ปริสสา สายาลักษณ์
นิ่มค้นเจอเรื่องราวของทะเลสาบไบคาลอย่างไม่ตั้งใจ เพราะเดิมทีเลยนั้นนิ่มเพียงแค่อยากจะเดินทางไป สักที่เพื่อไปดูแสงเหนือ แต่ก็ไม่ได้อยากไปในแถบสแกน ดิเนเวียหรือยุโรปอย่างที่เขานิยมไปกัน และได้ยินมาว่า แสงเหนือที่รัสเซียนั้นสวยกว่าแถบสแกนดิเนเวีย จึงค้น ข้อมูลเพื่อจะไปดูแสงเหนือที่เมืองมูร์มันสค์ (Murmansk) ในรัสเซีย แล้วก็ไพล่ไปเจอว่าทะเลสาบไบคาลในหน้า หนาวนั้นมันมีอะไรที่กระตุ้นต่อมความชอบของนิ่มอยู่ หลายอย่าง และยิ่งตอนนี้ไบคาลได้รับผลกระทบจาก ภาวะโลกรอ้ นอยดู่ ว้ ย หากมโี อกาสทจ่ี ะไดไ้ ปในตอนนก้ี ไ็ ม่ ควรจะตอ้ งคดิ อะไรเยอะ
ด้วยเหตุผลนี้เอง ที่ทำให้นิ่มกดจองทริปไบคาลใน เดือนกุมภาพันธ์อย่างรวดเร็ว แซงหน้ามูร์มันสค์ซึ่งกลาย เป็นทริปที่สองของรัสเซียที่ต้องเลื่อนหนีโควิดไปปลายปีนี้ แทน เปน็ การตดั สนิ ใจโดยไมป่ รกึ ษาใคร เพราะหากมวั แต่ รอปรกึ ษาคนอน่ื นม่ิ เหน็ จะไมไ่ ดไ้ ปแนๆ่
เรื่องราวลึกลับมหัศจรรย์ เป็นความชอบส่วนตัวของนิ่ม
มาแต่ไหนแต่ไร เหมือนเมื่อ หลายปีก่อนที่นิ่มกับแม่พา กันตระเวนในเม็กซิโกอยู่เป็น
เดือน เพราะนิ่มอยากจะไป
เทศกาลแหง่ ความตาย หรอื Days of the Dead ทท่ี กุ คน แต่งหน้าทาตัวเป็นผีกันทั้งเมือง ไบคาลไม่ได้มีเรื่องของ ภูตผีวิญญาณแบบนั้น แต่ความลึกลับของมันอยู่ที่ ทะเลสาบที่กินอาณาบริเวณกว้างขวาง 31,722 ตาราง กิโลเมตร ซ้ำยังเป็นทะเลสาบที่ลึกที่สุดของโลก โดยใน จุดที่ลึกที่สุดอยู่ที่ 1,640 เมตร
ไบคาลเป็นทะเลสาบที่เกิดจากการเอ่อล้นเข้ามาของ น้ำจนเต็มเปลือกโลกที่แตกเมื่อ 25 ล้านปีก่อน จึงมีเรื่อง ราวทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั ววิ ฒั นาการของยคุ ตา่ งๆ ดว้ ย วา่ กนั วา่ ใต้ท้องทะเลสาบไบคาล เป็นถิ่นที่สัตว์แปลกๆ และ
พืชพันธุ์หายากยังดำรงชีวิตอยู่ในดินแดนลึกลับนั้น และ มันก็ลึกเกินกว่าที่เราจะรู้ได้ ว่าใต้ท้องน้ำนั้นมันมีหน้าตา อยา่ งไร
