กรมส่งเสริมการเกษตร เผยผลไม้ไทยตลาดสดใส
ธ นายคนิต ลิขิตวิทยาวุฒิ รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร เปิดเผยว่า ปลายปี 2558 ต่อ เนื่องจนถึงต้นปี 2559 โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคม-พฤษภาคม 2559 ประเทศไทยประสบกับปัญหา ภัยแล้งอย่างหนัก ส่งผลให้ภาพรวมผลผลิตผลไม้ของไทยลดลงถึง 30 เปอร์เซ็นต์ โดยผลไม้ภาคตะวัน ออกได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งและการเปลี่ยนแปลงของอากาศ ส่งผล ให้ผลไม้ไม่ติดผล และส่วนหนึ่งทนกับสภาพความแห้งแล้งไม่ไหว ยืนต้นตายเป็นบางส่วน ทำาให้ราคาผล ไม้ภาคตะวันออกในปีนี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะ ทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ราคาขายหน้าสวน ของทุเรียนอยู่ที่ 70-80 บาท/กิโลกรัม มังคุด 80 บาท/กิโลกรัม เงาะ 40 บาท/กิโลกรัม ประกอบกับ ความต้องการของตลาดต่างประเทศที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะประเทศจีนซึ่งนิยมบริโภคผลไม้ของ ไทยมากขึ้น ส่วนประเทศญี่ปุ่นก็นิยมบริโภคและนำาเข้ามังคุดของไทย จะเห็นได้ว่าความต้องการของตลาด ภายนอกก็เป็นส่วนสำาคัญที่ช่วยให้ราคาผลไม้ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนตลาดผลไม้ภายในประเทศ ภาคเหนือซึ่ง มีลิ้นจี่และลำาไย ที่เป็นผลไม้สำาคัญ ในปีนี้สภาพอากาศของภาคเหนือร้อนมากถึง 40 องศาเซลเซียส ส่ง ผลให้ต้นลิ้นจี่และลำาไยบางส่วนยืนต้นตาย และเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ผลผลิตลดลงประมาณ 50-60 เปอร์เซ็นต์ ทำาให้ราคาลำาไยและลิ้นจี่สูงขึ้น โดยราคาหน้าสวน ลำาไยอยู่ที่ 35-40 บาท/กิโลกรัม และลิ้นจี่ 70-80 บาท/กิโลกรัม ในส่วนผลไม้ของภาคใต้ซึ่งมีทุเรียน มังคุด เงาะ และลองกอง ก็ได้รับผลกระทบ จากภัยแล้งด้วยเช่นกัน และปัญหาของฝนทิ้งช่วงทำาให้เงาะแตกใบไม่ออกดอก และทำาให้ผลไม้ออกช้าลง จากปัญหาดังกล่าวก็ส่งผลให้ราคาผลไม้ของภาคใต้ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน ราคาขายหน้าสวน ทุเรียนอยู่ที่ 80 บาท/กิโลกรัม มังคุด 40-50 บาท/กิโลกรัม เงาะ 40-50 บาท/กิโลกรัม
“ฉะนั้น โดยภาพรวมแล้วราคาผลไม้ปีนี้ค่อนข้างดี และในอีก 2 ปีข้างหน้าแนวโน้มราคาผลไม้ก็ จะยังไม่มีปัญหา เนื่องจากปัญหาภัยแล้งที่เกิดขึ้น ส่งผลให้พื้นที่ปลูกผลไม้ลดลง และต้องใช้เวลาอีกหลาย ปีที่จะปลูกทดแทนและให้ผลผลิตได้อีกครั้ง แต่สิ่งที่ควรเฝ้าระวังคือช่วง 3-4 ปีข้างหน้า เนื่องจากปัญหา ราคายางพาราตกตำ่า ทำาให้เกษตรกรโค่นยางพาราและหันมาปลูกไม้ผลทดแทน และหากผลผลิตออกสู่ ตลาดมากก็อาจจะส่งผลต่อราคาผลไม้ ต้องเตรียมหาตลาดเพิ่มเติมเพื่อรองรับผลผลิตดังกล่าว ทางภาค รัฐไม่สามารถเข้าไปควบคุมการปลูกของเกษตรกรได้ แต่จะแนะนำาในการดูแลอย่างไรให้ได้ผลผลิตที่มี คุณภาพ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ทำาความเข้าใจกับเกษตรกรให้ชะลอการขยายพื้นที่ปลูกเพิ่มเติม เพราะ เรามีบทเรียนจากยางพาราที่มีการขยายพื้นที่ปลูกมากเกินไป เมื่อผลผลิตออกมาพร้อมกันส่งผลให้ราคา ยางพาราตกตำ่า” รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรกล่าว.