ญดา เลิศวิเศษปัญญา วิ่งเทรลเพื่อท่องเที่ยว
เลยให้แม่ฝึกปั่นจักรยานให้ อายุ 30 ปี แล้วนะคะตอนนั้น” คุณจูนหัวเราะใน ความไม่ประสาเรื่องจักรยานคราวที่หัด ปั่นใหม่ๆ แล้วก็เป็นจักรยานนี้เองที่พา เธอไปพบกับเพื่อนๆ ที่ขยับจากการปั่น มาเริ่มวิ่งด้วยกัน
“แรกๆ วิ่งรอบสวนลุมฯ แค่ 2.5 กิโลฯ ก็ยังวิ่งไม่ได้ วิ่งได้ 500 เมตรก็เดินเอา จนตอนหลังๆ เพื่อนในกลุ่มที่วิ่งด้วยกัน ก็ค่อยๆ ให้เทคนิค เราก็ฝึก แล้วก็กลาย เป็นว่าเราทุ่มเทเวลาให้กับการวิ่งมากขึ้น เพราะมันเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ มันสะดวกกับเรา”
การลงแข่งในรายการเป็นวิธีการ
พัฒนาตัวเองในอีกทางหนึ่ง เมื่อวิ่งได้ สักระยะ คุณจูนเริ่มลงแข่งในรายการ Standard Chartered Bangkok Marathon ในระยะฮาล์ฟ 21 กิโลเมตร เมื่อปี 2015 และเริ่มประสบการณ์การวิ่งเทรลครั้ง แรกในงานเทรลที่เขาประทับช้าง จังหวัด ราชบุรี การวิ่งลัดเลาะไปตามป่าเขา ที่มี วิวแปลกใหม่อยู่ตลอดสองข้างทาง คือ การค้นพบความชอบครั้งใหม่ ก่อนจะ กลายเป็นกิจกรรมที่แทบจะขาดไม่ได้ใน เวลาต่อมา
“ตอนนั้นไปแบบไม่มีอุปกรณ์อะไร เลย รองเท้าคู่เดียว ถือขวดน้ำไปด้วยซ้ำ พอดีว่าเขาประทับช้างเป็นเทรลที่ไม่ยาก
มาก ไม่ต้องใช้เทคนิคอะไรนัก เลยเป็น 10 กิโลฯ ที่เราสนุก ไม่รู้สึกเบื่อเลย จะ มีก็แค่หิวเท่านั้น (หัวเราะ) จากนั้นมา จูนไปวิ่งเกือบทุกอาทิตย์ เดือนหนึ่ง ประมาณ 3 รายการ เรียกว่าไม่อยู่ กรุงเทพฯ จากช่วงแรกที่มีวิ่งถนนบ้าง ตอนหลังวิ่งเทรลหมด ที่ไปวิ่งต่างจังหวัด เพราะอยากหนีเมืองด้วย”
เรียกว่างานวิ่งเทรลทั้งรายการเล็ก รายการใหญ่ จะต้องมีชื่อของคุณจูนเป็น เจ้าของบิบอยู่ด้วยทุกครั้ง กระทั่งปีที่สอง ของการวิ่งเทรลนี้เองที่คุณจูนเริ่มมอง หาสนามต่างประเทศ และสมัครลง รายการวิ่งในประเทศสเปน โดยไม่รู้มา ก่อนว่ารายการนั้นคือการวิ่งแบบ Sky Running
“เป็นรายการ Ultra Trail Pirineu ปี 2016 ค่ะ ลงแข่งระยะ 40 กิโลฯ ซึ่งยาก มากจริงๆ เทรลที่เป็นสกายรันนิ่งจะยาก กว่าปกติ ทางยาก สูง ชันปรี๊ดเลย และ เวลากระชั้น ตอนนั้นเรายังใหม่มาก วิ่ง ไปได้ 5 กิโลฯ เราหลุดมาอยู่คนสุดท้าย แล้ว มีคนไทยไปวิ่งกัน 10 คน แล้วจบ คนเดียว จูนก็ไม่จบ วิ่งได้สักครึ่งทาง รู้สึกแย่มาก คิดเอาไว้เลยว่าต้องกลับมา แก้มือ”
นั่นเป็นประสบการณ์ DNF (Did Not Finish) ครั้งแรก ซึ่งก็ทำให้แพลนการ
ญดา เลิศวิเศษปัญญา วิ่งเทรลเพื่อท่องเที่ยว
วิ่งในครั้งต่อๆ มาของเธอมีการวางแผนมากขึ้น “เรา เลือกระยะที่จบได้แน่นอน เพราะอุตส่าห์ข้ามน้ำข้าม ทะเลไป ก็ต้องวิ่งให้จบ เวลาไปวิ่งในเมืองนอกก็จะระยะ 40 กิโลฯ ไม่เกินนี้”
