Parenthood นิโคล เทริโอ
‘ทิกเกอร์เป็นครูที่ดีสำหรับกี้ การที่กี้เป็นแม่ เขาได้สอนการใช้ชีวิต ของตัวเองให้กี้เยอะมาก รวมถึงการพยายามทำชีวิตตัวเองให้ดี เพื่อลูกจะได้มีชีวิตที่ดี’
เป็นแม่ว่ายากแล้ว แต่การเป็นแม่ที่ชีวิตถูกติด แฮชแทก #คุณแม่เลี้ยงเดี่ยว ยิ่งยากกว่าอีกหลายเท่า ตัว เพราะระหว่างทางการเลี้ยงลูกตามลำพังล้วนมี อุปสรรคมากมายที่ต้องเผชิญ ทว่าการยอมรับสิ่งที่เป็น ยิ้มให้กับปัจจุบัน แล้วทุ่มเททำวันข้างหน้าเพื่อ ‘ลูก’ ทำให้พวกเธอกลายเป็นซิงเกิ้ลมัมที่แม้ต้องทำงานไป ด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย แต่ก็มีวิธีจัดการชีวิตและรับมือกับ บทบาทหน้าที่ที่ต้องเป็นทั้งแม่ พ่อ พี่ และเพื่อน ได้เป็น อย่างดี
ดังเช่นคุณแม่สุดสตรองที่มีลูกชายในช่วงวัยรุ่นแล้ว อย่างคุณนิกกี้-นิโคล เทริโอ ที่ต้องยอมรับว่าการเลี้ยง ‘ทิกเกอร์’ ในแบบฉบับของเธอเองนั้น ทำให้เราเห็นภาพ ความน่ารักของแม่ลูกคู่นี้อยู่เสมอ
“ทิกเกอร์เป็นครูที่ดีสำหรับกี้ การที่กี้เป็นแม่ เขาได้ สอนการใช้ชีวิตให้กี้เยอะมาก รวมถึงการพยายามทำ ชีวิตตัวเองให้ดี เพื่อลูกจะได้มีชีวิตที่ดี กี้ไม่ได้เก่ง ไม่ได้ เป็นผู้เชี่ยวชาญการเลี้ยงลูก ผิดๆ ถูกๆ เรียนรู้กันไป มี อย่างเดียวคือ รู้หน้าที่ของตัวเอง แล้วลูกคือดวงใจและ กำลังใจของเรา ซึ่งพลังที่เราได้มาจากการที่เรารักลูก แล้วลูกรักเรา เพียงพอแล้วที่เราสามารถทำได้ทุกอย่าง เพื่อลูก แม้จะเหนื่อยมาก แต่ก็มีแรง มีพลัง มีแรง บันดาลใจ มี goal ที่ชัดเจน แค่นี้ชีวิตก็ง่ายขึ้นแล้ว ทำ อย่างไรจึงจะไปถึง goal นั้นให้ได้ เราทำได้ทุกอย่างเลย เป็นความมหัศจรรย์ของมนุษย์แม่ค่ะ”
แม่ผู้เป็นทุกอย่างให้ลูกวัยทีน
ด้วยอาชีพนักแสดงของคุณนิกกี้ทำให้แม่ลูกคู่นี้อยู่ ในสถานะ ‘รักแต่ไม่ได้ตัวติดกัน’
“ตอนนท้ี กิ เกอรอ์ ายุ 14 ปคี ะ่ จรงิ ๆ แลว้ กก้ี บั ทกิ เกอร์ เราอยู่กันแบบรักแต่ไม่ได้ตัวติดกัน เพราะกี้ต้องทำงาน ไม่ค่อยได้อยู่กับเขา ยิ่งถ้าตัวเองมีงานละครเวทีแทบ ไม่ได้เจอลูกเลยเพราะต้องซ้อม แต่เราสองคน connect กันอยู่ตลอด แค่โทรศัพท์หรือไลน์สำหรับสมัยนี้เป็น ตัวช่วยที่โอเคมาก วิดีโอคอลได้ โทร.ได้ คุยแชตกันได้ ถามวา่ เปน็ หว่ งเขาไหม เปน็ หว่ งแนน่ อนคะ่ ยง่ิ เปน็ วยั รนุ่ ผู้ชายก็คิดว่าเราต้องสอนเขาหลายๆ เรื่อง แม้บางทีต้อง พูดเรื่องที่เขาเขิน แต่เราก็ต้องพูด พูดทุกอย่าง เรื่อง เพื่อน เรื่องผู้หญิง เรื่องเพศ หรือเรื่องอะไรต่างๆ ที่ทำให้ เด็กสับสนได้ กี้จะบอกลูกว่า อย่ารีบ มีเวลาอีกเยอะ ชีวิตอีกยาวไกล ตอนนี้ให้เอนจอยความเป็นเด็กดีกว่า
