ระวังครหาสองมาตรฐาน

ช่วงมีการเคลื่อนไหวของกลุ่มการเมืองต่าง ๆ

บทบาทของสำานักงานตำารวจแห่งชาติ (สตช.) ในฐานะเป็นหน่วย งานที่รักษาความสงบเรียบร้อย และบังคับใช้กฎหมายให้เกิด ความเท่าเทียมกันในสังคม ถือว่ามีความสำาคัญ ยิ่งระยะหลังสตช. มักถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่า เลือกปฏิบัติกับคนบางกลุ่ม หรือนัก เคลื่อนไหวบางสี ยิ่งทำาให้เกิดความหวาดระแวง ส่งผลให้คนใน สังคมบางส่วนไม่ให้ความเชื่อถือ ดังนั้นการจัดรูปแบบเพื่อรับมือ กลุ่มที่ต่อต้านร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลพยายาม ผลักดันให้มีผลบังคับโดยเร็ว จึงถูกจับตามองว่า จะเกิดเหตุบาน ปลายตามมาหรือไม่

ยิ่งปรากฏข่าวว่า ทางกองบังคับการปราบปราม

การกระทำาความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ตรวจสอบการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองของบุคคลต่าง ๆ ผ่าน ทางโซเชียลมีเดีย โดยอ้างว่ามีการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง พร้อมทั้ง ระบุ อาจเป็นการกระทำาที่ผิดกฎหมายตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา14(2) เรื่องการนำาข้อมูลที่เป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ทำาให้กระทบต่อความมั่นคง ซึ่งมีโทษจำาคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับ ไม่เกิน 1 แสนบาท ซึ่งทำาให้สื่อมวลชนทั้งในและนอกประเทศ ต่าง ออกมาคัดค้าน ด้วยเกรงว่าจะกระทบกับสิทธิเสรีภาพของการแสดง ความคิดเห็น

ดังนั้นการท �างานของหน่วยงานที่มีบทบาท

เกี่ยวข้องกับกระบวนยุติธรรม ท่ามกลางสภาพความขัดแย้งและ เห็นต่างในสังคม จะต้องพึงระมัดระวังไม่ให้คนบางกลุ่มนำาไปขยาย ผลว่า ไม่เป็นกลางและอยู่ในสภาพสองมาตรฐาน ซึ่งจะส่งผลต่อ ความน่าเชื่อถือ และความไม่ยอมรับเกิดขึ้น ยิ่งมีเสียงวิจารณ์ว่า หลังจากพรรคเพื่อไทยเข้ามาเป็นแกนนำารัฐบาล มีความพยายาม สถาปนารัฐตำารวจ โดยพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามามีบทบาทแต่งตั้งโยกย้ายนายตำารวจระดับต่าง ๆ ยิ่งทำาให้ คนบางส่วนในสังคมเกิดความหวาดระแวงกับการทำางานของ สตช.

นับจากนี้ไป

ด้วยสภาพความขัดแย้งในสังคม

ไทย และความต้องการผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยที่ยัง ขาดฉันทามติ คงจะเกิดความเคลื่อนไหวของกลุ่มต่าง ๆ อย่างต่อ เนื่อง ซึ่งการชี้แจงเนื้อหาและความจำาเป็นของการผลักดันกฎหมาย ฉบับนี้ จึงมีความสำาคัญเป็นอย่างยิ่ง เพื่อทำาให้เกิดความเข้าใจโดย ถ่องแท้ ไม่ให้เกิดปัญหาตามมา ขณะที่ภาคประชาชนก็ต้อง ตระหนักว่า แม้กฎหมายรัฐธรรมนูญจะเปิดช่องให้สามารถเคลื่อน ไหวและแสดงออกทางการเมืองได้ แต่ก็ต้องอยู่ในขอบเขต และ ไม่ละเมิดหลักนิติรัฐ เพื่อไม่ให้เกิดพฤติกรรมเลียนแบบ จนกระทบ ภาพลักษณ์ของประเทศ.