Interview เจมี่ บีตัน
จากเด็กฮาร์วาร์ด สแตนฟอร์ด และออกซ์ฟอร์ด ผู้ติดอันดับ Forbes 30 Under 30 Asia สู่หนึ่งในผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Crimson Education ธุรกิจ แนะแนวการศึกษานานาชาติที่มีมูลค่าสูงถึง 5 พันล้านบาท
ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่เด็กหนุ่มคนหนึ่งจะไล่ตามความ ฝันของตัวเองให้กลายเป็นเจ้าของธุรกิจที่น่าจับตา มองตั้งแต่ยังเรียนมหาวิทยาลัย อาศัยว่าเป็นคนใฝ่รู้ เขาจึงแหวกขนบการศึกษาของชาวกีวี แทนที่จะเรียน ต่อมหาวิทยาลัยในประเทศ เขากลับเลือกข้ามทวีปไป เรียนต่อถึง Harvard University ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหวา่ งนเ้ี องทเ่ี ขากบั Shandre Kushor แฟนสาวเชอ้ื สาย อินเดียช่วยกันก่อตั้งธุรกิจแนะแนวการศึกษาที่พุ่งเป้าไป ยังไอวี่ลีกและมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก และให้ชื่อว่า Crimson Education
เจมี่ บีตัน หนุ่มลูกครึ่งจีน-นิวซีแลนด์ผู้มีอนาคตไกล แนะนำตัวเองกับ HELLO! Education ว่า ช่วง 18 ปีแรก ในชีวิตของเขานั้นเริ่มต้นขึ้นที่เมืองโอ๊กแลนด์ “การเรียน โรงเรียนอนุบาลแนวมอนเตสซอรีช่วยส่งเสริมความ เติบโตทางวิชาการให้ผมมาก ตามด้วยโรงเรียนชาย ล้วนในนิกายแองกลิกันเพรสไบทีเรียนและโรงเรียน ไฮสคูลสหศึกษา ซึ่งแต่ละโรงเรียนที่ผมเรียนต่างก็สอน เรื่องการเป็นผู้นำ ผมโชคดีที่พ่อแม่ให้ความสำคัญกับ การศึกษามาก พ่อผมเป็นคนจีนจากกวางตุ้ง ส่วนแม่ เป็นลูกครึ่งไอริช-สก็อตติช
“ตอนอายุ 15 ปี ผมเริ่มสนใจอยากไปเรียนต่อต่าง ประเทศ เพราะคิดว่าถ้าเราอยากจะสร้างแรงกระเพื่อม ครั้งใหญ่ เราต้องมีวิสัยทัศน์ระดับโลก ผมจึงบินไปดู มหาวิทยาลัยที่ส่งใบสมัครไปทั้งหมด 25 แห่งทั่วโลก ด้วยตัวเอง และลงเอยด้วยการเรียน Applied Maths and Economics ที่ Harvard University เนื่องจากผมจบ A Levels แล้ว ก็เลยได้ข้ามชั้นไปเรียนปี 2 ทันที และผม ก็ลงเรียนเทอมละ 6 วิชาแทนที่จะเป็น 4 วิชา และเลือก เรียนหลักสูตรปริญญาตรีควบโท ทำให้ผมจบเร็วกว่า
เพื่อน 2 ปี”
ทั้งหมดนี้เพราะเขามีคุณแม่เป็นที่ปรึกษาคนสำคัญ “ท่านช่วยให้ผมเข้าใจว่าเราต้องบริหารเวลาเป็น ตอน อยู่ไฮสคูลผมมีติวเตอร์เยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นวิชา ชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์ เลข ภาษาอังกฤษ หรือฝรั่งเศส”
หลังจบปริญญาตรีควบโทจาก Harvard University ด้วยวัยเพียง 20 ปีแล้ว เขาก็ฝ่าด่านหินไปเรียน MBA และ MA ทางด้านการศึกษาที่ Stanford Graduate School of Business (GSB) “ตอนนั้นผมเริ่มต้นคริมสัน แล้ว ประกอบกับผลการเรียนที่ดีทำให้ GSB รับผมเข้า เรียน ซึ่งผมเลือกเรียนด้านกระบวนการออกแบบการ ศึกษาเพื่อเรียนรู้ว่าเทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อการศึกษาใน ระดับต่างๆ มากเพียงไร เพราะก่อนหน้านั้นผมเรียนรู้ เรื่องการศึกษาแค่ในฐานะผู้บริโภค ช่วงเวลาใน GSB เป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมาก และมีวัฒนธรรมที่ต่าง จาก Harvard University มากเลย ซึ่งผมชอบที่ได้เห็น มุมมองต่างกันจากทั้งสองสถาบันนี้”
เล็กพริกขี้หนู
เมอ่ื 6 ปกี อ่ นเจมเ่ี ดนิ อยา่ งมน่ั ใจไปเขา้ พบ ‘พอ่ มดแหง่ วอลลส์ ตรที ’ อยา่ งจเู ลย่ี น โรเบริ ต์ สนั มหาเศรษฐเี จา้ ของ เฮดจฟ์ นั ด์ Tiger Management เพอ่ื จะถามวา่ ทำไมเขาถงึ
