา 6 เดือนเองนะคะ แต่ก็ไม่ เล่นมุ้งมิ้งเหมือนลูกแมวตัวอื่น เลยชอบเพราะแปลกดี”
หลังแต่งงาน คุณพิมกับสามี (คุณวิค-ธราธร วงศ์ ประศาธน์) ย้ายมาอยู่ที่บ้านย่านทองหล่อ สิ่งที่ต้องปรับ สำหรับการมีสมาชิกร่วมบ้านเป็นแมวก็คือ “ข้าวของทุก อย่างต้องเก็บเข้าตู้ ไม่ปูพรม และติดเครื่องฟอกอากาศ ทุกห้อง ส่วนเฟอร์นิเจอร์ก็ต้องทำใจว่าชาร์ลีจะมาเจิม เป็นที่ลับเล็บแมวแน่นอน เลยเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่สม ราคา กะว่า 5 - 6 ปีก็เปลี่ยนใหม่ ส่วนเรื่องขนแมวก็ อาศัยว่าทำความสะอาดทุกวันและดูดฝุ่นถี่หน่อย และที่ ขาดไม่ได้คือที่กลิ้งเก็บขนแมวที่ติดตามเสื้อผ้า บ้านนี้มี หลายอันมาก ใครนึกอยากใช้เมื่อไหร่ มีวางไว้ทั่วบ้าน (หัวเราะ) น่าจะเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ ยิ่งถ้า ต้องออกไปงานนี่จำเป็นมากค่ะ
“ช่วง 3 ปีแรกที่อยู่ด้วยกัน ไม่เคยยอมให้ไปตีซี้เขาได้ ง่ายๆ ถ้ายื่นมือจะไปจับ เขาจะทำหลังแอ่นๆ เหมือนไม่ ให้มือเราโดนขนเขา แต่ถ้าเจอผู้หญิงสวยๆ อย่างคุณ แอน ทองประสมที่สามีเป็นเพื่อนสนิทกับแฟนคุณแอน มันก็จะยื่นมือออกมาแตะออกมาจับเธอ แต่ถ้าคนจับ เป็นผู้ชายก็จะไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ยิ่งผู้ชายอ้วน ถึง ขั้นส่งเสียงขู่กันเลยทีเดียว” กว่าเจ้าชาร์ลีจะใจอ่อนให้ ทาส (เจ้าของทั้งสอง) เข้าใกล้ก็ต้องผ่านบททดสอบกัน หน่อย “ครั้งหนึ่งชาร์ลีเคยป่วยเป็นโรคลำไส้ตัน เพราะ ห่วงหล่อเลยเลียขนตัวเองมากทำให้อึไม่ออก สามี พิมอาสาไปเฝ้าดูอาการอย่างใกล้ชิดด้วยการย้ายไป นอนห้องโยคะที่เรายกให้เป็นห้องแมวด้วยกันกับชาร์ลี การได้ร่วมทุกข์กันในยามยากทำให้ชาร์ลียอมให้เขาจับ และก็มีเดินมาหา (บ้างเท่านั้นนะ) อย่างตอนทำหมัน สัตวแพทย์บอกว่าแมวอาจจะมีความมุ้งมิ้งอ้อนเจ้าของ นะ วันแรกชาร์ลีขึ้นมานอนข้างๆ สามี เราก็ดีใจกัน แต่ แค่วันสองวันก็เลิกทำล่ะ บางทีเราตื่นนอนมาชาร์ลีก็ เดินมานวดให้ ซึ่งนั่นคือที่สุดของความเป็นชาร์ลีแล้ว แต่อย่าได้แซวเป็นอันขาด ไม่งั้นมันจะหยุดนวดทันที แล้วกระโดดลงจากเตียงเลย เหมือนลูกชายที่เขินเวลา ถูกแซวว่ากอดหอมแม่” (หัวเราะ)
ถึงชาร์ลีจะวางมาด ทำหน้านิ่ง แลดูขี้เก๊ก ไม่สนใจ ใคร เข้าขั้นหยิ่งระดับสูงสุด ก็กลับกลายเป็นความน่า หมั่นไส้ที่คุณพิมรักชาร์ลีหมดใจ “พิมชอบชาร์ลีเป็น พิเศษเพราะรู้สึกว่าเขาคล้ายพิม หน้ากลมๆ แป้นๆ แล้วก็ตาโตเหมือนกัน ถึงหมั่นเขี้ยวแค่ไหนก็ฟัดเล่นไม่ ได้เหมือนแมวตัวอื่น แต่แค่ได้มองหน้าเก๊กๆ บานๆ ของชาร์ลีก็ตลกดี ทำให้เราอารมณ์ดี สามีพิมเปรียบ งา่ ยๆ วา่ เหมอื นการจบี ผหู้ ญงิ ถา้ เจอคนถอื ตวั ไมเ่ ปดิ ใจ รับไมตรีใครง่ายๆ ก็เป็นความยากที่ท้าทายและน่า ค้นหา เจ้าชาร์ลีก็เช่นกันค่ะ”
