กำาเครื่ลัองงซื้ใช้อชาไฟวฟ้าบ้ายนอชะดตลก อ
นางกนิษฐ์ เมืองกระจ่าง รองประธาน บริษัท ไทยโตชิบาอุตสาหกรรมจำากัด เปิดเผย ภายหลังหารือสถานการณ์อุตสาหกรรมไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ไทยครึ่งปีแรก และครึ่งปี หลัง 56 ว่า แนวโน้มการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าของ ประชาชนช่วงครึ่งหลังปี 56 คาดว่า จะชะลอ ตัวลง เนื่องจากกำาลังซื้อของประชาชนลดลง เป็นผลจากเศรษฐกิจครึ่งปีหลังชะลอตัว รวม ทั้งปัญหาการเมืองเริ่มกลับมาอีกครั้ง ส่งผลต่อ การตัดสินใจการบริโภคของประชาชน
ส่วนปัจจัยเสี่ยงของภาคเอกชน ยังเป็น ปัญหาจากค่าเงินบาท ที่มีความผันผวน ช่วงต้น ปีเคลื่อนไหวอยู่ที่ 29 บาทต่อดอลลาห์สหรัฐ ขณะนีี้อยู่ที่ 31 บาทต่อดอลลาห์สหรัฐ รวมทั้ง ปัญหาจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว โดยเฉพาะ จีน ญี่ปุ่น แม้ว่าไม่ชะลอตัว แต่ไม่ปรับเพิ่มขึ้น และปัญหาจากแนวโน้มราคานำ้ามันโลกที่ปรับ สูงขึ้น เคลื่อนไหวอยู่ที่106–107 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อบาร์เรล ส่งผลให้ราคาวัตถุดิบมีแนวโน้มสูง ขึ้นตาม ซึ่งทางภาคเอกชนได้ปรับตัวจากปัจจัย เสี่ยง โดยบางรายได้ทำาประกันความเสี่ยงของ อัตราแลกเปลี่ยน และแนะนำาว่า ไม่ควรสต๊อก ปริมาณสินค้าล่วงหน้าจำานวนมาก
“ปัญหาจากเศรษฐกิจครึ่งปีหลัง ที่ ชะลอตัว การเมืองที่ตอนนี้คนกำาลังลุ้นอยู่ว่า จะมีอะไรเกิดขึ้นรุนแรงหรือไม่ และปัญหาจาก ฝนตกส่งผลให้คนไม่มีอารมณ์ซื้อของ โดย เฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งไม่เหมือนสินค้ามือถือ ที่ยังขายได้อยู่ ส่วนปัญหาค่าเงินบาท ก็อยู่ที่ผู้ ประกอบการรายไหน ทำาธุรกิจประเภทส่งออก หรือนำาเข้า อย่างตอนนี้โตชิบา ส่วนใหญ่ทำาส่ง ออก ค่าเงินบาทตอนนี้ที่อ่อนค่าลง เลยเป็นผล ดีกับโตชิบา โดยการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้ายังดี อยู่ โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศ”
นายสมบูรณ์ หอตระกูล ผู้อำานวยการ สถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ กล่าวว่า แนวโน้มการส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าและ อิเล็กทรอนิกส์ ทั้งปี 56 คาดว่า มีมูลค่า 1.59 ล้านล้านบาท ลดลง 3% เมื่อเทียบกับช่วง เดียวกันของปีก่อน จากเดิมคาดว่า ทั้งปีจะเพิ่ม ขึ้น 2.5% หรือมีมูลค่า 1.73 ล้านล้านบาท เนื่องจากตลาดส่งออกหลัก โดยเฉพาะจีน มี แนวโน้มเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้การนำาเข้า สินค้า และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ลดลง รวมทั้งในตลาดอียู และญี่ปุ่น เศรษฐกิจยังไม่ ฟื้นตัว การนำาเข้าสินค้าจึงไม่เพิ่มขึ้น.