‘จำได้ว่าตอนเข้าไปเรียน อนุบาล 3 นี่ร้องไห้ทุกวัน แต่ก็จะมีพี่ชายและแก๊งเพื่อน คอยช่วยดูแล’
จากทั้งสองท่าน คุณไตเติ้ลและคุณโต๊ดเรียนจบ ปริญญาตรีที่คณะนิติศาสตร์ หลักสูตรนานาชาติ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ น้องเล็กอย่างคุณ โต๊ดบินไปเรียนต่อปริญญาโทด้าน International Marketing ที่ Coventry University ประเทศอังกฤษ หากถงึ เวลาบนิ กลบั มาบา้ นเมอ่ื ใด คณุ แมย่ งั ใหเ้ ขา้ ออฟฟิศก่อนกลับบ้านเพื่ออัพเดตงานเสมอ “ช่วงที่ เรียนต่อที่อังกฤษ เป็นช่วงที่ผมเริ่มเข้ามาช่วยงาน คุณแม่แล้ว ซึ่งแต่ละเดือนก็จะกลับเมืองไทยตลอด เรียกได้ว่าเกือบทุกอาทิตย์ จากอังกฤษกลับมาไทย ก็ไม่ใช่ใกล้นะครับ (หัวเราะ) แต่เชื่อไหมว่าผมกลับ มาเกือบทุกอาทิตย์ อย่างทีนี้ถ้าไฟลต์บินบินมาถึง เมืองไทยตอนกลางคืน กลับมาพักที่บ้านได้ไม่กี่ ชั่วโมง รุ่งเช้าคุณแม่จะให้เข้าออฟฟิศเลย ต้องเข้า มาดูงานที่ได้รับมอบหมาย ซึ่งผมโอเคนะ ไม่ได้ ตดิ ขดั อะไร เพราะเรากอ็ ยากเรยี นรงู้ านใหเ้ รว็ อยาก ให้คุณแม่ได้พักเร็วที่สุดด้วย เราอาจจะเหนื่อย หนอ่ ย แตก่ ม็ คี วามสขุ ทไ่ี ดช้ ว่ ยคณุ แม”่
ลูกไม้หล่นใต้ต้น
ด้วยความที่อายุห่างกันเพียงแค่ปีเดียว ในช่วง ที่เรียนมหาวิทยาลัย ทั้งคุณไตเติ้ลและคุณโต๊ด จึงได้เรียนที่เดียวกัน โดยคุณไตเติ้ลเน้นการเรียน กฎหมายธรุ กจิ การคา้ เพอ่ื สามารถนำมาใชป้ ระโยชน์ กบั ธรุ กจิ ของครอบครวั ได้ ในขณะเดยี วกนั ดร.ผอ่ งพรรณ ผู้เป็นแม่เองก็อยากให้ลูกชายคนโตมุ่งเน้นไปในงาน ราชการ ช่วงก่อนหน้านี้ คุณไตเติ้ลจึงกำลังเตรียม สอบเนติบัณฑิต แต่มีอันต้องพักไปเนื่องจากคาบ เกี่ยวกับช่วงสถานการณ์โควิด-19 พอดี “ผมโชคดีที่ ตั้งแต่เด็กได้เห็นการทำงานทั้งสองด้าน ทั้งฝั่งธุรกิจ ของคุณแม่ และฝั่งราชการตำรวจของคุณพ่อ ซึ่งผม ก็ประทับใจทั้งสองด้าน แม้จะเป็นงานที่ต่างกัน แต่ จุดร่วมเดียวกันคือความเที่ยงตรงและซึ่อสัตย์ หลัง เรียนจบจึงคิดจะไปต่อในสายกฎหมาย ประกอบกับ คุณแม่เองก็รับหน้าที่ ผู้พิพากษาศาลสมทบ ศาล เยาวชนและครอบครัวกลาง จังหวัดพระนคร ศรีอยุธยา แต่บังเอิญว่าช่วงที่กำลังเตรียมสอบเป็น ช่วงหยุดเพราะวิกฤติของโควิด-19 พอดี ผมจึงมี เวลาได้ไปช่วยงานคุณแม่เต็มที่ ได้เห็นระบบต่างๆ ที่เราน่าจะช่วยให้พัฒนาให้ทันสมัยขึ้นได้ เพราะ นั่นเองเลยตัดสินใจเบนเข็มมาทางธุรกิจแทน”
คุณไตเติ้ลรับหน้าที่เข้ามาช่วยดูระบบเทคนิคให้ กับแบรนด์ Go Hair ของคุณแม่ มีการนำเทคโนโลยี ใหม่ๆ เข้ามาผสมผสาน เพื่อให้ทุกอย่างดูทันสมัย มากขึ้น นอกจากนี้ยังมีเรื่องภาพลักษณ์ การขาย การตลาด รวมทั้งในส่วนของโรงงานผลิต โดยมี คุณแม่คอยเป็นพี่เลี้ยง ดูแลอยู่ห่างๆ ให้เต็มที่ “จุด ประสงค์จริงๆ คือการทำระบบให้เป็นเหมือน One Stop Service โดยการเอาเครื่องมือต่างๆ มาช่วย คุณแม่จะได้ทำงานได้ง่ายและสะดวกขึ้น” ลูกชาย คนโตกลา่ ว
สำหรับคุณโต๊ด แนวคิดการทำธุรกิจ แทบจะ เรียกได้ว่าอยู่ใน DNA ของเขา ซึ่งตั้งแต่ก่อนเรียน จบปริญญาตรีเขาก็เข้ามาช่วยดูแลกิจการ ทั้งยัง คิดโปรเจกต์ต่อยอดแบรนด์ออกไปให้ทันสมัย เพราะเนื่องจากมองเห็นช่องว่างและโอกาสของ ธุรกิจ และยังจับกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นกว่าเดิม จวบจนก่อนเรียนจบปริญญาโทจากอังกฤษ