“กี้โชคดีมากที่ทิกเกอร์เป็นเด็กนิ่งและสมาธิดีมาก แต่ alert และ aware ทุกอย่าง เรียกว่าเป็นคนนิ่ง เท่ เป็นเด็กผู้ชายคูลๆ (ยิ้ม) อีกอย่างคือเขาเป็นเด็กที่มี ความเป็นผู้ใหญ่มาก ไม่เมาต์ ไม่ gossip ไม่พูดอะไรไป เรื่อยเปื่อย เขาไม่เคยพูดไม่ดีเกี่ยวกับใครเลย zero เลย ซึ่งขนาดเราบางทีเหนื่อยกี้ก็จะบลาๆๆๆ พูดของกี้ไป บ่นๆ ไป ทิกเกอร์ก็จะนิ่งๆ แล้วจะมีคำพูดที่ให้หม่ามี้ มองในแง่ที่ดี คือเขาเป็นคนที่จะพยายามทำให้คนที่อยู่ ด้วยรู้สึกดีขึ้น ไม่เคยมองอะไรในแง่ลบ ไม่เคยน้อยใจ หรือมองชีวิตตัวเองว่าแย่ เขาเป็นคนคิดด้วยเหตุผล ไม่คิดด้วยอารมณ์ แต่กี้เป็นคนที่อารมณ์มาก่อนเหตุผล (หัวเราะ)”
เช่นเดียวกับการใช้เงินที่คุณแม่นิกกี้แอบกระซิบว่า เขาเป็นคนคิดนานพอๆ กับการคิดก่อนพูด ซึ่งถ้าไม่มี ของที่อยากได้ ต่อให้คุณแม่คะยั้นคะยอให้ซื้ออะไรก็ได้ แค่ไหน เขายังยืนยันปฏิเสธ “กี้เป็นประเภทตอนเด็กๆ แม่พาไปช็อปปิ้งต้องมีอะไรติดไม้ติดมือกลับบ้านมา เสมอ แต่ทิกเกอร์ไม่ค่ะ ไม่เอา กี้ยังถามซ้ำๆ ‘ไม่เอา จริงๆ เหรอ’ ‘ปิ๊กกีตาร์ไหม’ โน...มีแล้ว มีสามอัน พอมี พอใช้ เป็นคนสมถะมากค่ะลูก”
ลงตัวความสัมพันธ์ระหว่างพ่อ แม่ และลูก
“ความที่กี้เป็นเพื่อนกับพี่แมวและกับบ้านเขา เลย ทำให้ไม่ต้องอธิบายอะไรมากกับลูก กี้ไม่ได้ลงดีเทลว่า ไม่ได้อยู่ด้วยกันเป็นแฟมิลีเพราะอะไร ตอนนั้นทิกเกอร์ อายุประมาณแค่ 2 ขวบเอง ยังไม่ต้องรู้เยอะขนาดนั้น รู้ แค่ว่าไดนามิกตรงนี้ดีที่สุด เวิร์กที่สุดสำหรับทุกคน การ ที่ออกมาจากสถานะแต่งงานแล้วมาเป็นเพื่อนกันมัน ดีกว่า เพราะถ้ายังอยู่ตรงนั้น ความเป็นเพื่อนก็อาจจะ ไม่มีอยู่ โดยความเป็นเพื่อนที่ดีต้องมีความสามัคคี มี peace แล้วก็มีสิ่งบวกๆ ให้กับลูก เป็นการตัดสินใจของ ทั้งคู่ที่กี้มองว่าเราตัดสินใจถูกจนถึงวันนี้ เรามีสิ่งดีๆ ข้อมูลดีๆ มีแต่เรื่องบวกให้กับลูก เราไม่เคยพูดอะไรใน เชงิ ลบ ไมว่ า่ จะเกย่ี วกบั ใคร หรอื โทษใคร หรอื โทษตวั เอง ไม่เอาตรงนั้นไปใส่ให้ลูกเพราะมันไม่มีประโยชน์ ลูก ต้องเห็นพ่อแม่ในมุมที่ลูกต้องรู้ พ่อแม่รักลูก แล้วทำ ทุกอย่างเพื่อลูก รู้แค่นี้
