Hello! (Thailand)

After School Activities สร้างคำตอบใหม่ ที่ไม่ใช่เรื่องใหม่ของ ‘ศิลปะบำบัด’

-

“วันแรกพิพิมเกาะขาพ่อร้องไห้ไม่หยุด บอกว่าอยาก กลับบ้านกับพ่อ ผมเลยวาดรูปนาฬิกาให้เขาดู และ อธิบายให้เขาเข้าใจว่าเดี๋ยวพ่อมารอรับหนูตอนบ่ายสอง นะ และใช้วิธีหักดิบเลย จูงมือพิพิมไปยื่นให้ครูแล้ว หันหลังเดินขึ้นรถไป เป็นแบบนี้อยู่สี่ห้าวัน เขาไปร้องไห้ กับครู ครูก็พิมพ์รูปผมกับรูปคุณต่ายให้เขาถือเพื่อจะได้ อนุ่ ใจ กไ็ ดค้ ะแนน 12 เตม็ 10 สำหรบั การปรบั ตวั แลว้ เขา จำชื่อเพื่อนทั้งห้องได้หมด ซึ่งผมพอใจมาก ไม่ได้ทำให้ ครรู สู้ กึ วา่ เดก็ คนนม้ี ี separate parent นะ เขามพี ฒั นาการ เหมือนเด็กครอบครัวปกติ ซึ่งก็ทำให้เราสบายใจ”

ในฐานะที่เขาเป็นคุณพ่อยุคใหม่ ถามว่ามีคัมภีร์ อะไรในการเ­ลี้ยงลูกบ้างไหม คุณพ่อไฟแรงบอกเ­ราว่า “มีครับ เล่มที่ผมชอบอ่านมากที่สุดคือ ‘กว่าจะถึง อนุบาลก็สายเสียแล้ว’ ซึ่งเขียนในยุค 60s คนเขียนเป็น อดีตประธานโซนี่ ท่านเข้าใจว่าเรื่องคนนั้นสำคัญ เป็น เรื่องที่ต้องคำนึงถึงตั้งแต่วัยก่อนอนุบาล การให้เกียรติ เด็ก การทรีตเขาเหมือนผู้ใหญ่ ผมให้พิพิมฟังเพลงที่ผม ฟังด้วย เขาฟังไมล์ เดวิส ฟังเพลงคลาสสิก ไม่ได้ฟังแค่ ปาป้าพิกอย่างเดียว ผมอยากสอนใ­ห้เขาโอบรับความ หลากหลายขอ­งผู้คน ไม่จำกัดคุณค่าคน ไม่จำกัดเพศ สภาพ ไม่จำกัดอาชีพ

“และผมพยายา­มเลี้ยงเขาให้ช่วยเหลือตัวเองได้มาก ที่สุด เพราะจะเป็นประโยชน์ทั้งสำหรับเขาและสำห­รับ เรา บางทีเราใจร้อน อยากรีบป้อนข้าวเสร็จเร็วๆ อยาก รีบแต่งตัวเขา ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น แต่ถ้าเรา ใจเย็นพอที่จะสอนให้เขากินเองได้ ใช้ตะเกียบเป็น เปลี่ยนเสื้อผ้าเองได้ พ่อหายเหนื่อยขึ้นเยอะเลย” จบ ประโยคคุณทิมหันไปมองน้องพิพิมด้วยแววตาอ่อนโยน

แล้วเขาสนใจเรื่องคะแนนของ­ลูกหรือเปล่า คุณพ่อ ทิมส่ายหน้าทันควัน “เดี๋ยวนี้คนหัวดีมีเยอะครับ แต่ผม อยากให้เขาเป็นคนจิตใจดีมากกว่า มีความเคารพผู้อื่น และเป็นเด็กร่าเริง ยิ่งตอนผมเรียน Harvard University เห็นคนเก่งๆ ที่ทำงานไม่สำเร็จเยอะ ส่วนเด็กอีกกลุ่มที่ EQ ดีประสบความส­ำเร็จมากกว่าคน IQ ดีก็มาก ผม เองก็ไม่ใช่คนเก่ง แต่อาศัยว่าขยัน มีความพยายาม­ใน การแก้ปัญหา ก็หวังว่าเขาจะเป็นแบบนั้น ดีกว่าฉลาด แล้วไม่สนใจคนอื่น ลัดคิวคนโน้นคนนี้ตลอดเวลา ผมว่า ไม่ถูกต้อง”

บทเรียนจากพ่อถึงลูก

ในโลกดิจิตอลที่ทุกอย่างเชื่อมถึงกันหมด สมาร์ท โฟนหรือไอแพดกลาย­เป็นอวัยวะที่ 37 ของร่างกาย ปัญหาเรื่อง cyber bullying เป็นปัญหาใหม่ที่พ่อแม่ยุคนี้ วิตกกังวล พ่ออย่างคุณทิมมีวิธีรับมือเรื่องนี้ไว้อย่างไร “การที่พ่อแม่แยกทางกันถือเป็นโชคร้ายของครอบค­รัว เรา และเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่จะมีคนสนใจเขาม­ากเป็น ธรรมดา เพราะคุณแม่ก็เป็นนักแสดง คุณพ่อเป็นสส. การเป็นคนสาธารณะ ใครจะกล่าวหายังไง จะพูดอะไร ยังไงก็ได้ ผมอธิบายให้เขาเข้าใจในอีเมลที่ส่งให้พิพิม เรียบร้อยแล้ว พอเขาโตขึ้นผมจะให้พาสเวิร์ดเขาไปเปิด ดูว่าความจริงเป็นยังไง

