The Talented ด.ช.ภูรินทร์ ฉัตรเฉลิมชัย
หนึ่งใน Top 5 มาสเตอร์เชฟ จูเนียร์ ซีซั่น 1 ผู้ตกหลุมรักการทำอาหารจนได้ดี ‘เพื่อนๆ ที่เห็นเซนในทีวีก็ตกใจ เพราะไม่รู้ว่าเราทำอาหารได้ ครูก็มาถามว่าลงแข่งด้วยเหรอ เก่งจังเลย’
หลายครั้งที่ความรัก ความสุข หรือความสนุกใน ชีวิตประจำวัน สามารถนำไปสู่การตามหาความ ฝันในอนาคตได้ เช่นเดียวกับเรื่องราวของ น้องเซน-ด.ช.ภูรินทร์ ฉัตรเฉลิมชัย ที่ดูรายการทำอาหาร ตง้ั แตอ่ ายุ 11 ปจี นหลงใหลการทำอาหาร พออายุ 13 ปี จึงสมัครเข้าแข่งขันในรายการ ‘มาสเตอร์เชฟ จูเนียร์ ประเทศไทย’ (Master Chef Junior Thailand) ซซี น่ั 1 ซึ่ง น้องเซนทำผลงานได้ดี จนเข้าสู่รอบ Top 5 ได้สำเร็จ
ปัจจุบันน้องเซนอายุ 14 ปี กำลังเรียนชั้น Grade 9 ที่ International Community School (ICS) โดยที่ยังสนุกกับ การทำอาหารและการได้ทำกิจกรรมหลากหลายทั้ง ดนตรีและกีฬา เพื่อค้นหาว่ากิจกรรมทำอาหารหรือใน อนาคตข้างหน้าจะเป็นอะไรอื่น และกิจกรรมใดนั้นจะ ตอบโจทย์ใจเขามากที่สุด
แรงบันดาลใจในการทำอาหาร
น้องเซนเล่าว่า ตอนเด็กๆ ได้ดูรายการมาสเตอร์เชฟ ของออสเตรเลียกับคุณแม่ ดูไปสักพักเกิดความรู้สึก อยากทำอาหารขึ้นมาบ้างจึงขอสมัครเป็นลูกมือคุณแม่ ในครัวก่อน
“ตอนแรกเซนเริ่มต้นฝึกจากการหั่นผักก่อนครับ แล้ว ก็ดูยูทูบบ้าง จากนั้นลองฝึกทำไปเรื่อยๆ เซนไม่ได้ไป เรียนที่ไหน เพราะคิดว่าถ้าเราทำแล้วสนุก มีความสุข ก็ ไม่ต้องเครียดกับมัน ตอนแรกไม่ถึงกับอร่อยมาก แต่ เซนเป็นคนที่ชอบกินอาหารฝรั่งมากครับ ถ้าเราอยาก กินอะไรก็ลองทำกินเอง แล้วเวลาดูรายการมาสเตอร์ เชฟของผู้ใหญ่ อาหารทุกอย่างมันดูดีหมด เลยอยากทำ แบบนั้นบ้าง”
เมนูเด็ดที่ทำบ่อยๆ คือ สเต๊ก เคล็ดลับความอร่อย
ของน้องเซนคือ ตัวสเต๊กต้องแห้ง
“เพราะจะได้มีสีและรสชาติครับ เซนไม่ได้หมักเนื้อ ใช้แค่เกลือกับพริกไทย แล้วเอาลงกระทะเลย ส่วนจะ เป็นเนื้อจากที่ไหน แล้วแต่คนชอบเลยครับ ส่วนตัวเซน ชอบเซอร์ลอยด์ของออสเตรเลีย”
ส่วนอาหารไทย น้องเซนบอกว่าไม่ค่อยถนัด เลยไม่ ได้โชว์ฝีมือสักเท่าไหร่
“อาหารฝรั่งจะเล่นเทคนิคได้มากกว่า เป็นการปรุง ตามรสชาติ แต่อาหารไทยจะเป็นสูตรแบบโบราณ เครื่องปรุงเยอะ เวลาปรุงต้องเป๊ะหน่อย มีความ ละเอียดในกรรมวิธีการทำครับ”
เมอ่ื ถามถงึ เชฟในดวงใจ นอ้ งเซนชน่ื ชอบเจม่ี โอลเิ วอร์ เชฟชื่อดังจากประเทศอังกฤษ
“ที่ชอบเพราะเขาดูสบายๆ ดี แต่ถ้าเป็นเชฟกอร์ดอน แรมเซย์ รู้สึกว่าเขาซีเรียสเกินไป เซนชอบแบบเจมี่มาก กว่าเพราะเขาทำเหมือนเป็นงานอดิเรก ทำเพื่อความ สนุก เขาสอนทำอาหารทางยูทูบด้วย ซึ่งผมทำตามก็ อร่อยนะครับ มีหลายสูตรเลย”
