อดีตที่ดิน
มงกุฎวัฒนะ ให้ปากคา� ตร. ไขปม “ธวัชชัย” อดีต จนท.ที่ดินพังงา ผูกคอตายในห้องขังดี เอสไอ แจงรายละเอียด วิธีปั๊มหัวใจ ไร้เอี่ยว ตับแตก ฝั่ง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ยังไม่ กา�หนดวันผ่าพิสูจน์ศพรอบ2 รอคณะกรรมการ กลางกา�หนด ผบก.พฐก. ระบุ พบ ดีเอ็นเอ ใน ถุงเท้า “ธวัชชัย” มากกว่า 1 คน เตรียมน า� ดีเอ็นเอบุคคลอื่น ตรวจเทียบเคียง เพื่อความ กระจ่าง ชี้ทดสอบ ถุงเท้าเกี่ยวบานพับผูกคอ ได้ ด้าน ดีเอสไอ นัดญาติผู้ตาย ดูกล้องวงจรปิด อธิบดีดีเอสไอ ลั่น พร้อมรับผิดชอบ หากมีเจ้า หน้าที่เอี่ยว ส่วน กรมป่าไม้ ประสานขอข้อมูล คดี “ธวัชชัย” ออกโฉนดที่ดินมิชอบเพียบ ขณะที่ นักธุรกิจ ครอบครองที่ดิน ใกล้พื้นที่ พิพาท ออกโฉนดมิชอบ ภูเก็ต-พังงา เริ่ม ประกาศขายที่พร้อมบ้านพักตากอากาศหรู ป้องกันเกิดปัญหา
จากกรณี นายธวัชชัย อนุกูล อดีตเจ้า พนักงานที่ดินพังงา สาขาท้ายเหมือง ผู้ต้องหา คดีทุจริตปลอมแปลงเอกสารสิทธิที่ดินโดยมิ ชอบกว่า 1,000 ไร่ ในพื้นที่ จ.พังงา และภูเก็ต สร้างความเสียหายนับหมื่นล้านบาท ใช้ถุงเท้า ผูกคอตัวเองเสียชีวิต ระหว่างถูกควบคุมตัว ภายในห้องคุมขังกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ซึ่งหลายฝ่ายเรียกร้องให้มีการ สอบสวนข้อเท็จจริง รวมทั้งผ่าศพพิสูจน์อีก ครั้ง เพื่อตอบโจทย์ข้อสงสัยสังคมให้กระจ่าง ขณะเดียวกัน เรื่องนี้ยังนา�ไปสู่การขยายผลทวง กรรมสิทธิ์ที่ดินที่ออกโดยมิชอบ ในพื้นที่ จ.พังงา และภูเก็ต ให้กลับมาเป็นของรัฐ ตาม ที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้า เวลา 09.50 น. เมื่อวัน ที่ 8 ก.ย. ที่ สน.ทุ่งสองห้อง น.ส.ละอองดาว ปินะถา และ น.ส.พยอม ตาสว่าง เจ้าหน้าที่ พยาบาลวิชาชีพ ประจาหอพยาบาลผู้ป่วย� วิกฤติโรคหัวใจ หรือซีซียู รพ.มงกุฎวัฒนะ ซึ่ง เป็นเจ้าหน้าที่ที่รับช่วงการส่ง นายธวัชชัย เข้า รักษาต่อที่ รพ. ต่อจากชุดปฐมพยาบาลเบื้อง ต้น พร้อมด้วยหัวหน้าพยาบาล ที่ปรึกษาทาง กฎหมาย รพ.มงกุฎวัฒนะ เข้าให้ปากค �าเพิ่ม เติมกรณีที่เกิดขึ้นกับ พ.ต.อ.มานะ เผาะช่วย ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง พ.ต.ท.วินิจ ศรีสูงเนิน รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.สุบรรณ์ อธิ เศรษฐ์ รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.นพดล ดรศรีจันทร์ สว.(สอบสวน) และ ร.ต.ท.กฤติ เดช ชอบค้าขาย รอง สว.(สอบสวน) มีอัยการ ร่วมสอบด้วย
ต่อมาเวลา 13.00 น. หลังสอบปากคา� เสร็จสิ้น ใช้เวลานานกว่า 3 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ พยาบาลได้ขออนุญาตไม่ให้สัมภาษณ์ใด ๆ กับ สื่อมวลชนรีบเดินทางกลับในทันที ทั้งนี้มี รายงานว่า เจ้าหน้าที่พยาบาลให้ปากคา�ถึงเรื่อง วิธีการปั๊มหัวใจของผู้ป่วยโดยเป็นไปตามหลัก วิธีการปฐมพยาบาลซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ อวัยวะส่วนตับโดยสิ้นเชิง