นิ่มจองทริปนี้กับทัวร์โดยไม่บอกให้ใครรู้ แต่แม้แต่ หนง่ึ (มสธร เหน็ ใจชน) เพอ่ื นสนทิ ทไ่ี ปดว้ ยกนั กร็ หู้ ลงั จาก ที่นิ่มเตรียมทุกอย่างล่วงหน้าเสร็จสรรพแล้ว ที่อุบไว้ไม่ ยอมบอกใคร เพราะคนทไ่ี มร่ จู้ กั ทน่ี ่ี เขาจะมองวา่ อนั ตราย เอาไว้ก่อน และนิ่มเองก็แย้งไม่ได้ว่ามันอันตรายหรือไม่ อันตราย เพราะเราไม่เคยไปก็ย่อมยังไม่รู้ ทางเดียวที่จะ ตอบไดค้ อื ไปใหร้ แู้ ละเหน็ เองกบั ตา
การจะไปไบคาล เราต้องบินลงที่สนามบินอีร์คุตสค์ (Irkustsk) ซง่ึ อยทู่ างแถบไซบเี รยี นอนคา้ งทเ่ี มอื งนห้ี นง่ึ คนื แล้วถึงจะนั่งรถต่อไปยังเกาะโอลคอน (Olkhon) ในเช้าวัน ถัดไป เพื่อเราจะไปนอนค้างกันที่นั่น ช่วงที่เราไปนั้น คน เริ่มป่วยกันด้วยโควิดบ้างแล้ว ทัวร์จีนที่เขาเล่าว่าปกติจะ คบั คง่ั คราวนจ้ี งึ บางตาไปถนดั แตก่ แ็ อบรสู้ กึ วา่ เปน็ ความ โชคดี เพราะทริปนี้จะได้เป็นการเที่ยวแบบไม่เนืองแน่น และนา่ จะถา่ ยรปู กนั ไดส้ วยๆ
ไบคาลหน้าหนาวทำให้เรารู้สึกสนุกตั้งแต่ไปถึง หรือ ทจ่ี รงิ สนกุ ตง้ั แตเ่ ตรยี มตวั แลว้ ดว้ ยซำ้ เพราะนม่ิ ตอ้ งเตรยี ม ชุดกันหนาวเซ็ตใหม่เพราะอุณหภูมิในช่วงนี้จะอยู่ระดับ ติดลบเลขสองหลัก เพื่อจะป้องกันเราจากความหนาว เหนบ็ ขนาดนน้ั ได้ ถงึ ขนาดตวั หนาเปน็ แหนมและเทอะทะ เวลาขยับตัว แต่ก็ชอบใจเสื้อผ้าสีสดที่เลือกมา เพราะ พอไปอยู่ไบคาลที่รอบด้านมีแต่ความขาวโพลนของแผ่น นำ้ แขง็ ชดุ เรากต็ ดั กบั แบก็ กราวนดน์ า่ ดู
ทุกอย่างที่นี่ขาวสะอาดไปหมดตั้งแต่อีร์คุตสค์ไปจน ไบคาล อรี ค์ ตุ สคเ์ ปน็ เมอื งทค่ี อ่ นขา้ งสงบ ยง่ิ นง่ั รถออกไป ยังเกาะโอลคอน เรายิ่งเห็นความสงบเงียบของที่นี่ เมือง เล็กๆ บ้านสีขาวทั้งหลังเพราะถูกหุ้มด้วยหิมะ ม้า วัว ที่ มองเห็นเป็นสัตว์แบบวินเทอร์ฟาร์มที่ตัวใหญ่เพราะต้อง อาศัยไขมันหล่อเลี้ยงให้ร่างกายอบอุ่น วิวสองข้างทางที่ มองไปทางไหนก็ขาวโพลนไปหมด ทำให้สงบจนเผลอ หลบั ไปเกอื บตลอดทาง
เราไปถงึ โอลคอนกบ็ า่ ยแลว้ เพราะตอ้ งใชเ้ วลาเดนิ ทาง กนั 5 - 6 ชว่ั โมง ทพ่ี กั บนเกาะนน้ั เปน็ แบบลอ็ กเคบนิ งา่ ยๆ แตห่ ากมาในหนา้ รอ้ น โรงแรมทเ่ี ปดิ ใหบ้ รกิ ารจะมตี วั เลอื ก มากกว่านี้ เล่าให้ฟังสักนิดก่อนว่าที่โอลคอนเป็นเกาะที่ ใหญท่ ส่ี ดุ ในทะเลสาบไบคาล มหี มบู่ า้ นซง่ึ เปน็ คนพน้ื เมอื ง อาศยั อยู่ คนในแถบนจ้ี ะเปน็ คนรสั เซยี ทม่ี คี วามเปน็ จนี อยู่ มากเพราะอยใู่ กลก้ บั แถบมองโกเลยี ทำใหร้ า่ งกายเปน็ ตอ่ ด้วยสรีระที่สูงใหญ่อย่างฝรั่งในหน้าตาตี๋ขาวหรือออก หมวยแบบคนจนี และนบั ถอื พทุ ธและผตี ามบรรพบรุ ษุ
