DUSIT THANI COLLEGE
สถาบนั ฯ ไมเ่ พยี งสรา้ งมอื อาชพี เพอื่ ประเทศ แตก่ ำลงั สรา้ งบคุ ลากรของโลก
เพราะการท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมที่เปรียบ เสมือนกระดูกสันหลังของประเทศไทย โดยมี ความสำคัญต่อโครงสร้างเศรษฐกิจเนื่องจากเป็น อีกหนึ่งแหล่งรายได้หลักของประเทศ อีกทั้งเป็น อุตสาหกรรมที่บ้านเรามีขีดความสามารถในการ แข่งขันสูงเทียบเท่าระดับโลก ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ ท่านผู้หญิงชนัตถ์ ปิยะอุย สุภาพสตรีแห่งดุสิตธานี เกิดปณิธานอันแรงกล้าที่จะสร้างต้นกล้าในวิชาชีพ เฉพาะทางด้านธุรกิจการโรงแรมและการท่องเที่ยว ให้เติบใหญ่ โดยผ่านการศึกษา ณ วิทยาลัยดุสิต ธานี ทกี่ อ่ ตงั้ ครงั้ แรกเมอื่ พ.ศ. 2536 เพอื่ เปน็ กำลงั สำคัญสู่การพัฒนาธุรกิจการโรงแรมและการ ท่องเที่ยวให้รุดหน้าทัดเทียมนานาประเทศ
และถึงวันนี้กว่า 20 ปี ที่วิทยาลัยดุสิตธานีได้ สร้างบุคลากรที่มีคุณภาพคนแล้วคนเล่าเข้าสู่แวดวง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ประสบความสำเร็จ มากมาย จึงถือเป็นก้าวแรกที่จะพานักศึกษาที่มีฝันบน เส้นทางด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยวสู่ก้าวต่อไป ของความเป็นมืออาชีพและประสบความสำเร็จใน อนาคตทั้งในระดับประเทศและระดับโลกได้อย่าง แท้จริง
“วิทยาลัยดุสิตธานีวันนี้กำลังสร้างมืออาชีพเข้าสู่ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นคนโรงแรม ว่าที่ เชฟมืออาชีพ ฯลฯ ในอนาคตนักศึกษาที่ผ่านการเรียน การสอนที่นี่จะไม่ใช่แค่เติบโตขึ้น มีความเชี่ยวชาญที่ ไม่ใช่แค่ทำงานได้ ไม่ใช่แค่ awareness แต่เขาต้องมี จิตสำนึกในมิติของสังคม มีความรับผิดชอบต่อโลก” ดร.อรรถเวทย์ พฤกษ์สถาพร รักษาการอธิการบดี วิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันการศึกษาเอกชนที่ยืนหนึ่ง ทางด้านการศึกษาด้านการโรงแรมและการท่องเที่ยว ของไทย เล่าถึงความมุ่งมั่นของวิทยาลัยกับการผลิต บุคลากรคุณภาพเฉพาะทางของสาขานี้ ซึ่งมาพร้อม การปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนของสถาบันฯ ที่ สอดคล้องไปกับยุคเทคโนโลยีเปลี่ยนโลกหรือยุค ดิจิตอลนี้
“ข้อดีของวิทยาลัยดุสิตธานีคือ เราขึ้นตรงกับ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่ถือว่ามีความเปลี่ยนแปลง รวดเร็วเสมอ โดยต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าปัญหาของ ภาคการศึกษาทั่วไปคือ มักจะตามอุตสาหกรรมไม่ทัน ไปไม่ถึงภาค experience แต่โชคดีที่เราเป็นส่วนหนึ่ง ของกลุ่มดุสิตธานี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่ทันกับการ เปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมในระดับโลกอยู่แล้ว และเรายังมองเห็นอีกด้วยว่า ทุกวันนี้อาชีพของโลกนั้น เปลี่ยนไป เด็กที่กำลังเรียนอยู่ตอนนี้ เขาไม่รู้หรอกครับ ว่าอนาคตอีกสี่ปีข้างหน้า อาชีพนี้ยังมีอยู่หรือจะเปลี่ยน ไปมากแค่ไหน จึงเป็นหน้าที่ของสถาบันการศึกษาที่ ต้องช่วยให้เขาเติบโตอย่างมีทักษะในการปรับตัว ปรับเปลี่ยน เพื่อให้ทันโลก”
หากมองย้อนเวลาตั้งแต่วันแรกกระทั่งถึงวันนี้ ความสำเร็จตลอดเวลาที่ผ่านมาของวิทยาลัยดุสิตธานี
ก็คือ การที่นักศึกษาจากสถาบันแห่งนี้ ‘จบแล้วสามารถ ทำงานจริงได้เลย โดยสถิติการมีงานทำสูงถึง 95%’
“ด้วยความที่ระหว่างทางตั้งแต่ร่ำเรียนควบคู่ไปกับ การทำงานจริงในอุตสาหกรรม รวมถึงชั่วโมงบินของการ ฝึกปฏิบัติภาคสนามตั้งแต่ปีแรก ทำให้เมื่อเรียนจบแล้ว เด็กสามารถทำงานได้เลย ซึ่งองค์กรธุรกิจต่างๆ มองเห็น ไม่ว่าใครก็พูดถึงจุดเด่นตรงนี้ของเรา ไม่ว่าจะเป็นด้าน การโรงแรม ด้านการประกอบอาหาร รวมถึงบริการการ ท่องเที่ยวต่างๆ”