“กี้กับพ่อของทิกเกอร์อาจเป็นคนละสไตล์ วิธีการ ไม่เหมือนกัน แต่สุดท้ายคือ ลูกสำคัญที่สุดในชีวิตของ พ่อแม่ ทิกเกอร์รู้แค่นี้พอ แล้วใจเขาก็เติมเต็ม ไม่ได้รู้สึก ว่าตัวเองขาดอะไร” คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสายสตรองย้อน เล่าถึงครั้งหนึ่งของความสัมพันธ์ที่ต้องหยุดลง ทว่า หน้าที่ของพ่อและแม่ยังคงต้องอยู่เพื่อลูกต่อไป
สำหรับความสัมพันธ์ครั้งใหม่ของคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว คนนี้ เธอเปิดใจคุยกับหนุ่มทิกเกอร์อย่างเข้าใจทุกครั้ง “ที่ผ่านมาถ้าถามถึงความสัมพันธ์ครั้งใหม่ หลักๆ มี ผ่านมาแค่สองครั้ง โดยครั้งแรกเข้ามาอย่างเป็น ธรรมชาติมาก ไม่ต้องอธิบายอะไรเลย ต่างจากครั้ง ล่าสุดเข้ามาช่วงที่ทิกเกอร์โตแล้ว เป็น relationship ที่ พูดได้เลยว่ากี้พลาด กี้ make the wrong choice แต่ก็ ไม่โทษใครเลย บอกตัวเองว่าจากนี้ไปต้องศึกษาให้มาก กว่านี้เพราะมันกระทบหลายคน คือกระทบตัวเราอยู่ แล้ว แต่เราจัดการได้ จะร้องไห้ จะ failed จะโทษตัวเอง หรือจะเรียนรู้จากตรงนี้ก็เรื่องของเรา แต่การที่กระทบ กับลูกนี่สิ กี้ต้องระวังกว่านี้ โชคดีมากค่ะที่ทิกเกอร์เขา เข้าใจและยังเป็นกำลังใจให้แม่ ซึ่งสุดท้ายมันก็ไม่ใช่ และกี้จะไม่ให้เกิดขึ้นอีก ตอนนี้ airplane mode ในเรื่อง ของ relationship กี้โฟกัสเรื่องลูก โฟกัสการทำงาน
และโฟกัสเรื่องเรียนของเขา ดูแลคนรอบข้างให้ดี เราโต แล้วไม่ต้องการคนมาเติมเต็ม เพราะว่าเติมแล้วมันก็ล้น ดังนั้นพอแล้ว”
สานฝันการศึกษาเส้นทางสายมิวสิก
แม้ตัวเองจะเรียนระบบอเมริกามาตลอด แต่คุณแม่ นิกกี้กลับชอบระบบอังกฤษมากกว่า จึงเป็นเหตุให้ ทิกเกอร์เรียนที่ St. Andrews International School ตั้งแต่ อนุบาลกระทั่ง Year 10 ในปัจจุบัน “กี้ชอบระบบ อังกฤษมากกว่า เพราะมองว่าวิชาการแน่นกว่า” ด้วย ทง้ั คณุ แมแ่ ละคณุ พอ่ เปน็ ศลิ ปนิ นกั รอ้ งระดบั ซเู ปอร์สตาร์ และเชี่ยวชาญด้านดนตรี ทำให้อดถามไม่ได้ว่า ทิกเกอร์ มีพรสวรรค์ด้านนี้เหมือนพ่อกับแม่หรือไม่
