เค้นต้องสง ยั วางบึ้มหน้าราม ‘เร่งคลี่ปมคดี’
ฝา่ยสืบสวน บก.น.4 หิ้วผู้ ต้องสงสัย 1 ราย เค้นสอบโยง บึ้มปากซอย
รามคำแหง 43/1 หน้ามหาวิทยาลัยรามคำแหง ขณะที่ “เฉลิม ” ปัดบึ้มหน้ารามไม่เกี่ยวภาคใต้ ปมการเมือง โยนเป็นเรื่องผลประโยชน์มาเฟีย หากินในพื้นที่มานานแล้ว ตร . เร่งแกะรอยกล้อง วงจรปิดย่านถนนรามคำแหงกว่า 60 ตัว พร้อม จำลองเหตุการณ์หาต้นตอที่มาของระเบิด ใช้ เป็นเบาะแสล่าวายร้ายมารับผิด
เมื่อเวลา 11.30 น . วันที่ 29 พ . ค . ที่ สน . หัวหมาก พล . ต . ต . อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช . น . ได้เรียกชุดสืบสวน สน . หัวหมาก ประชุมติดตามความคืบหน้าคดีคนร้ายลอบ วางระเบิด ที่บริเวณปากซอยรามคำ แหง 43/1 แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กท . โดยมี พ . ต . ท . โสภณ ยานะธรรม รอง ผกก . สส . สน . หัวหมาก พ . ต . ท . หัสดินทร์ นพวงศ์ ณ อยุธยา พ . ต . ท . ธารา เครือละม้าย สว . สส . สน . หัวหมาก พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน . หัวหมาก เข้า ร่วมประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมง
พล . ต . ต . อดุลย์ เปิดเผยว่า ในเบื้อง ต้นเจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำพยานไปแล้ว 19 ปาก โดยเน้นสอบสวนประเด็นความขัดแย้งใน หลายประเด็น ทั้งความขัดแย้งเรื่องค่าเช่าแผง ค้า ผลประโยชน์การตั้งแผงลอย ความขัดแย้ง ของคนเจ็บกับเจ้าของพื้นที่ และความขัดแย้ง ของเจ้าหน้าที่เทศกิจกับผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ รวมถึงความขัดแย้งส่วนตัวของเจ้าของร้าน ตัดผม “ออกัส ” แต่เบื้องต้นยังไม่พบชนวน เหตุนำไปสู่การลอบวางระเบิดแต่อย่างใด
“ขณะเดียวกันได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน ลงพื้นที่หาข่าวในพื้นที่ กท . และบริเวณใกล้ เคียงวา่ มีกลุม่ใดเชี่ยวชาญหรือมีความชำนาญ เพียงพอประกอบระเบิดหรือไม่ รวมทั้งตรวจ สอบอุปกรณ์ทำระเบิด อาทิ ตะปูผอม 3 นิ้ว และกล่องขนม จะต้องหาเบาะแสให้ชัดเจน เพื่อใช้เป็นแนวทางติดตามคนร้ายมาดำเนิน คดี ” พล . ต . ต . อดุลย์ กล่าว
พล . ต . ต . อดุลย์ กล่าวว่า พร้อมกันนี้ได้ มอบหมายให้ ฝ่ายสืบสวน สน . หัวหมาก เร่ง ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตั้งแต่ในบริเวณที่เกิด เหตุเรื่อยไปกระทั่งจนสุดถนนรามคำแหง ใน ช่วงเวลา ตี 1 ของวันที่ 26 พค . . จนกระทั่ง ถึงเวลาเกิดเหตุ เพื่อนำมาประมวลหาเบาะแส ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี ส่วนการจับกุมผู้ ต้องสงสัย 9 คนวานนี้ ไม่พบมีส่วนเกี่ยวข้อง แต่อย่างใด ขณะที่ช่วงเวลาประมาณ 01.00 น . วันเดียวกันนี้ พ . ต . อ . สง่า กรรภิรมย์ ผกก . สส . น .4 สั่งการให้ชุดสืบสวน บก . น .4 ได้ ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยมา 1 ราย และกำลัง สอบสวนเพิ่มเติมว่าได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ การลงมือวางระเบิดครั้งนี้หรือไม่ ในส่วนราย ละเอียดขอปิดเป็นความลับไว้ก่อนเพราะเกรง ว่าจะเสียรูปคดี
ต่อมาเวลา 14.30 น . ที่กองบัญชาการ ตำรวจนครบาล ( บช . น .) พล . ต . ต . ปริญญา จันทร์สุริยา พล . ต . ต . ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ รอง ผบช . น . พ . ต . อ . ชาญ แสงเสียงฟ้า รอง ผบก . สส . บช . น . พ . ต . อ . นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก . สส .3 พ . ต . อ . ชูตระกูล ยศมาดี ผกก . วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก . สส . บช . น . พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ประชุมคลี่คลายคดีคนร้ายลอบวางระเบิด ที่ บริเวณปากซอยรามคำแหง 43/1 โดยใช้เวลา ประมาณ 1 ชั่วโมง