คอนเซปต์การเลี้ยงแมวของคุณวิคคือต้องทักทาย แมวทุกวัน แม้มันจะไม่ค่อยเข้าหาเราก็ตาม ความ ที่มาร์กกิ้งเขาเป็นเหมือนเคราของขุนนางสมัยโบราณ จึงเป็นที่มาของฉายา ‘คุณท่าน’ ที่ไว้เรียกขานชาร์ลี พิมกลับถึงบ้านก็ต้องทักชาร์ลี ‘สวัสดีค่ะท่าน วันนี้เป็น ยังไงบ้างคะ’ (ยิ้ม) จริงๆ ชาร์ลีอาจไม่ถึงกับไม่ให้เราจับ เขาเพียงแค่ไม่เดินมาหาเรา อยากจับต้องเข้าไปหา
คุณท่าน ขออนุญาตสัมผัสตัว (หัวเราะ) มีครั้งหนึ่งหลัง จากเลี้ยงกันมา 5 ปี จู่ๆ ชาร์ลีกระโดดขึ้นไปนอนบน ท้องสามี เขาดีใจน้ำตาแทบไหล รีบเรียกให้พิมถ่าย วิดีโอไว้ แต่ก็เสี้ยวเวลาสั้นๆ แค่ไม่ถึงนาทีก็กระโดดลง แล้ว ชาร์ลีค่อนข้างติดสามีพิม แต่จะมีระยะห่างที่จับไม่ ถึงตัวเขา คือลีลาเยอะ ถ้าอยากจับเราต้องเอื้อมต้อง พยายาม แล้วก็เป็นแมวที่ไม่เคยนอนพื้น ต้องนอนที่สูง หรือไม่ก็ตำแหน่งที่ไฟส่อง อารมณ์เหมือนฉันต้องเป็น ดาวเด่นและสง่างามในทุกอิริยาบถ จนบางทีก็อดรู้สึก ไม่ได้ว่ามันมีความเจ้ายศเจ้าอย่างอยู่ไม่น้อย มีวันหนึ่ง ชาร์ลีกำลังกินอาหารอยู่ แล้วสามีพิมวางถ้วยกาแฟลง บนจานรองดังไปหน่อย มันเลิกกินแล้วเดินไปเลย นี่ถ้า มันส่งสายตาค้อนได้คงทำใส่เขาไปแล้วมั้งคะ” (หัวเราะ)
แล้ววันหนึ่งเจ้าแซลลี่ (อีกหนึ่งตัวละครในการ์ตูน เรื่องเดียวกันที่เป็นน้องสาวของชาร์ลี บราวน์) ที่เป็น แมวพันธุ์เดียวกันก็ย้ายเข้ามาเป็นสมาชิกใหม่
“ใจพิมอยากเลี้ยงแค่ตัวเดียว แต่เจ้าแซลลี่มันนวด ให้พิมทุกวันอยู่พักหนึ่งจนพิมอดใจอ่อนไม่ได้ อย่างน้อย แซลลี่ก็พ่อเดียวกับชาร์ลี แต่พอยอมให้อยู่ด้วยเท่านั้น แหละ แซลลี่เลิกนวดพิมอีกเลย มันร้ายและแสบพอกัน เลยค่ะเจ้าสองตัวนี้ (หัวเราะ) แต่เอาจริงๆ แซลลี่นิสัย ตรงข้ามกันทุกอย่าง ทั้งเชื่องทั้งขี้อ้อน อยู่ง่ายกินง่าย เรียกก็มาหา อยากอุ้มก็ให้อุ้ม”
การมาอยู่ของแซลลี่ก็ไม่ทำให้ชาร์ลีหวั่นไหวทาง ความรู้สึกเท่ากับตอนที่ทั้งสองมีน้องพิพพา ลูกสาว ตัวน้อย “พิมว่าชาร์ลีอาจรู้สึกว่าเราให้ความสนใจกับ เบบี๋คนนี้มากกว่าเขา หรือคิดว่าตัวเองกำลังจะกลาย เป็นแมวหัวเน่าก็ไม่รู้ แต่แมวอย่างชาร์ลีไม่มีเสียหรอกที่ จะมาอ้อนให้เสียลุค มันเลยตอบโต้เราด้วยการฉี่ ประกาศศักดาบนเตียงอยู่หลายวันติดต่อกัน หรือถ้า ช่วงที่เราจะไปต่างประเทศหลายวัน มันก็จะฉี่ใส่เสื้อผ้า เลย มีซ้ำรอบสองรอบสามอีกได้ ถ้ายังเปิดกระเป๋าอยู่ แต่ต่อให้ปิดกระเป๋าก็ยังขอฉี่นอกกระเป๋า ทั้งที่ปกติแล้ว ชาร์ลีไม่เคยฉี่เลอะเทอะนอกส้วมแมวเลย” คุณพิมเล่า ไปหัวเราะไปเพราะอดนึกขำในวีรกรรมสุดแสบของเจ้า ชาร์ลีไม่ได้
ถึงร้ายก็รักเลยสำหรับเจ้าชาร์ลี