แข่งขันในรายการมาสเตอร์เชฟ จูเนียร์
เหตุผลที่ทำให้น้องเซนสนใจเข้าแข่งขันในรายการ มาสเตอรเ์ ชฟ จเู นยี ร์ ซซี น่ั แรกกเ็ พราะคดิ วา่ คงนา่ สนกุ ดี และเป็นโอกาสที่จะได้ลองทำอะไรใหม่ๆ ซึ่งตอนสมัคร น้องเซนขอให้คุณแม่ถ่ายวิดีโอตอนทำเมนูพอร์กชอป กับไวต์ไวน์ แล้วเขานำมาตัดต่อเองเพื่อส่งไปให้ทีมงาน
ดู ปรากฏว่าวิดีโอนั้นผ่านเข้าสู่รอบคัดเลือก
“รอบแรกตื่นเต้นมากครับ ไม่รู้ว่าจาน กระทะ เครื่องปรุงอยู่ตรงไหนบ้าง แต่พอเริ่มรู้ว่าอุปกรณ์อยู่ตรง ไหนผมถึงค่อยหายตื่นเต้น คราวนี้จะไปลุ้นตรงการแข่ง ว่าในครัวจะมีวัตถุดิบครบตามเมนูที่เราคิดตอนนั้นว่า อยากทำไหม”
ส่วนความประทับใจ น้องเซนบอกว่า มีครั้งหนึ่งที่ เขาได้รางวัลจานที่ดีที่สุดในรายการ
“โจทย์วันนั้นเขาให้ครีเอตอาหารไทยที่ยกระดับสู่ อินเตอร์ เซนเลยทำปาเอญ่า (อาหารสเปน) ใส่เครื่อง แกง ซึ่งไม่คิดว่าจะได้รางวัล ก็ได้เป็นเมนูสร้างสรรค์ ดีใจที่กรรมการชมว่าอร่อยครับ และได้เป็นจานที่ดีที่สุด จานแรก”
ผ่านความกดดัน จนมายืนอยู่ใน Top 5
แม้การแข่งขันจะมีแรงกดดันจากหลายๆ ด้าน ทั้ง จากอากาศอันร้อนระอุ ความเหนื่อยล้าจากการที่ต้อง ปรุงอาหารทีละหลายจาน การร่วมงานกับเพื่อนๆ ใน ทีม แต่น้องเซนก็เอาชนะอุปสรรคต่างๆ ได้ จนผ่านเข้า
มาถึงรอบ 5 คนสุดท้าย
“ได้เข้า Top 5 ดีใจมากครับ ได้ไปถึงขั้นที่มองไปก็ เห็นเพื่อนข้างๆ มีแค่ 4 คน ตอนแรกเซนไม่หวังเลย คิด ว่าจะตกตั้งแต่รอบแรกแล้ว เพื่อนๆ ที่เห็นเซนในทีวีก็ ตกใจเพราะไม่รู้ว่าเราทำอาหารได้ ครูก็มาถามว่า ลง แข่งด้วยเหรอ เก่งจังเลย หลังจากนั้นเซนก็ช่วยงานการ กุศลของโรงเรียน ด้วยการทำพานาคอตต้าขาย มีคนมา ซื้อเยอะเลยครับ”
นอกจากจะชอบทำอาหารแล้ว น้องเซนยังเป็นยูทูบ เบอร์โชว์ลีลาการทำอาหารของตัวเองอีกด้วย
“ช่วงนี้เซนยุ่งๆ เลยไม่ค่อยได้อัพเดตครับ แต่เท่าที่ ทำมาก็เป็นแนวให้ความรู้เรื่องการทำอาหารแบบสนุกๆ บางทีก็มีแขกรับเชิญมาบ้าง เป็นมาสเตอร์เชฟที่เป็น เพื่อนๆ กันนี่แหละครับ”
อีกหนึ่งประสบการณ์ที่ดีคือน้องเซนได้เป็นหนึ่งใน Chef’s Table ให้กับร้านอาหารชื่อดังย่านทองหล่อ โดยที่น้องเซนกับเชฟของทางร้านพูดคุยและทดลองทำ เมนูร่วมกันก่อน รวมถึงเปิดโอกาสให้น้องเซนได้ลงมือ ทำเองด้วย
“สนุกครับ รู้สึกเหมือนได้อยู่ในครัวจริงๆ อยู่ในร้าน อาหารจริงๆ เรามีเมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของทางร้าน