เมื่อเดินเล่นในหมู่บ้าน และขึ้นไปบนเนินสูงที่เป็น แลนดม์ ารค์ บนนน้ั มโี ทเทมโพล (Totem Pole) หรอื เสาไม้ ที่แกะสลักและเต็มไปด้วยสีสันของผ้าที่ผูกไว้ตั้งอยู่หลาย เสา ตามความเชื่อและศรัทธาของชาวบ้านที่นับถือเป็น เทพเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์
ประจำเกาะ ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่เป็นแลนด์มาร์คให้คน ได้ใช้เป็นจุดสังเกตกันเวลาหลงทาง เพราะในความเวิ้งว้าง กว้างใหญ่ของไบคาลมันดูจะคล้ายๆ กันไปหมด เรานั่งส่ง พระอาทิตย์กันบนนั้น พอๆ กับที่ร่างกายชักจะเดินไม่ไหว เลยได้พักขาพักร่างกันไปด้วย และวิบากกรรมก็เกิดกับเรา ตอนขากลบั เขา้ โรงแรม เพราะทางเดนิ กลบั ไมใ่ ชท่ างเดมิ กบั ทเ่ี ราขน้ึ มา แตเ่ ปน็ ทางทพ่ี าเราเลาะเขา้ ไปในหมบู่ า้ น ความ มืดและความหนาวทำให้ร้านฮอตพอตหมาล่าในหมู่บ้าน เปน็ เหมอื นสวรรค์ เพราะแคซ่ ปุ รอ้ นๆ ทเ่ี ราซดลงคอนน้ั พา ให้เราอุ่นไปถึงท้อง ก่อนที่จะหารถพาเรากลับเข้าโรงแรม เพราะเดินฝ่าความหนาว ติดลบยี่สิบกว่าแบบนี้ไป ไมม่ ที างไหวแนๆ่ เช้าวันถัดมาเราเดิน ทางต่อไปยังทะเลสาบ ไบคาลซึ่งอยู่ทางด้าน
เหนอื ของเกาะโอลคอน
ระหวา่ งทางกแ็ วะเทย่ี วตามจดุ ตา่ งๆ ไปดว้ ย ทง้ั ถำ้ นำ้ แขง็ ท่ี เกิดจากน้ำแข็งเกาะตัวกันจนดูเหมือนหินงอกหินย้อย แหลมโคบอย (Khoboy Cape) และแหลมทรีบราเธอร์ส (Three Brothers Cape) ทม่ี แี หลมสามแหลมเลก็ ใหญอ่ ยรู่ วม กนั เปน็ กลมุ่
ดว้ ยเปน็ ทะเลสาบทอ่ี ณุ หภมู ติ ำ่ กวา่ จดุ เยอื กแขง็ ไปมาก จนกลายเป็นแผ่นหนาในหน้าหนาว การเดินทางในฤดูนี้จึง ต้องอาศัยพาหนะอย่างเรือ Hovercraft Khivus ซึ่งเป็นเรือ สะเทินน้ำสะเทินบก และรถที่วิ่งบนน้ำแข็งได้ เป็นรถขนาด ค่อนข้างใหญ่ที่ข้างในมีโต๊ะกินข้าวและฮีตเตอร์ที่ทำงาน ตลอดเวลา เราไดน้ ง่ั กนั ทง้ั สอง แบบ ส่วนตัวนิ่มชอบแบบนั่ง รถมากกว่า เพราะสนุกมาก เวลาดริฟต์แล้วสไลด์ไปบน แผน่ นำ้ แขง็