เสน่ห์ของการวิ่งเทรลที่ดึงดูดสาวร่างเล็กให้ออกไป ท้าทายในสนามทุกครั้ง คือสิ่งใหม่ที่รอให้เธอค้นเจอ ระหว่างทาง “มันเหมือนการไปเที่ยวเลยค่ะ เพียงแต่ เป็นการเที่ยวทางเท้า หลงทางบ้างก็มี เคยไปวิ่งที่ โครเอเชีย ปี 2017 ด้วยความที่กำลังสนุก แรงกำลังดี เลยวิ่งเลยทาง มัวแต่ดูวิวจนลืมดูธงที่ปักบอกเส้นทาง จนไปเจอฝรั่งวิ่งสวนมาซึ่งเขาก็หลงหมือนกัน เราเลยมี เพื่อนหลง แล้วสนามนี้น่ารักมาก เขาจัดที่แคว้นอิสเตรีย เป็นเทรลที่วิ่งผ่านเมืองเล็กๆ ไปเรื่อยๆ ทางไม่ยาก ผู้คน น่ารัก บ้านเมืองจะเป็นแบบโบราณ เขาจัดวิ่งเทรลอยู่ เป็นประจำ
“ทริปที่ประทับใจมากคือที่ฝรั่งเศส เป็นรายการ MCC ปี 2018 เป็นพาร์ตหนึ่งของ UTMB (Ultra Trail du Mont Blanc) คแู่ ขง่ เปน็ นกั วง่ิ จบั ฉา่ ยทพ่ี ลาดการจบั สลอต
รายการ 50 กิโลฯ ก็จะมาลงระยะ 40 กิโลฯ แทน และ จูนก็เป็นหนึ่งในนั้น ความที่เราไม่ได้เป็นนักวิ่งแถวหน้า แค่ชอบวิ่ง ชอบการแข่งขัน ส่วนคนอื่นบางคนเป็นนักวิ่ง ร้อยไมล์กันมา ออกวิ่งปุ๊บแล้วหายไปเลย (หัวเราะ) อุปสรรคในตอนนั้นคือแดดแรงมาก โชคดีที่เรามาจาก เมืองร้อน เลยยังวิ่งได้ ขณะที่ฝรั่งหลายคนไม่รอด แล้ว เมืองนี้สวยมาก เขาจัดที่เมืองชาโมนิกซ์ เส้นทางมีทั้ง ขึ้นเขาเรียบๆ ปีนเขาหินลูกใหญ่ๆ ต้องอาศัยความ ระมัดระวังมาก เพราะถ้าลงไม่ดีจะข้อเท้าพลิกได้ แล้ว เส้นชัยอยู่ตรงโบสถ์กลางเมือง โดยเขากั้นทางวิ่งผ่า เมืองไปเลย สองข้างทางมีคนมายืนปรบมือให้แล้วร้อง อาเลๆ บราโว่ๆ จากที่วิ่งมา 40 กิโลฯ หมดแรงแล้ว เจอ การต้อนรับหน้าเส้นแบบนี้หายเหนื่อยเลย เป็นการวิ่งที่ เข้าเส้นด้วยความรู้สึกอลังการมาก”
เมื่อไรที่หมดแรง คุณจูนจะกระตุ้นตัวเองย้ำๆ ว่า ไป เถอะ ไปให้ถึง เอาให้จบ อีกนิด อีกนิด และการให้กำลัง ใจตัวเองแบบนี้เอง ที่พาเธอไปพบความสุขที่หน้าเส้น
“สิ่งที่สำคัญนอกเหนือจากอุปกรณ์คือจิตใจ การวิ่ง แบบนี้มันไม่ได้แข่งกับคนอื่นเสียทีเดียว แต่เป็นการแข่ง กับตัวเอง ถ้าเมื่อไรที่เราคิดว่ายอมแพ้ ขาก็ไม่ไปแล้วค่ะ ใจเราจะหาทางออกอย่างเดียว แต่ถ้าเราคิดว่าเราจะ ไปต่อ ยังไงก็ต้องเอาให้จบ ขาจะพาเรามุ่งหน้าไปเอง เพราะวิ่งขนาดนี้ยังไงขาก็ต้องล้า บางทีวิ่งไกลๆ จูนไม่ ได้ใช้ขาวิ่งหรอก ใช้ใจวิ่ง อยากจบก็ต้องเอาให้จบ”
และคำว่า ‘เอาให้จบ’ นี้เอง ที่ทำให้รายการสุดหิน อย่าง Patagonia Ultra Trail ในอาร์เจนตินา เมื่อปีที่แล้ว เป็นทริปที่คุณจูนลืมไม่ลง