ด้าน พ.ต.อ.มานะ กล่าวว่า วันนี้สอบ ปากค�าพยาน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่พยาบาลของ รพ.มงกุฎวัฒนะ 2 ปากตามประเด็นที่เราได้ วางรูปคดีก�าหนดประเด็นการสอบสวนเอาไว้ แล้วสา�หรับรายละเอียดในการให้การของพยาน ไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่ว่าเป็นไปตามประเด็น ที่เรากาหนดเอาไว้ก่อนหน้านี้ว่าพยานไป� เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ เกี่ยวข้องกับการ ช่วยเหลือกู้ชีพผู้ตายก่อนเสียชีวิตประเด็นใหญ่ ๆ จะเป็นเรื่องนี้ จะนับตั้งแต่ชุดกู้ชีพชุดแรกที่มา ดีเอสไอซึ่งเราได้สอบปากค �า ไปแล้ว เมื่อรับ ตัวผู้ตาย ซึ่งยังไม่เสียชีวิตไปถึง รพ. จะมีชุด รับตัว ที่จะรับผิดชอบดา�เนินการทางวิชาชีพต่อ กระทั่งเสียชีวิตก็ยังมีประเด็นที่ต้องสอบกันอีก ในส่วนนี้ ส�าหรับวันเวลาที่เสียชีวิตต้องรอ รายงานการตรวจศพจากทางนิติเวชเป็นตัวบ่ง ชี้เพราะว่าขั้นตอนของทาง รพ. เป็นเรื่องของ การปฐมพยาบาล การกู้ชีพการที่ว่าตายเหตุใด เมื่อใด จะเป็นเรื่องของทางแพทย์นิติเวช
“วันนี้พนักงานสอบสวน ได้ขอรายงาน ทางปฏิบัติการทางการแพทย์ประกอบด้วยซึ่ง เป็นส่วนงานคนละส่วนกันกับชุดพยาบาล เหมือนเป็นการส่งไม้ต่อกันไม่มีอะไรที่จะ เกี่ยวข้องกัน เพราะทางพยาบาลชุดแรก ก็ไป รับมาจากดีเอสไอแล้วน�าส่งให้ทาง รพ. ทาง รพ. ก็ดาเนินการต่อทางพยาบาลชุดแรกก็จบ� หน้าที่กันไป จึงไม่มีอะไรที่จะมาซ้�าซ้อนหรือ ขัดแย้งกัน และในส่วนของพยานที่ รพ.ยังมี พยานที่ต้องเรียกมาสอบปากคา�อกี ทางรายงาน การตรวจศพที่ออกเป็นทางการโดยประสบ การณ์เราจะทราบว่าใช้เวลาไม่ตา่�กว่า 2 สัปดาห์ คาดว่าสัปดาห์หน้าก็คงต้องทา�หนังสือประสาน ไป” พ.ต.อ.มานะกล่าว
พ.ต.อ.มานะ กล่าวต่อว่า สา�หรับเรื่อง สา�นวนขณะนี้ไม่สามารถบอกได้ว่ากี่เปอร์เซ็นต์ แล้ว หากไม่ครบตามที่กรอบกฎหมายกา�หนด ก็สามารถขยายเวลาสอบสวนได้อีก 2 ครั้ง ครั้ง ละ 30 วัน สา�หรับการตายในระหว่างควบคุม เป็นข้อสงสัยตั้งแต่ต้นสงสัยว่าตายเพราะเหตุ ใด มีมูลเหตุมีเบื้องหลังอะไร ขณะนี้ยังไม่ สามารถระบุสาเหตุการตายได้ อย่างไรก็ตามใน วันที่ 9 ก.ย. เวลา 10.00 น. จะเชิญเจ้าหน้าที่ ดีเอสไอชุดจับกุม มาสอบปากค า� เนื่องจากมี ประเด็นที่ต้องสอบเพิ่มเติมแต่ไม่สามารถบอก ได้ว่าเป็นประเด็นอะไร ส�าหรับการจ�าลอง เหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ก.ย.นั้น ยังไม่สามารถ ระบุได้ว่า จะใช้ถุงเท้าในการแขวนคอได้หรือ ไม่ ต้องรอผลรายงานจากทางกองพิสูจน์หลัก ฐานก่อน ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้กล้องวงจรปิด เรียบร้อยแล้วแต่เราก�าลังตรวจพิสูจน์ว่าเป็น ไฟล์ต้นฉบับหรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่าทางสถาบันนิติวิทยา ศาสตร์ ยังไม่มีการกา�หนดวันผ่าพิสูจน์ของนาย ธวัชชัย ครั้งที่ 2 เนื่องจากต้องรอคณะกรรมการ กลางจากกระทรวงยุติธรรมเป็นผู้กา�หนดวันอีก ครั้ง อย่างไรก็ตามขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ได้นา�ไฟล์ บันทึกจากกล้องวงจรปิด6 ตัว ที่อยู่ทางเข้าออก รวมถึงทางเดินภายในตึกดีเอสไอมาตรวจสอบ เบื้องต้นพบเพียงภาพเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับรักษา ความปลอดภัยห้องคุมขังของดีเอสไอเพียง 3 คน อยู่ในบริเวณดังกล่าวเท่านั้น