เมื่อออกจากโรงแรมบน เกาะไปเที่ยวทะเลสาบ คนที่ เราจะฝากท้องได้ไม่ใช่เชฟใน
ร้านอาหารหรือโรงแรมที่ไหนเพราะไม่มี ดังนั้นมื้อเหล่านี้ เราจึงต้องพึ่งรสมือของคนขับรถที่เป็นพ่อครัวไปในตัว เพอ่ื ความอยรู่ อด เราจงึ ตอ้ งทำเปน็ ลมื เรอ่ื งรสชาตไิ ปกอ่ น แคก่ นิ ใหท้ อ้ งอนุ่ เอาไว้ เพราะอาหารอน่ื นอกจากซปุ มนั ตม้ ใสป่ ลาแซลมอน กเ็ ปน็ ของแหง้ ทต่ี อ้ งกลนื ใหล้ งคอ
ที่ทะเลสาบไบคาลมีกิจกรรมตื่นเต้นให้คนที่ชอบอะไร เอก็ ซต์ รมี ไดท้ ำอยพู่ อสมควร อยา่ งการ Night Diving หรอื ดำน้ำ ที่เขาจะขุดรูลงไปใต้พื้นน้ำแข็งแล้วปล่อยตัวเราลง ไป ด้วยด้านล่างที่จะมืดไปหมด และความหนาวที่แค่ยื่น นว้ิ ไปกดชตั เตอรก์ แ็ ขง็ แลว้ นม่ิ วา่ อนั นไ้ี มด่ แี นถ่ า้ จะเลน่ ท่ี สำคัญกว่านั้นคือการดำน้ำที่ต้องห้ามแพนิก แล้วการดำ ลงไปโดยที่มองซ้ายขวาก็มืดไปหมด ถ้ามีปลาหรือสัตว์ อะไรวดื เขา้ มาปะทะ คงยากทจ่ี ะคอนโทรลตวั เองได้ งาน นน้ี ม่ิ จงึ ขอขา้ มไปอยา่ งไมเ่ สยี ดาย สว่ นกจิ กรรมเบาๆ กม็ ี อย่างตกปลาหรือ Ice Fishing ที่เจาะรูน้ำแข็งแล้วหย่อน เหยอ่ื ลงไป นม่ิ เลอื กทจ่ี ะไมท่ ำทง้ั สองอยา่ ง แตเ่ อาเวลาน้ี ไปเดนิ เลน่ และถา่ ยรปู อยา่ งทช่ี อบดกี วา่
พื้นน้ำแข็งของทะเลสาบไบคาลในยามนี้จะมีความ แตกต่างกันในแต่ละจุด บางจุดเมื่อแนบตัวลงไปบนแผ่น น้ำแข็งใสแจ๋วจะมีรอยร้าวประปราย ด้านล่างนั้นมืดมิด เพราะความลึกและก๊าซที่อยู่ใต้น้ำ บางส่วนก็จับตัวหนา เป็นแผ่นสีขาว หรือบางจุดก็เกิดเป็นแท่งน้ำแข็งเตี้ยๆ ขึ้น ขรุขระตามทิศทางของคลื่นในทะเลสาบก่อนจะกลายเป็น นำ้ แขง็ ทแ่ี มจ้ ะไมม่ เี หลย่ี มคม แตถ่ า้ เดนิ ชนเขา้ กเ็ จบ็ ตวั ได้ เหมอื นกนั
เราอยทู่ า่ มกลางความเวง้ิ วาวสขี าวของไบคาลสามวนั เลาะทะเลสาบจากเหนือจรดใต้ แล้วกลับเข้าเมืองมายัง อีร์คุตสค์เพราะใกล้วันต้องเดินทางกลับแล้ว การได้เดิน เลน่ ในอรี ค์ ตุ สคว์ นั นเ้ี ปน็ การทำความรจู้ กั รสั เซยี อยา่ งสน้ั ๆ เราไดร้ วู้ า่ เสอ้ื ผา้ อปุ กรณก์ นั หนาวของรสั เซยี นน้ั ถกู แสนจะ ถกู เมอ่ื เทยี บกบั คณุ ภาพทไ่ี ด้ เขาจะมบี อกไวเ้ ลยวา่ เลกกง้ิ ตัวนี้ เสื้อผ้าชุดนี้เหมาะกับความหนาวที่อุณหภูมิติดลบ เท่าไร ทำให้สามารถใส่แบบตัวเดียวจบไม่ต้องห่อตัวหนา เป็นก้อน นิ่มกับหนึ่งจึงพากันซื้อกลับมาไว้เตรียมพร้อม สำหรบั ทรปิ ดแู สงเหนอื ทม่ี รู ม์ นั สคป์ ลายปนี ้ี และกไ็ ดใ้ สใ่ น วันท้ายๆ ที่อีร์คุตสค์แบบตัวเบาๆ แถมอุ่นพอดีแบบไม่ รงุ รงั