ไมไ่ ดร้ บั ทนุ เลา่ เรยี นเตม็ จำนวนทม่ี ลู นธิ ขิ องจเู ลย่ี นมอบให้ นกั เรยี นทง้ั หมดปลี ะ 22 ทนุ จเู ลย่ี นชอบความกลา้ ทอ่ี อก จะบ้าบิ่นของเด็กหนุ่ม จึงจ้างเขาเป็นนักวิเคราะห์หุ้นที่ อายุน้อยที่สุดเป็นเวลา 2 ปี และให้เงินลงทุนก้อนแรก 1 ลา้ นเหรยี ญแกส่ ตารท์ อพั อยา่ ง Crimson Education ดว้ ย เจมี่จึงสามารถจ้างพนักงานประจำคนแรกในออสเตรเลีย และเปดิ สำนกั งานทโ่ี อค๊ แลนดไ์ ด้
นอกจากนี้ระหว่างที่เจมี่ยังเรียนอยู่ที่ Harvard University เขาเป็นประธานกองทุน Black Diamond Capital Investors ซึ่งเป็นเฮดจ์ฟันด์ที่ประสบความ สำเร็จมากที่สุดในสหรัฐอเมริกาที่บริหารโดยนักศึกษา อีกด้วย
ปัจจุบันคริมสันมีติวเตอร์มากกว่า 2,300 คนจาก 50 มหาวิทยาลัยทั่วโลก และมีนักเรียนใช้บริการมากกว่า 20,000 คน “ประเทศไทยเป็นสาขาที่ 3 ของเรา และ เป็นสาขาแรกในเอเชีย โดยเริ่มจากนิวซีแลนด์ก่อน ตามด้วยออสเตรเลียและไทย รวมทั้งรัสเซีย เซี่ยงไฮ้ ญี่ปุ่น เรื่อยไปจนถึงนิวยอร์ก
“เราอาศัยการบอกปากต่อปาก สองในสามของเด็ก ไทยมาหาเราเพราะพวกเขาบอกต่อๆ กัน ซึ่งแน่นอนว่า พวกเขาต้องชอบบริการของเราจึงแนะนำให้ครอบครัว อื่นรู้จักและมาใช้บริการ นอกจากนี้เรากำลังจะขยาย สาขาไปยังอินเดียและเมืองอื่นในจีน และจะมีบริการ ใหม่ๆ มาเพิ่มด้วย ตอนนี้นอกจากติวเด็กเข้าเรียน ปริญญาตรีต่อในไอวี่ลีก หรือมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับ โลกแล้ว เรายังรับแนะแนวผู้ที่ต้องการเข้าเรียน MBA ในไอวี่ลีก ตลอดจนปริญญาเอกด้วย
“เด็กที่มาหาเราจะมาพร้อมผลการเรียนและความ ไม่แน่ใจว่าจะทำอาชีพอะไรในอนาคตกันแน่ ไม่แน่ใจ ว่าจะไปเรียนประเทศไหนดี พวกเขาจะได้พบกับทีมงาน เรา มีการซักถามและจากการพูดคุยกันเด็กจะทราบว่า พวกเขาควรทำอะไรต่อไปดี”
ขณะนี้เจมี่เป็นนักเรียนทุน Rhodes ซึ่งเป็นหนึ่งใน ทุนการศึกษาระดับนานาชาติที่เก่าแก่และยิ่งใหญ่ที่สุด ในโลก เขาตั้งใจร่ำเรียนปริญญาโททางปรัชญา และ ปริญญาเอกทางเศรษฐศาสตร์ที่ University of Oxford ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแบ่งเวลาของเขา
เขาปิดท้ายด้วยคำแนะนำดีๆ สำหรับเด็กไทยรวมทั้ง ผู้ปกครองว่า “สิ่งที่คนไทยมองข้ามก็คือเรื่องสุขภาพจิต ของเด็ก ซึ่งบางครั้งเด็กอาจจะกลัวเพราะทำคะแนนได้ ไม่ดี หรือเจอเรื่องร้ายๆ ที่โรงเรียน ซึ่งส่งผลกระทบต่อ สภาพจิตใจของพวกเขา ทำให้ไม่มีสมาธิในการเรียน แล้วพอสั่งสมมากๆ เข้าก็จะทำให้เด็กไม่อยากแข่งขัน กับใคร สิ่งสำคัญที่เราทำก็คือพยายามพัฒนาความ มั่นใจด้านใดด้านหนึ่งให้กับเด็ก อาจเป็นวิชาเลข โต้วาที หรือศิลปะ ฉะนั้นการเตรียมความพร้อมทาง จิตใจให้เด็กจึงมีความจำเป็นมาก แต่คนไทยกลับ ละเลย” เจมี่นักธุรกิจหนุ่มที่เคยได้รับการจัดอันดับจาก นิตยสาร Forbes ให้เป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่ อายุยังไม่ถึง 30 ปี และเป็นแฟนหนังมาร์เวลตัวยงสรุป ปิดท้ายได้อย่างน่าคิด การได้พูดคุยกับเด็กหนุ่มอนาคต ไกลอย่างเขา ทำให้เรารู้สึกว่าการเรียนที่ไหนไม่สำคัญ เท่ากับเราเรียนอย่างไรต่างหาก
‘ตอนอายุ 15 ผมเริ่มสนใจอยากไปเรียนต่อต่างประเทศ เพราะถ้า อยากสร้างแรงกระเพื่อมครั้งใหญ่ เราต้องมีวิสัยทัศน์ระดับโลก’