ที่ส�านักงานต�ารวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐสุข ผู้บังคับการ ตารวจพิสูจน์หลักฐานกลาง� (พฐก.) กล่าว ยอมรับผลตรวจดีเอ็นเอในถุงเท้า ซึ่งหลักฐาน ที่พบในห้องควบคุมของดีเอสไอ ที่นายธวัชชัย ใช้ผูกคอตัวเองจนเสียชีวิต ว่า มีดีเอ็นเอของผู้ ตายติดอยู่ที่ถุงเท้าอย่างชัดเจน ทา�ให้เชื่อว่าเป็น ถุงเท้าของผู้ตาย แต่ในถุงเท้ายังคงพบมีดีเอ็นเอ ของบุคคลอื่นด้วย ซึ่งอยู่ระหว่างการประมวล ผลและเก็บตัวอย่างดีเอ็นเอของบุคคลที่แกะ ถุงเท้า และเจ้าหน้าที่ที่ควบคุม เพราะมีความ เป็นไปได้ที่ดีเอ็นเออาจจะติดภายในหลักฐาน คาดว่าจะทราบผลในเร็ว ๆ นี้
ผบก.พฐก. กล่าวอีกว่า ส�าหรับการ จ า� ลองเหตุการณ์ของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ครั้งล่าสุด โดยการนา�ถุงเท้าชนิดที่ใกล้เคียงกับ ที่พบในที่เกิดเหตุมาทดสอบ ยืนยันว่าสามารถ เกี่ยวกับบานพับประตูที่รับน้�าหนักของการผูก คอได้ แต่ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นการผูกคอ ตัวเองเสียชีวิตหรือมีบุคคลอื่นท�าให้เสียชีวิต ซึ่งหากเป็นการผูกคอด้วยตัวเองจะไม่มีร่อง รอยหรือบาดแผลภายนอก แต่หากเป็นฝีมือ บุคคลอื่นกระทา�จะต้องมีร่องรอยการต่อสู้และ ขัดขืนทา�ให้เกิดบาดแผล ส่วนร่องรอยการถูก รัดที่บริเวณล�าคอมีขนาดเล็กกว่าความหนา ของถุงเท้านั้น จากการจา�ลองเหตุการณ์เป็นไป ได้ว่าถุงเท้ามีความยืดหยุ่นจากการรับนา้�หนัก
ทั้งนี้มีการจ�าลองการตกจากที่สูง จน เป็นเหตุให้ตับแตกได้หรือไม่ ซึ่งผลการตรวจ พิสูจน์ทั้งหมดจะต้องน�ามารวบรวมประกอบ กัน ก่อนสรุปส่งให้พนักงานสอบสวน แต่ อย่างไรก็ตามยังต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ทาง นิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง ซึ่งยังไม่สามารถสรุป หรือให้นา้�หนักไปในทางใดทางหนึ่งได้
อีกด้าน ที่ดีเอสไอ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์ เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่าในวันที่ 9 ก.ย. เวลา 10.00 น. นี้ นัดหมายให้นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายและญาติของนายธวัชชัย ให้ เข้าตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด โดยจะ เปิดให้ดูว่าบริเวณใดที่มีกล้องวงจรปิด บริเวณ ใดไม่มีระบบบันทึกภาพ และเซิร์ฟเวอร์ อยู่ตรงจุดใด มีกล้องวงจรปิดทั้งหมดกี่ตัว เพื่อ ให้เกิดความชัดเจนประเด็นกล้องวงจรปิด เนื่องจากขณะนี้มีการวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ว่ากล้องวงจรปิดเสีย ทั้งนี้เรื่องกล้องวงจรปิดมี ทั้งของใหม่และของเก่า ในส่วนที่ชา�รุดก็มีการ ปรับปรุง ดังนั้นดีเอสไอจะเปิดให้ตรวจสอบ อย่างละเอียด เพื่อให้เห็นเลยว่ามีการเดินสาย ไฟเพื่อปรับปรุงระบบใหม่รวมอยู่ด้วย หลังการ ตรวจสอบจะแถลงข่าวเพื่อให้เกิดความชัดเจน ในประเด็นดังกล่าว เรื่องนี้ยืนยันมาตลอด ว่า ความจริงคือความจริง ดีเอสไอไม่มีมูลเหตุ ในการทาร้ายผู้ต้องหา� แต่หากมีเจ้าหน้าที่ ไปเกี่ยวข้องกับสาเหตุการเสียชีวิต ในฐานะ หัวหน้าหน่วยงาน ตนเองก็ต้องรับผิดชอบ อยู่แล้ว