พล . ต . ต . ปริญญา เปิดเผยว่า ได้เรียก ชุดสืบสวนคลี่คลายคดีมาตรวจสอบภาพผูต้อ้ง สงสัยจากกล้องวงจรปิด เพื่อวิเคราะห์ว่าใคร เข้าข่ายที่สุดว่าต้องติดตามตัวหรือควรตัดใคร ออกไป เนื่องจากจุดเกิดเหตุมีประชาชนเดิน ผ่านไปผ่านมาจำนวนมาก จึงต้องขอระยะเวลา หาข้อมูลเพิ่มเติมอีกสักระยะ สำหรับประเด็น การก่อเหตุยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้งไป แต่ให้ นํ้าหนักไปที่การสร้างสถานการณ์ เพราะความ ขัดแย้งระหว่างร้านค้ายังไม่เพียงพอเป็นชนวน ให้ก่อเหตุ แต่ไม่เหมือนกับการสร้างสถาน การณ์ในภาคใต้ ขณะที่การปิดล้อมตรวจค้น จับกุมผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ไม่พบความ เชื่อมโยงกับเหตุระเบิดที่หน้ามหาวิทยาลัย รามคำแหง และในวันที่ 30 พค . . จะประชุม ติดตามความคืบหน้ากันอีกครั้ง
ขณะที่ในที่ประชุมได้สั่งการให้ฝ่าย สืบสวนตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดจากซอย วัดเทพลีลาเพิ่มเติม เพราะเชื่อว่าผู้ก่อเหตุ อาจนำรถมาจอดเดินลงนำระเบิดมาวางไว้ แต่ ไม่น่าจะนั่งรถประจำทางหรือโดยสารรถแท็กซี่ มาก่อเหตุ จึงต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า จากการ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในบริเวณที่เกิดเหตุ ใช้งานได้เพียง 3 ตัวเท่านั้น โดยที่บริเวณหน้า ธนาคารกรุงเทพ ปากซอยรามคำแหง 43/1 จับภาพผู้ต้องสงสัยไว้ได้ 1 ราย เป็นชายอายุ ประมาณ 20 ปีเศษ สวมเสื้อยืดกางเกงขาสั้น ใส่รองเท้าแตะแบบหนีบ สวมหมวกแก๊ปและ หน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ถือถุงพลาสติก บรรจุวัตถุต้องสงสัยคล้ายกระป๋องใส่ขนม เดิน จากปากซอยรามคำแหง 39 ไปจนถึงปากซอย รามคำแหง 47 แล้วเดินย้อนกลับมาที่หน้าปาก ซอยรามคำแหง 43/1 วางถุงดังกล่าวที่บริเวณ ตู้โทรศัพท์ใกล้กับร้านตัดผมออกัส แล้วเดิน ย้อนกลับไปที่ซอยรามคำแหง 37 เบื้องต้น เชื่อว่าน่าจะเป็นคนร้ายก่อเหตุพร้อมเร่งตรวจ สอบภาพวงจรปิดบริเวณถนนรามคำแหงกว่า 60 ตัว หาความเชื่อมโยงกับคนร้าย รวมทั้ง จำลองเหตุการณ์ระเบิด เพื่อตรวจสอบหาที่มา ของระเบิดดังกล่าวด้วย
นอกจากนี้ มีรายงานด้วยว่า จากการ สืบสวนได้ตรวจสอบข้อมูลพบว่าก่อนหน้านี้ มีเจ้าของร้านตัดผมได้เงินทุนจากบิดาหลาย ล้านบาท เพื่อนำมาเปิดร้านเสริมสวย แต่ต่อ มาประสบปญัหาหลายอยา่ง ทำใหต้อ้งไปกูเ้งิน จากเจ้าหนี้มาจำนวนหนึ่ง และมีการติดตาม ทวงถามกันเรื่อยมา อีกทั้งยังมีการเก็บเงินจาก ร้านค้าตั้งแผงค้า จนอาจกลายเป็นปัญหาความ ขัดแย้ง จนนำไปสู่การลอบวางระเบิดในครั้ง นี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวน หาสาเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง เพื่อใช้เป็นแนวทาง ติดตามคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป
ส่วนที่รัฐสภา ร . ต . อ . เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงคดีลอบวางระเบิด ซอยรามคำแหง 43/1 ว่า ได้พูดคุยกับเจ้า หน้าที่ตำรวจที่รับผิดชอบคดีแล้ว และพบว่ามี ความคืบหน้าไปมาก เนื่องจากมีกล้องวงจรปิด บันทึกภาพไว้ได้ ทั้งนี้ ขอยํ้าว่าสาเหตุไม่เกี่ยว กับปัญหาภาคใต้และการเมือง แต่เป็นเรื่องผล ประโยชน์ มาเฟียหากินในพื้นที่มานานแล้ว
ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า จากการตรวจ สอบกล้องวงจรปิดใกล้กับจุดเกิดเหตุ บริเวณ ซอยรามคำแหง 43 และท้ายซอยเดียวกัน รวม 3 จุด พบผูต้อ้งสงสัยเดินถือถุงมีมือประคองใน ลักษณะกลัวตก ก่อนนำมาทิ้งที่กองขยะในช่วง เวลาประมาณ 20.00 น . ของวันเกิดเหตุ จากนั้น เดินไปที่ปากซอยรามคำแหง 45 แล้วมีรถโตโย ต้าฟอร์จูนเนอร์ ไม่ทราบสีและทะเบียน ขับมา รับหลบหนีมุ่งหน้าไปทางถนนรามคำแหงขา ออกและมีความเป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นคนร้าย ตัวจริง อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตรวจ สอบรถคันดังกล่าว เพื่อใช้เป็นเบาะติดตามตัว คนร้ายมาดำเนินคดีอย่างเร่งด่วนแล้ว . ปัญหาความขัดแย้ง 9 ข้อ ไม่พูดถึงปัญหา จริยธรรมของนักการเมือง การทุจริต แต่พูดถึง เรื่องความเคลือบแคลงหลักยุติธรรม ตุลาการ ภิวัฒน์ การทำรัฐประหาร พวกตนไม่ต้องการ เห็นประเทศเดินไปในทิศทางที่ผิด จึงไม่ สามารถรับหลักการงบรายจ่ายปี 57 ได้