มีเมนูของเราเองที่ไม่ได้ก็อปคนอื่นมา ก็รู้สึกดีครับ ขอบคุณทางร้านที่ให้โอกาสดีๆ กับเซน และเดือน พฤศจิกายนนี้เซนกำลังจะมี cooking event กับร้าน อาหารดังอีกแห่ง ซึ่งอยู่ในขั้นตอนการคิดและทดลอง เมนูอยู่ครับ”
การเรียนและกิจกรรมสุดโปรด
ถามเรื่องการเรียน น้องเซนบอกว่าอยู่ในระดับ กลางๆ ส่วนวิชาที่ชอบก็คือวิทยาศาสตร์กับพละศึกษา มากที่สุด ส่วนภาษาจีน น้องเซนมีโอกาสเรียนตั้งแต่ เด็กๆ แล้ว
“เซนเคยไปซัมเมอร์ครั้งแรกที่ไต้หวัน เพราะเซนพูด จีนได้ สื่อสารได้ ตอนนั้นไปอยู่ไทเปนานหนึ่งเดือน จันทร์ถึงศุกร์เขาให้เรียน ส่วนเสาร์-อาทิตย์พาเที่ยว แต่ เซนรู้อยู่แล้วว่าที่ไหนน่าเที่ยว ที่ไหนมีของกินอร่อย หรือ มีที่ช็อปปิ้งเยอะ อาหารไต้หวันที่ดังๆ ก็พวกฮอตพอต กับชานมไข่มุก เป็นประสบการณ์ที่ดีและสนุกมาก ครับ”
นอกจากนี้น้องเซนยังเป็นนักกีฬาวอลเล่ย์บอลของ โรงเรียนอีกด้วย
“เซนเล่นเป็นตัวบล็อกกับตัวตบหน้าเซ็นเตอร์ ตอน นี้ก็ฝึกซ้อมไปเรื่อยๆ ส่วนบาสเกตบอลก็อยากลองเล่น แต่ยังไม่เก่ง เคยลองไปเล่นกอล์ฟกับพ่อ แต่เซนไม่ชอบ รู้สึกว่าเป็นกีฬาที่ใช้พลังงานน้อยเกินไปครับ”
งานอดิเรกอื่นๆ น้องเซนกำลังฝึกฝนเล่นกีตาร์อยู่ ทั้งแนวกีตาร์คลาสสิกและกีตาร์ไฟฟ้า โดยศึกษาเอง จากในยูทูบ แล้วแกะคอร์ดเพลงเล่นเอง
ส่วนอีกหนึ่งกิจกรรมที่น้องเซนโปรดปรานไม่แพ้กัน นั่นคือการเลี้ยงสัตว์แปลกๆ ที่มีทั้งเต่า งู และตุ๊กแก
“เซนเริ่มจากชอบไดโนเสาร์ก่อน แล้วก็เริ่มชอบสัตว์ แปลกอย่างสัตว์เลื้อยคลาน เพราะสัตว์ประเภทนี้เลี้ยง ง่ายไม่ต้องประคบประหงมมาก ไม่มีขน และสะอาด กว่าสุนัขและแมว ก่อนเลี้ยงผมศึกษาหาข้อมูลมาเป็นปี ครับ อย่างเต่าก็น่ารัก ผมมีอยู่ 2 ตัวเป็นเต่าเหลืองไทย ตอนนี้ตัวใหญ่แล้วเหมือนกัน คนชอบคิดว่าเต่ากินผัก บุ้ง แต่เต่าที่เซนเลี้ยงจะให้กินผลไม้กับผักกวางตุ้ง ส่วน ตุ๊กแกก็เป็นพันธุ์ที่เลี้ยงง่ายสุดแล้ว เป็นตุ๊กแกเสือดาว มันจะไม่มีพังผืด ทำให้แปะกำแพงไม่ได้ แต่มีเล็บ มี เปลือกตา ก็จะกะพริบตาได้”
เมื่อถามถึงอนาคตว่าอยากจะทำอะไร หรือว่าอยาก ต่อยอดจากการเป็นเชฟ น้องเซนบอกว่าตอนนี้ขอสนุก และมีความสุขกับทุกๆ สิ่งที่ทำเสียก่อน
“อนาคตเซนยังไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนจากงานอดิเรกมา เป็นงานจริงๆ เลยได้มั้ย แต่คิดง่ายๆ ว่าอยากทำอะไรที่ สนุก มีความสุข แล้วถ้าสามารถทำเงินได้ ก็ดีกว่าการที่ เราจะไปทำงานที่ได้เงินเยอะๆ แต่ไม่มีความสุขครับ”
ขอเพียงมีใจรักในสิ่งที่ทำและทำในสิ่งที่รัก คือสิ่งที่ สำคัญที่สุดสำหรับโลกยุค 5.0 นี้