นอกจากนี้คณาจารย์ยังถือเป็นอีกส่วนสำคัญที่ สร้างชื่อให้วิทยาลัยแห่งนี้ “สิ่งที่เด็กได้รับจากวิทยาลัย ของเรา คือประสบการณ์ที่เกิดจากสถานการณ์จริง เป็น เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโรงแรมที่เด็กจะได้เรียนรู้ โดย จะถูกนำมาถ่ายทอดจากอาจารย์ไปสู่เด็ก เลยยิ่งทำให้ นักศึกษาของเราเรียนรู้งานเร็วกว่าคนอื่น หรือแม้แต่การ ประกอบอาหาร สิ่งที่วิทยาลัยดุสิตธานีมีและแตกต่าง จากสถาบันอื่น คือคณาจารย์ที่ชัดเจนว่ามีประสบการณ์ อยู่ในภาคอุตสาหกรรมและได้รับมอบหมายนโยบายให้ ทำการเรียนการสอนเน้นที่ตัวนักศึกษา ส่วนด้านผลงาน รวมถึงงานวิจัยของอาจารย์ก็ต้องเป็นผลงานสะท้อน ตัวตน ไม่ได้ทำวิจัยเพราะหน้าที่ แต่ต้องเป็นงานวิจัยที่ เอามาใช้ประโยชน์ได้จริง”
ทุกวันนี้วิทยาลัยดุสิตธานีได้รับการรับรองคุณภาพ การศึกษาทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ พร้อมกับ หลักสูตรการเรียนการสอนที่หลากหลายสาขาครอบคลุม ธุรกิจอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว
“หลักสูตรการเรียนของเราแบ่งเป็น 2 ภาพใหญ่ๆ นะครับ ส่วนแรกที่เป็นดีกรีก็จะมีสอนระดับปริญญาตรี ปริญญาโท ซึ่งถ้าเป็นปริญญาตรีหลักสูตรภาษาไทย ที่เปิดสอนคือ 1.สาขาวิชาการจัดการโรงแรม 2.สาขา นวัตกรรมการบริการในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และ 3.สาขาการจัดการครัวและศิลปะการประกอบอาหาร ใน ส่วนของหลักสูตรนานาชาติ ก็จะมีหลักสูตรการเรียน การสอนที่เกี่ยวกับการจัดการโรงแรมและรีสอร์ท โดย ได้รับการรับรองจากโรงเรียนการโรงแรมโลซาน สวิต เซอร์แลนด์ ส่วนหลักสูตรศิลปะการประกอบอาหาร อย่างมืออาชีพ จะเป็นความร่วมมือระหว่างสถาบัน เลอ กอร์ดอง เบลอและวิทยาลัยดุสิตธานี ในส่วนของ ปริญญาโทเราเปิดหลักสูตรการจัดการธุรกิจการบริการ ที่เรียนจบได้ภายในหนึ่งปีครึ่ง
“และที่นี้เรายังมีหลักสูตรเทียบโอนประสบการณ์ ทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ที่คนใน อุตสาหกรรมสามารถใช้ประสบการณ์ทำงานมาเทียบ โอนเป็นหน่วยกิตได้ แล้วก็เรียนเพิ่มเพื่อให้ได้ปริญญา
“นอกจากนี้ยังมีหลักสูตรระยะสั้น ตั้งแต่ Executive Program ทางด้านการจัดการโรงแรม รวมถึงหลักสูตร อื่นๆ เช่น หลักสูตรการพัฒนาการบริการ หลักสูตร การพัฒนาความสามารถด้านต่างๆ หลักสูตรการทำ ขนมไทยและเบเกอรี การบริหารโรงแรมประเภทบูทีก มารยาทสากลในการรับประทานอาหาร การจัดการงาน แม่บ้าน ฯลฯ ซึ่งเป็นหลักสูตรระยะสั้นที่มีตั้งแต่ 1 เดือน ไปจนถึง 6 เดือน หรือจะสั้นๆ แค่ห้าวัน เจ็ดวัน ซึ่ง หลักสูตรในส่วนนี้เปิดกว้างสำหรับใครก็ได้ที่ต้องการ และวันนี้ทางวิทยาลัยฯ ให้ความสำคัญกับการเรียนแบบ นี้มาก เพราะเทรนด์อาชีพของผู้คนจะไม่ใช่อาชีพที่เฉพาะ เจาะจงอย่างใดอย่างหนึ่งหรือปักหลักอยู่จุดใดจุดหนึ่ง อีกต่อไป แต่ทุกคนกำลัง up skill เสริมความรู้ของตัวเอง ในวิชาชีพที่ต่างสาขา เพื่อเสริมสร้างให้ตัวเองมีความ สามารถรอบด้านขึ้นนั่นเอง”
เพราะวิสัยทัศน์ที่ก้าวทันโลก เข้าใจเทรนด์ที่ เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา บวกกับจุดเด่นของหลักสูตร ที่พัฒนามุมมองระดับนานาชาติ ทำให้วิทยาลัยดุสิตธานี ยังคงเป็นเบอร์หนึ่งของสถาบันการศึกษาเอกชนเฉพาะ ทางที่มีชื่อเสียงและคงมาตรฐานระดับโลกมาตลอด 26 ปีนั่นเอง
“นักศึกษาที่ผ่านการเรียนการสอนที่นี่จะไม่เพียง แค่เติบโตขึ้น มีความเชี่ยวชาญที่ไม่ใช่แค่ทำงานได้ ไม่ใช่ แค่ awareness แต่เขาต้องมีคุณลักษณะ “ดุสิต” หรือ DUSIT Characters ที่มีจิตสำนึกในมิติของสังคมด้วย”
‘นักศึกษาที่ผ่านการเรียนการสอนที่นี่จะไม่ใช่แค่เติบโตขึ้น มีความเชี่ยวชาญ ที่ไม่ใช่แค่ทำงานได้ ไม่ใช่แค่ awareness แต่เขาต้องมีความรับผิดชอบ ต่อโลก มีจิตสำนึกในมิติของสังคม’