“ไม่เหมือนเลยค่ะ คือทุกอย่างที่ทิกเกอร์ทำได้นี่คือ จากการที่เขาเรียน กี้เชื่อในพรสวรรค์นะคะ แต่ถ้าไม่ได้ เรียนก็ไปไม่ได้ไกล ถูกไหมคะ เช่น แม่เป็นนักร้อง ไม่ได้ หมายความว่าลูกจะร้องเพลงเก่งได้เลย ต้องเรียน กี้ส่ง ให้ทิกเกอร์เรียนกีตาร์ตั้งแต่ 8 ขวบ ส่งไปเรียนที่ Rock Academy เรียนทุกวันอาทิตย์ ครั้งละ 1 ชม. ค่อยๆ เรียน ตอนนี้เล่นได้หลายแบบแล้ว ครูที่สอนเป็นครูจาก Berklee College of Music แล้วทิกเกอร์ตีกลองเก่ง ซึ่ง กลองเนี่ยไม่ได้เรียนแต่ชอบ กี้เลยซื้อชุดกลองไฟฟ้าให้ กลับบ้านเขาจะซ้อมวันละ 2 ชม. ไม่ได้เรียนก็จริง แต่ จับจังหวะได้เอง และด้วยความที่ซ้อมเป็นประจำเลย
กลายเป็นดี
“ส่วนวันเสาร์กี้ให้เรียนร้องเพลงค่ะ เพราะว่าเขา ชอบร้องเพลงแต่ร้องไม่เก่ง เลยบอกว่า งั้นยูต้องเรียน กี้ ให้เรียนตั้งแต่ตอนเสียงเขาเริ่มเปลี่ยน ตอนนี้เขาอายุ 14 ปี กี้ก็ให้มาเทรนยกน้ำหนัก ให้ออกกำลังกาย เพราะ บอดี้เขาสามารถฝึกตรงนี้ได้แล้ว
“สำหรับตัวกี้เองไม่ได้ยุ่งอะไรกับชีวิตทิกเกอร์นะ ฟัง ที่กี้เล่ามาอาจจะรู้สึกว่ากี้อัดแน่นให้เรียนโน่นเรียนนี่ แต่ จริงๆ แล้ววันละชั่วโมงเอง แทนที่จะเลิกเรียนแล้วไป เดนิ หา้ ง กว้ี า่ ใหเ้ ขา้ ยมิ ดกี วา่ ซง่ึ เมอ่ื เขา้ ยมิ กใ็ หเ้ ทรนเนอร์ ช่วยฝึกด้วยในหนึ่งชั่วโมง เสร็จแล้วกลับบ้าน ส่วนกีฬา อื่นๆ เช่น ว่ายน้ำ บาสเกตบอล วอลเลย์บอล ฯลฯ ที่ โรงเรียนเขาก็เล่นอยู่แล้ว”
วันนี้น้องทิกเกอร์เรียน Year 10 แล้ว อีกไม่กี่ปีก็ต้อง เข้าสู่ชีวิตมหาวิทยาลัย ซึ่งคุณแม่นิกกี้บอกว่าเธอกับ ลูกชายคุยเรื่องเรียนต่อกันมาสองปีแล้ว จนได้ลิสต์ มหาวทิ ยาลยั ของทกิ เกอร์ คอื Berklee College of Music และ The Julliard School รวมถึงสถาบันด้าน performing art ที่ตอนนี้ทั้งเธอและลูกชายเริ่มเข้าไปดูโรงเรียนกัน บ้างแล้ว “ต้องไปดูก่อนค่ะ จะเรียนหรือเปล่าไม่รู้ จะ ไหวหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ต้องไปดูก่อน ที่ให้เรียนให้ทำทุก อย่างเรื่องดนตรี ไม่ใช่ว่าจะดันให้เป็นนักร้องหรืออะไร แต่ในเมื่อยูอยากเรียนโรงเรียนเฉพาะทางแบบนี้ ยูต้องพร้อม ต้องเอาจริง ทิกเกอร์อยากเรียนถึง ขั้นเป็นดอกเตอร์ทางมิวสิกเลย เขาชอบดนตรี ชอบแต่งเพลง”
แม่กี้ปลื้มทุกอย่างที่เป็นทิกเกอร์
ล่าสุดทิกเกอร์เพิ่งทำให้คุณแม่นิกกี้ ปลาบปลื้ม ยิ้มเต็มหน้าและดวงตาขณะเล่าถึง เรื่องที่เขาได้รับเลือกให้เล่นละครเวทีของ โรงเรียน โดยได้รับบทสำคัญเป็นตัวละคร ‘อะลาดิน’
