แปลงเกษตรตามรอยพ่ออย่างพอเพียง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง
สนับสนุนจ�กส่วนง�นที่เกี่ยวข้อง เมื่อย�งพ�ร�กรีด ได้มีร�ยได้ประม�ณ 120,000 ต่อปี แต่ก็ยังเป็นหนี้ ต่อกองทุนที่สนับสนุนโครงก�รฯ ด้วยมีค่�ใช้จ่�ยใน ด้�นก�รจัดก�รสวนย�งพ�ร�สงู
ต่อมาทราบว่า ศูนย์บริการการพัฒนา ปลวกแดงตามพระราชดำาริ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ได้จัดให้มีการอบรมความรู้ด้านการเกษตรจึงไปสมัคร เข้ารับการอบรม ทำาให้มีความรู้เรื่องการทำาปุ๋ยหมัก ปุ๋ยนำ้าชีวภาพ นำ้าส้มควันไม้ เพื่อนำามาใช้ในการ ปรับปรุงบำารุงดิน และบำารุงต้นพืชที่ปลูก ซึ่งจะช่วย ให้สามารถลดต้นทุนในการ ทำาการเพาะปลูกได้
จากความรู้ที่ได้รับ เกษตรกรรายนี้จึงปรับเปลี่ยน การปลูกยางพาราแบบพืช เชิงเดี่ยวกลับมาทำาเกษตรแบบ ผสมผสาน ใน พื้ น ที่ ส ว น ยางพารา ในแต่ละวันหลังกรีด ยางและนำานำ้ายางไปขายให้ พ่อค้าแล้วจะกลับมาปรับพื้นที่ปลูกพืชอื่น ๆ ที่เหมาะ สมกับพื้นที่ เช่น ขนุน ละมุด สละ ลองกอง และชมพู่ ส่วนที่ว่างระหว่างแนวไม้ยืนต้นนั้นจะนำาพืชสวนครัว และพืชสมุนไพร เช่น มะเขือ มะกรูด ตะไคร้ กะเพรา โหระพา ขมิ้น เร่ว ว่านม่วง กระวาน กานพลู พริก ไทย อบเชย ขิง ข่า มาปลูกแซม
ขณะเดียวกันก็เลี้ยงเป็ดเพื่อเอาไข่ เลี้ยงไก่ พื้นเมืองเพื่อขาย เลี้ยงไก่ไข่ขายไข่ เลี้ยงปลา และ เลี้ยงกบ ในแหล่งนำ้าที่ขุดขึ้นมาเพื่อเก็บนำ้าสำาหรับรด ต้นไม้ที่ปลูก เลี้ยงชันโรงในแปลงปลูกพืชเพื่อให้ช่วย ผสมเกสรพืชให้ผล และเก็บนำ้าผึ้งไปจำาหน่าย พร้อม ทำาปุ๋ยหมักแห้งจากใบไม้ภายในสวน โดยไม่มีการเผา ทำาลายใบไม้ และทำาปุ๋ยนำ้าชีวภาพจากวัตถุดิบธ ต่าง ๆ ที่มีในพื้นที่ เช่น เศษใบไม้ หญ้า ผลไม้ที่ร่วง ลงมา หรือเศษอาหาร เพื่อใช้ใส่ต้นไม้ที่ปลูก โดยไม่ ต้องซื้อปุ๋ยเคมีเพื่อบำารุงต้นพืช
เมื่อการดำาเนินการประสบความสำาเร็จ เกษตรกรเพื่อนบ้านก็เข้ามาศึกษาดูงานและธ นำากลับไปทำาในพื้นที่ของตนเอง เมื่อผลผลิตธ ออกมาก็จะรวมกันเป็นกลุ่ม นำาออกจำาหน่ายธ ทำาให้สามารถต่อรองราคากับผู้ซื้อได้ด้วย ไม่ธ ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางราคาขายผลผลิตจึงธ ไม่ขาดทุน ธ “ตอนนี้มีรายได้ปีละไม่น้อยกว่า 311,000 บาทต่อปี มีรายจ่ายประมาณ 191,900 บาทธ และมีเงินออม 119,000 บาทต่อปี” นายวินัย กล่าว.