Daily News Thailand

มีโอกาสได้ยินเสียง‘นกหวีด’สูง!!!

-

แม้วันนี้จะไม่มีเหตุการณ์ “ความรุนแรง” เกิดขึ้นจากการต่อต้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับ วรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อ ไทย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าหลังจากนี้จะไม่มี “ความรุนแรง” เกิดขึ้น

เพราะสถานก­ารณ์ “ความขัดแย้ง” หลัง จากนี้จะถูกพัฒนายกระดับ และอาจจะไม่ใช่แค่ ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมเท่านั้นที่ถูก “ต่อต้าน” แต่จะลุกลามออกไป แม้รัฐบาลจะระบุว่า เป็น เจตนาดีแต่หลายต่อหลายเรื่องถูกตั้งคำาถามว่า “แฝงเร้น” ทางการเมืองหรือไม่

ระเบิดเวลาทางกา­รเมืองอีก 2 ลูกรออยู่ ลูกหนึ่งคือร่างพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท อีก ลูกหนึ่งคือ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ เรื่องมาตรา 68 เรื่องที่มาของส.ว.และมาตรา 190

ยังไม่นับการแถลงนโ­ยบายรัฐบาลที่วันนี้ ก็ไม่มีใครรู้จะมีการชี้แจงต่อรัฐสภาเมื่อไหร่ หรือญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ฝ่ายค้านใช้สิทธิ “ตรวจสอบ” การบริหารราชการแ­ผ่นดินของรัฐบาล

ขณะที่ความต้องการทำา “คลอด” พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ดำาเนินต่อ ไป ความต้องการให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้ามาหากันเพื่อ “ปฏิรูปการเมือง” ดู จะริบหรี่ลง

เพราะเดินหน้ากันไปได้ไม่กี่วัน ก็เกิดภาวะชะงักงัน เพราะฝ่ายที่ ยืนตรงข้ามกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยมีท่าทีปฏิเสธ

ในกระบวนกา­รสภาผู้แทนราษฎร เสียงข้างมากของรัฐบาลย่อม ชนะพรรคฝ่ายค้านอย่างไม่ต้องสงสัย

สุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการพรรคประ­ชาธิปัตย์ ยืนยันว่า หลังจบวาระ 3 แล้วรัฐบาลยังดึงดันเดินต่อก็จะ “ปรึกษา” กับประชาชน ว่าจะดำาเนินการอย่างไรต่อไป

ฯลฯ เมื่อเช้าวัน ที่ 7 สิงหาคมที่ผ่านมา สะท้อนให้อีกฝ่ายเห็นว่า การทำาการเ­มืองแบบ “2 ขา” อย่างที่พรรคเพื่อไทยทำา คือ ขาหนึ่งเป็น มวลชน อีกขาหนึ่งเป็น พรรคการเมืองนั้น พรรคเก่าแก่อย่างพรรคประช­าธิปัตย์ก็ทำาเป็นเหมือนกัน พรรคเพื่อไทยใช้ความพยายาม “ล้ม” รัฐบาลด้วยวิธีการต่าง ๆ นานามาตั้งแต่ปี 2552 ปีนั้น “ล้อมทำาเนียบ” อยู่พักใหญ่แต่สุดท้ายก็ไม่ สำาเร็จ

เป็น

เชื่อว่าเมื่อร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมผ่าน สภาผู้แทนราษฎร ไปสู่วุฒิสภา “ความขัดแย้ง” แบบที่เกิดขึ้นกับส.ส.จะเกิดขึ้นกับส.ว.แทน

ฝ่ายหนึ่งเป็นส.ว.เลือกตั้ง ขณะที่อีกฝ่าย เป็นส.ว.สรรหา

เป็นที่รู้กันว่าส.ว.ทั้งสองกลุ่ม “ตั้งป้อม” ทางการเมืองกันมานาน

เมื่อถึงวันนั้นโอกาสไหลม­ารวมกัน ทางการเมืองจะเกิดขึ้นอีกครั้ง ฝ่ายหนึ่งคือ กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ฝ่ายหนึ่ง คือพรรคประชา­ธิปัตย์ อีกฝ่ายคือกลุ่มส.ว.สรรหา

“เวทีผ่าความจริง” ที่พรรคประชาธิปัตย์ ออกแรงเดินมากว่า 1 ปี ในที่สุดก็เป็นภาพการ เดินนำาหน้าประชาชนขอ­งบรรดาแกนน­ำาและ ส.ส.ของพรรค อาทิ อภิสิทธ์ิ เวชชาชีวะ, ชวน หลีกภัย, บัญญัติ บรรทัดฐาน

จนเกิดข้อสรุปว่าต้องมี “แก้ว 3 ประการ” ที่สุดก็เกิดการชุมนุม ในปี 2553 ขึ้น จนกลายเป็น “บาดแผล”ใหญ่อีกครั้งในสังคมไทย

ดังนั้น การนิรโทษกรรมจึงไม่ใช่เรื่องของ “เสียงข้างมาก” แต่ต้อง “ความเห็นพ้อง” ของทุกฝ่ายร่วมกัน

เดินกันไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ มีสิทธิได้ยินเสียง ’นกหวีด“แน่นอน.

 ??  ??
 ??  ??

Newspapers in Thai

Newspapers from Thailand