“เขาเจ๋งยิ่งกว่ากี้อีกนะคะ อย่างเราเล่นละคร เวทีเพราะเป็นอาชีพเรา แต่สำหรับเขาคือการได้ พิสูจน์ความสามารถของตัวเขาเองจริงๆ ไม่ได้ เกี่ยวว่ายูเป็นใคร ยูเป็นลูกใคร ยูต้องออดิชั่น แลว้ ได้ และยงั ไดเ้ ปน็ อะลาดนิ ในเรอ่ื ง ‘อะลาดนิ ’ ทิกเกอร์เขาดีใจมาก เพราะเป็นกิจกรรมที่เป็น production ใหญ่ แล้วมีชื่อเขาเป็นคนแรกเลย เมื่อสองปีที่แล้วเขาเล่นเป็นแดนนี่ในละครเรื่อง Grease บทเดียวกับในหนังที่จอห์น ทราโวลตา เล่น ซึ่งบทนี้ทั้งร้อง ทั้งเล่น แสดงทุกอย่าง กี้ก็ ปลื้มไปสิ นั่งดูแล้วร้องไห้อยู่กับพวกแม่ๆ
“ตอนที่กี้เล่นละครเวที ทิกเกอร์ก็ไปกับกี้ นะคะ แต่เราไม่ได้อยู่ด้วยกัน เขาจะไปดูการ ทำงานของเบื้องหลังเวที ยืนดูอยู่อย่างนี้ 3 ชม. ลูกไม่ได้นั่งเลย ตัวกี้เองเวลาแสดงละครเวทีจะ ไม่ค่อยโฟกัสที่เขา แต่ว่าพอเสร็จแล้วกี้ถึงได้รู้ ลูกศึกษาว่าออร์เคสตร้าอยู่ตรงนี้ คนเปิดม่าน มีหน้าที่แบบนี้ ทุกหน้าที่สำคัญหมด ดังนั้นคง ต้องไปต่อทางนี้ค่ะ
“ทิกเกอร์ทำให้ชีวิตกี้เปลี่ยน มีมุมมองความ คิดที่เปลี่ยนไปสองครั้ง ครั้งแรกตอนเริ่มมีเขา จากที่ทุกอย่างคือตัวเราเองเป็นเซ็นเตอร์ทั้งหมด เปลี่ยนเป็นโฟกัสที่ลูก แต่ไม่ได้หมายความว่า เราโตและเข้าใจชีวิตขึ้น คือทำเพื่อลูกแต่ก็ยัง เป็นตัวเราเองอยู่ กระทั่งเมื่ออายุเข้าเลขสี่ กี้รู้สึก ว่าตัวเองเริ่มนิ่งมากขึ้น เริ่มเข้าใจชีวิตและรู้จัก ตัวเองมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงสองปีที่ผ่านมานี้ เปลี่ยนเป็นคนละคนเลย หลายคนมองกี้เป็นคน ง้องแง้ง แต่จริงๆ แล้วกี้เป็นคนเอาเรื่องเหมือน กันนะคะ
“กี้มองว่าการที่กี้พึ่งใครไม่ได้ ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ นะคะ แตแ่ คเ่ ราตอ้ งทำดว้ ยตวั เอง แลว้ กช็ ะลา่ ใจ ไม่ได้ เหมือนเป็นคนรอบคอบมากขึ้น ซึ่งตัวกี้มา เรียนรู้หลังๆ นี้เอง ตอนแรกเป็นคนเชื่อคน แต่ หลังจากเจอโน่นเจอนี่ก็เปลี่ยนมุมความคิดเรา ไปเยอะ กต็ อ้ งขอขอบคณุ ทกุ สง่ิ ทช่ี วี ติ เจอมา ถงึ แมไ้ มแ่ ฮปป้ี แตน่ น่ั มนั ทำใหเ้ ราโตขน้ึ รอบคอบขน้ึ และแข็งแรงขึ้นค่ะ” คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวสายแข็ง กล่าวปิดท้าย
‘กี้กับพี่แมวอาจเป็นคนละ สไตล์ วิธีการไม่เหมือนกัน แต่สุดท้ายคือลูกสำคัญที่สุด ในชีวิตของพ่อแม่ ทิกเกอร์ รู้แค่นี้พอ แล้วใจเขาก็ เติมเต็ม ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเอง ขาดอะไร’