เราพากันออกจากตัวเมืองอีร์คุตสค์เพื่อไปยังเมือง ลิสเวียนกา (Listvyanka) เมืองท่องเที่ยวที่อยู่ห่างออกไป ราวสองชว่ั โมง ทน่ี น่ั มตี ลาดปลาขนาดใหญท่ ม่ี ปี ลาสดให้ เรากินเสียที หลังจากกินของแห้งรมควันกันมานาน แต่ การกินของเขาก็จะไม่เหมือนตลาดปลาญี่ปุ่นอย่างที่เรา คุ้นเคย เพราะเป็นการกินแบบรมควันเหมือนกัน แต่เป็น ปลายา่ งรมควนั สดๆ แลว้ กนิ ไดเ้ ลยแบบไมต่ อ้ งปรงุ รสใดๆ แถมยังอร่อยมาก และจะมีจุดไฮไลต์ของเมืองที่เรา สามารถเจาะน้ำแข็งลงไป หยอดเครื่องดื่มที่เราอยากกิน ลงในรนู ั้นแล้วใช้หลอดดดู ซ้ดู ขึ้นมา เขาบอกว่าไม่ได้เจาะ กันได้ทุกที่ แต่ที่ตรงนี้เป็นจุดที่เย็นที่สุด ดังนั้นใครอยาก กินอะไรก็หิ้วกันมาเอง นิ่มจัดวอดก้ากาแฟไปดูดอย่าง ฟินๆ ก่อนจะไปส่งท้ายกันกับไซบีเรียนฮัสกี้หน้าตาหล่อ เหลาทร่ี อนกั ทอ่ งเทย่ี วอยู่
สุนัขไซบีเรียนฮัสกี้ที่ประจำอยู่กับเลื่อน หรือ Dog Sledding เป็นสุนัขที่ถูกฝึกฝนมาไว้ช่วยกู้ภัยยามมีเหตุ ฉกุ เฉนิ แตเ่ มอ่ื ยงั ไมม่ เี หตฉุ กุ เฉนิ สนุ ขั เหลา่ นจ้ี ะทำหนา้ ท่ี พานักท่องเที่ยวตะลุยหิมะกัน แต่ละเลื่อนจะมีไซบีเรียน ฮสั กห้ี กตวั สำหรบั เลอ่ื นตอ่ หนง่ึ คนนง่ั แลว้ ลากไปบนทาง กระท่อนกระแท่นผ่านแนวต้นสนไปรอบละสิบนาที ทั้ง สนุกทั้งตื่นเต้น แต่นิ่มก็แอบสงสารเจ้าหกตัวนั้นอยู่ในใจ หวงั วา่ มนั กค็ งสนกุ ดว้ ยทไ่ี ดว้ ง่ิ เลน่
นม่ิ กลบั เมอื งไทยดว้ ยผวิ หนา้ สแี ทน เพราะแสงแดดท่ี สาดลงพื้นน้ำแข็งสะท้อนกลับมาที่หน้าเราเต็มๆ ต่อให้ พอกไว้ด้วยครีมกันแดดก็ยังเอาไม่อยู่ แต่มันก็คุ้มยิ่งกว่า คุ้มกับทริปสั้นๆ ในไบคาล ที่เมื่อใครถามถึงทริปนี้ นิ่ม ตอบไดเ้ ลยวา่ “Really love it” และคดิ ถงึ ขน้ั จะจดั ไพรเวต ทรปิ กบั เพอ่ื นๆ เพอ่ื กลบั ไปใหม่ หลงั จากตามลา่ แสงเหนอื ปลายปนี ้ี
จะมใี ครไปกบั นม่ิ มย้ั ?
22 ธ.ค. - 20
ม.ค.