“ถ้าหากเขาเข้มแข็ง เขาก็จะมีภูมิคุ้มกันสำหรับโลก อนาคตเอง เมื่อก่อนเราโดนแก­ล้งในสนามเด็กเล่น แต่ เดี๋ยวนี้คนแกล้งในอินเทอร์เน็ต แล้วแชร์กันทีทั้งโรงเรียน เมื่อก่อนเราถูกสอนให้กินร้อนช้อนกลางล้างมือ เป็น เรื่องสุขลักษณะทางกาย แต่เด็กรุ่นต่อไปจะต้องถูกสอน ให้มี digital hygiene สุขลักษณะทางด้านเทคโนโลยีว่า สกรีนไทม์เท่าไร อย่างนี้ทำได้ อย่างโน้นทำไม่ได้ ขณะนี้ รัฐบาลสิงคโปร์และเฟสบุ๊กจริงจังกับเรื่อง cyber bullying หรือ fake news มาก เพราะต่อไปลูกหลานจะเจอ­เรื่องนี้ มากกว่าเรา”

ส่วนคำถามสำคัญที่จี๊ดหัวใจพ่อจากน้องพิพิมที่ว่า หม่าม้ากับพ่ออยู่ด้วยกันได้ไหมคะ คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยว บอกเราว่า “บางทีเขาก็สงสัยว่าทำไมคุณพ่อคุณแม่ ไม่อยู่ด้วยกัน เพราะเมื่อก่อนก็อยู่บ้านหลังนี้ด้วยกัน ทำให้ผมต้องค่อยๆ อธิบายความจริงให้เขาฟังว่า ตอน นี้พ่อกับแม่พยายามคุยกันอยู่ แต่ยังไม่ค่อยสำเร็จเท่าไร ตอนนี้พิพิมอยู่กับพ่อ แล้ววันศุกร์อยู่กับแม่นะ ทุกวันนี้ เขายังไม่เข้าใจไม่เป็นไร อย่างน้อยเราไม่ได้โกหก

‘เด็กรุ่นต่อไป จะต้องถูกสอนให้มี digital hygiene เพราะ ต่อไปลูกหลานจะเจอ เรื่องนี้มากกว่าเรา’

“แต่ที่สำคัญยิ่งกว่านั้นคือ การทำให้เขารู้ว่าโลก นี้ไม่ได้มีแค่พ่อแม่ที่ไว้ใจได้เท่านั้น ยังมีคุณย่า คุณยาย คุณครู เพื่อนพ่อ เพื่อนบ้าน ที่คอยรับฟัง เขา ให้คำแนะนำ ถ้าพ่อแม่มัวแต่แย่งลูกกันก็จะ สงสารลูกเปล่าๆ ผมไม่อยากให้เขาต้องเลือกว่าจะ เอาพ่อหรือเอาแม่ เพราะเป็นอะไรที่ยากเกิน ขณะ เดียวกันก็ต้องหาวิธีที่จะเป็น single parent ที่ดำเนิน ชีวิตต่อไปได้

“ไม่ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเรา เราควบคุมไม่ได้ แต่เราสามารถค­วบคุมวิธีตอบสนองมันได้ ซึ่งคง ต้องใช้เวลา ไม่ใช่ว่าเราไม่เสียใจเลย เป็นไปไม่ได้ ตอนแรกผมเห็นพิพิมร้องไห้บ่อยๆ ผมก็ไม่สบายใจ แต่ตอนนี้เขาเข้มแข็งกว่าพ่ออีก ผมก็เลยหมดห่วง พิพิมเล่นกับผมทุกอย่าง แต่งหน้าทาเล็บให้ผม หวี ผมให้ ผมก็แต่งหน้าให้เขาได้ไม่มีปัญหา ที่ยังขาด อยู่คือผมถักเปียไม่เป็น (ยิ้ม) จริงๆ ทางออกของ ชีวิตมีอยู่ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะอนุญาตให้ตัวเองทุกข์ ทรมานจนถึงไหน แล้วถ้าเราข้ามเส้นนั้นไปแล้ว ไม่ ต้องหันกลับไปอีก เมื่อนั้นเราจะมีความสุข บางที เราเอาความ­สุขไปผูกกับความสมบูรณ์แบบมาก เกินไป เราต้องเริ่มต้นชีวิตใหม่ในสถานะใหม่และ หาเป้าหมายใหม่ต่อไป”

 ??  ??
 ??  ??
 ??  ?? เจ้าหญิงน้อยกับคุณพ่อที่น่ารัก (ซ้าย) น้องพิพิมชอบแต่งตัวเป็นเจ้าหญิง (ล่าง) กระหนุงกระหนิงประสาพ่อลูก
เจ้าหญิงน้อยกับคุณพ่อที่น่ารัก (ซ้าย) น้องพิพิมชอบแต่งตัวเป็นเจ้าหญิง (ล่าง) กระหนุงกระหนิงประสาพ่อลูก
 ??  ??

Newspapers in Thai

Newspapers from Thailand