“เป็นทริปที่ยากมากสำหรับตัวเอง เสน่ห์ของเทรลคือ เราไม่มีทางรู้ว่าเส้นทางเป็นยังไง มันคือเซอร์ไพรส์ รายการนี้เส้นทางไม่ได้ยากมาก แต่มันมีเรื่องอากาศที่ เอ็กซ์ตรีมซึ่งเขาบอกไว้แล้ว และเป็นจุดขายของรายการ นี้เลย มีพี่คนหนึ่งวิ่งระยะ 70 กิโลฯ ต้องวิ่งตอนกลางคืน น้ำในเป้น้ำเขาเป็นน้ำแข็ง สูงหน่อยก็คืออุณหภูมิเลข ตัวเดียว แต่ที่จูนเจอคือติดลบ ปกติเวลาไปวิ่งจูนจะมี กางเกงตัดลมไปด้วย ถ้าไม่จำเป็นจะไม่ควักมาใส่ เวลา ไปวิ่งเมืองนอกปกติก็จะใส่แค่เสื้อวิ่งกับเสื้อตัดลม กางเกงก็จะเป็นแค่ขาสั้นหรือเลกกิ้ง แต่รายการนี้ต้องใส่ แบบมิดชิดเลย กางเกงตัดลมที่พกไปเผื่อต้องควักออก มาใส่ตั้งแต่ยังไม่ออกจากจุดสตาร์ต เข้าใจเลยว่าคำว่า หนาวเข้ากระดูกดำมันเป็นยังไง
“ตอนแรกคิดว่าพอวิ่งไปแล้วเดี๋ยวก็ต้องถอดออก เหมือนรายการอื่นๆ ที่ไปก็ต้องถอดชุดพวกนี้ตอนขึ้น เขา แต่ปรากฏว่าสนามนี้ถอดไม่ได้เลย ทุกอย่างรูดปิด มิดชิด ผ้าบัฟฟ์สวมปิดจนเหลือแค่ตา เพราะลมมันแรง มาก หิมะตกด้วย วิ่งไปได้ครึ่งทางสิ่งที่คิดมีอย่างเดียว คือเรามาทำอะไรที่นี่ (หัวเราะ) คิดว่าถ้าลงเขาลูกนี้จะ ยอมออกจากสนามแล้วนะ มันยากเกินไป แต่สุดท้าย ความไม่ยอมแพ้ก็ชนะ ก็มาถึงตั้งขนาดนี้แล้ว นั่งเครื่อง มาตั้ง 40 ชั่วโมงเพื่อจะมาวิ่งแค่ 20 กิโลฯ เหรอ สุดท้าย ก็ไม่ออกค่ะ วิ่งต่อจนจบ
“หรืออย่างตอนไปวิ่งที่โปรตุเกส รายการ Ultra Trail Madeira เขาจัดที่เกาะมาเดรา ดูในรูปแล้วสวยดี กติกา ในการลงแข่งไม่ยาก ก็ลงระยะที่คิดว่าจบชัวร์คือ 40 กิโลฯ พอปล่อยตัวถึงได้รู้ว่ายากมาก แล้วอากาศมีหลาย ฤดู ปล่อยตัวตอนเช้าหนาวๆ เราใส่ทุกอย่างเต็ม พอเริ่ม ไต่เขาเหงื่อออก ก็ถอดออกละชิ้น พับเสื้อเป็นชิ้นจิ๋วๆ เก็บ พอขึ้นไปบนยอดหนาวอีก ต้องควักที่พับไว้ออกมา ใส่อีก จากนั้นเลยตัดสินใจใส่ตลอดแล้วกัน (หัวเราะ)
‘คำวา่ ...เอาใหจ้ บ... นเี่ อง ทที่ ำใหร้ ายการสดุ หนิ อยา่ ง Patagonia Ultra Trail ในอารเ์ จนตนิ า เปน็ ทที่ ลี่ มื ไมล่ ง’
“ความยากของมันนอกจากอากาศคือทางที่มี หลายแบบ ทั้งแห้ง ทั้งแฉะ ขึ้นๆ ลงๆ ตลอดเวลา แล้วความที่เป็นเกาะ เวลาที่เราวิ่งเลียบฝั่ง ลมจะ แรงมาก เราต้องวิ่งต้านลม เทร็กกิ้งโพลก็ปลิว ความน่ารักของคนต่างชาติคือเวลาเราวิ่งผ่าน หมู่บ้านเขา เขาจะเอาน้ำ เอาแซนด์วิชออกมาให้ ชวนคุย ถามว่ามาจากไหน สู้ๆ นะ การที่ได้เจอ อะไรระหว่างทางแบบนี้ มันเหมือนเป็นการ ท่องเที่ยวเชิงวิ่งสำหรับเรา”
สำหรับการเป็นนักวิ่งแล้ว การซ้อมวิ่งอย่าง เดียวนั้นยังไม่พอ เช่นเดียวกับคุณจูนที่ก็ต้องเทรน ตัวเองด้วยการเข้ายิมอย่างสม่ำเสมอ
