ชัชชาติเล็งแผน2ก้2ล้านล.ล่ม เตรียมซอยโครงการสร้าง ร อื้ ผังเมืองรับไฮสปีดเทรน
นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า เชื่อว่าการชุมนุมทางการเมืองจะไม่บานปลายจนส่งผล กระทบต่อการเดินหน้าโครงการตามแผนพัฒนาโครงสร้าง พื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งภายใต้ พ.ร.บ. 2 ล้านล้าน บาท แต่หากการพิจารณา พ.ร.บ.ต้องล่าช้าออกไปจากความ ไม่สงบทางการเมือง หรือปัจจัยอื่น ๆ ก็สามารถเดินหน้า บางโครงการได้ก่อนโดยการก่อหนี้เป็นรายโครงการไป
“ยืนยันว่าไม่กังวลในสถานการณ์ทางการเมือง และ หากใครมีข้อสงสัยในโครงการก็สามารถตรวจสอบและ เจรจาด้วยเหตุผลได้ อย่างไรก็ตาม การชุมนุมที่เกิดขึ้น กระทรวงคมนาคมได้สั่งการให้หน่วยงานด้านการขนส่ง ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกิดความปลอดภัย กับผู้ใช้บริการ และป้องกันการใช้พื้นที่เพื่อการก่อเหตุ”
นอกจากนี้ได้ตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นมาเรื่องการ พัฒนาเมืองใหม่เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการ ก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ซึ่งคณะอนุ กรรมการประกอบด้วย สำานักงานนโยบายและแผนการ ขนส่งและจราจร (สนข.) กรมโยธาธิการและผังเมือง กรม ธนารักษ์ และการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) โดยจะ ต้องสรุปการใช้พื้นที่เมืองใหม่ และสถานีรถไฟความเร็วสูง แต่ละแห่งให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน
ทั้งนี้แนวคิดในการพัฒนาพื้นที่แบ่งเป็น 2 แนวคิด คือ ใช้ที่ราชพัสดุ และใช้แนวคิดการจัดรูปที่ดิน ซึ่งคณะ อนุกรรมการจะต้องเข้าไปพิจารณาพื้นที่ในทุกจังหวัด โดย ในส่วนของเส้นทางกรุงเทพฯ-นครราชสีมา ที่สามารถนำา มาพัฒนาได้เป็นพื้นที่แรก คือ พื้นที่ราชพัสดุ ต.หนอง สาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นที่ของกองผลิต อุปกรณ์ สายพลาธิการ กองทัพบก มีประมาณ 541 ไร่ ส่วน อีกพื้นที่เป็นของเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เป็นที่ราช พัสดุ ต.นครสวรรค์ออก อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ซึ่งเป็นที่ตั้ง ของแผนกสัตวบาลที่ 2 กองการสัตว์เกษตรกรรมที่ 3 กรม การสัตว์ทหารบก กองทัพบก มีประมาณ 3,385 ไร่
นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่ง ประเทศไทย(รฟท.) กล่าวว่า นักลงทุนได้แสดงความกังวล เรื่องสถานการณ์ทาง การเมืองว่าจะมีผล ต่อการเดินหน้าโครง การลงทุนโครงสร้าง พื้นฐานของประเทศ ซึ่งได้ยืนยันไปว่าสถาน การณ์ที่เกิดขึ้นยังไม่มี ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ สัญญาณความรุนแรง จนถึงขั้นบานปลาย แต่ยอมรับว่าหากเกิดความ รุนแรงขึ้นอาจส่งผลให้การเดินหน้าโครงการ อาจต้องหยุดชะงักและส่งผลเสียต่อการพัฒนา ประเทศให้ล่าช้าออกไป
นางสาลินี วังตาล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สาย กำากับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานการปิด สาขาธนาคารพาณิชย์ในพื้นที่ที่มีการชุมนุมของ กทม. เพราะประเมินว่าสถานการณ์การชุมนุม ทางการเมืองเบื้องต้นไม่น่าจะยืดเยื้อ แต่หากมี เหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นจริง ธนาคารก็สามารถตัดสิน ใจปิดสาขาเองได้ชั่วคราว ตามความเหมาะสม
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้ จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ความขัด แย้งทางการเมืองที่เกิดขึ้น หากการชุมนุมเป็นไป ด้วยความสงบและเรียบร้อยจะไม่ส่งผลกระทบ ต่อการดำาเนินงานของสถาบันการเงินต่าง ๆ
นายปกรณ์ พรรธนะแพทย์ รอง กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารได้มีคำาสั่งไปยังผู้จัดการสาขาที่อยู่ใน พื้นที่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง 3 เขต คือ เขตพระนคร ดุสิต และป้อมปราบศัตรูพ่าย ให้ ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดความ รุนแรงให้อำานาจผู้จัดการสาขาสั่งปิดสาขาได้ ทันที ให้คำานึงถึงความปลอดภัยของลูกค้า พนักงาน และทรัพย์สินเป็นหลัก แต่ละสาขามี แผนฉุกเฉินรองรับสถานการณ์อย่างชัดเจน
นายอดิศร เสริมชัยวงศ์ รองกรรมการผู้ จัดการใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า สถานการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ยังไม่กระทบ ต่อธุรกิจมากนักโดยต้องขึ้นอยู่กับความรุนแรง ที่เกิดขึ้น เนื่องจากการเมืองไทยอยู่บนความขัด แย้งมาเป็นเวลานานแล้ว ในส่วนของธนาคาร ก็ได้มีการเตรียมความพร้อมในสาขาต่าง ๆ ที่ อยู่ในพื้นที่เสี่ยงเป็นอย่างดี ตามแผนบริหาร ความต่อเนื่อง (บีซีพี).