“ถ้าวิ่งอย่างเดียวมันได้เรื่องหัวใจ ได้กล้ามเนื้อ ที่ขา แต่ถ้าวิ่งแล้วไม่ดูแลตัวเองโดยไม่เสริม กล้ามเนื้อให้กับขา มันจะทำให้เราบาดเจ็บได้ การ เทรนของจูนคือจะมีเทรนเนอร์ส่วนตัว เขาก็จะให้ เราสร้างกล้ามเนื้อขากับกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว เพื่อเวลาที่เราขึ้นเขา เราจะได้ไม่ปวดหลัง ขาก็จะ ได้ไม่เจ็บ มันจะช่วยส่งเสริมการวิ่งของเราให้ดีขึ้น
“ตอนนี้หลายคนที่วิ่งถนนแล้วถึงจุดอิ่มตัวก็ จะมาวิ่งเทรล แต่บางคนก็เข้าใจผิดว่าวิ่งถนนฟูล มาราธอนแล้วจะไปวิ่งเทรลร้อยกิโลฯ ได้ มันคนละ เรื่องกันเลย การเตรียมตัวก็คนละแบบ เวลาวิ่งเรา จะไม่มีเวลาถ่ายรูปสวยๆ เซลฟี่สวยๆ เพราะเรารีบ มันมี cut off รอเราอยู่ทุก 10 กิโลฯ หรือ 20 กิโลฯ เราต้องไปถึงอีกจุดหนึ่งให้ทันเวลา ไม่อย่างนั้นเรา จะโดนเตะออกจากการแข่งขันทันที เวลาจูนวิ่งก็ จะไม่ค่อยได้ควักโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเลย
“คนที่อยากขยับจากการวิ่งถนนไปเทรล สิ่งแรก คือต้องเตรียมใจก่อนเลย ต้องเข้าใจก่อนว่าถึง ระยะทางจะเท่ากัน แต่ความยากง่ายมันต่างกัน มาก เพราะเทรลมันมีเรื่องความชัน มีการขึ้นการ ลง บางคนขึ้นเขาเก่ง ขึ้นได้เร็ว แต่กลัวตอนลง เพราะกลัวล้ม อย่างจูนเป็นคนขึ้นเขาช้า ถ้าขึ้นเร็ว หัวใจจะเต้นเร็วเกิน ร่างกายจะไม่ไหว ต้องค่อยๆ ขึ้น แต่พอถึงทางลงเราวิ่งฉิวเลย แต่ละคนไม่ เหมือนกัน และควรวิ่งไปตามความสามารถที่ ตัวเองไปได้ อย่าฝืน อย่าคิดว่าคนอื่นทำได้แล้วเรา จะทำได้อย่างเขา เพราะสภาพร่างกายไม่เหมือน กัน ต้องประเมินตัวเองให้มากๆ การได้วิ่งบ่อยๆ จะทำให้กล้ามเนื้อเราพัฒนาขึ้น จึงต้องฝึกซ้อมให้ สม่ำเสมอ ที่สำคัญคือระหว่างแข่งต้องกิน อย่า ปล่อยให้ตัวเองหิวจนเกินไป ต้องมีน้ำที่เพียงพอ มี อาหารไปกินด้วย อย่ามีแค่เอนเนอร์จีบาร์ เพราะ เราต้องมีอะไรรองท้องด้วย จูนจะพกพวกขนมปัง ที่ย่อยง่ายติดไปด้วย บางคนโซเดียมในร่างกาย น้อยหรือเหงื่อออกเยอะเกิน ก็ต้องพวกโซเดียม แบบแคปซูลไปเติม ไม่งั้นจะเป็นตะคริว” เธอให้คำ แนะนำฉบับย่อสำหรับมือใหม่ที่อยากวิ่งเทรลบ้าง
สำหรับคุณจูน นอกจากการได้ท่องเที่ยวไปกับ เทรลแล้ว การวิ่งเทรลได้พาเธอไปสู่โลกใหม่ คน ใหม่ๆ และเพื่อนใหม่ซึ่งเป็นมิตรภาพที่เกิดจาก การวิ่ง
“ไม่อยากให้มองว่าการวิ่งเทรลเป็นแฟชั่น เพราะถ้ามองว่าเป็นแฟชั่น สิ่งนั้นจะอยู่กับเราได้ ไม่นาน แต่ถ้าเรามีแพสชั่นกับมัน เราก็จะอยู่กับมัน ได้ตลอด”
‘คนทอี่ ยากขยบั จากการวงิ่ ถนน ไปเทรล สงิ่ แรกคอื ตอ้ งเตรยี ม ใจกอ่ นเลย เพราะเทรลมนั มี เรอื่ งความชนั มกี ารขนึ้ การลง’