ปิดตำ�นำนท่องเที่ยวสกุลไทย
ระหว่างร่วมคณะคาราวานสานสัมพันธ์วัฒน ธรรมและการท่องเที่ยวไทย-จีน ที่เริ่มจากเมืองออร์โดส มองโกเลียใน ทางชายแดนตอนเหนือจีนอยู่นาน 2 สัปดาห์ ผมพลันได้อ่านข้อมูลผ่านสังคมออนไลน์แล้วถึง รู้ว่า นิตยสาร “สกุลไทย” รายสัปดาห์แห่งค่าย อักษรโสภณ ประกาศจะปิดตัวเองลงหลังปิด นิตยสาร “หญิงไทย” ในเครือเดียวกันไปก่อนหน้า นา
บอกตรง ๆ รู้สึกใจหายที่เห็น น ข่าวนี้ เพราะสื่อกระดาษฉบับนี้คอนักก อ่านต่างยอมรับว่า แข็งโป๊กอยู่บนแผง หนังสือมานาน มีนักเขียนชั้นแนวหน้า อยู่มากสร้างนักเขียนมาก็เยอะ
กับเป็นนิตยสารที่พัฒนารูป แบบได้ทันตามยุคสมัย และถึงจะมี หนอนหนังสือรุ่นเก่า ๆ ติดตามกันมา นาน แต่ปัญญาชนคนรุ่นใหม่ต่างก็ให้ ความนิยมสนใจไปพร้อมกันิ ใ ไป ้ ั เพราะถือเป็นื ป็ คลังสมองั ชวนอ่าน ไม่เก่าคร่ำาครึอย่างคนไม่นิยมอ่านหนังสือ เข้าใจกัน!
ผมจำาตำานานได้ดีว่าสกุลไทยถือกำาเนิดเกิดขึ้น ครั้งแรกเมื่อปี 2497 และตั้งราคาจำาหน่ายไว้บนแผง ตอนนั้นฉบับละ 3 บาท จนต่อมาเมื่อต้นทุนมันเกิด เปลี่ยนแปลงไปตามสภาวะเศรษฐกิจจึงต้องปรับมาอยู่ที่ ฉบับละ 55 บาท กับกำาหนดอายุตัวเองไว้แน่นอนแล้วที่ 61 ปี เพื่อผลิตฉบับสุดท้ายประดับแผงอีกครั้งแบบอำาลา นักอ่านกันวันที่ 31 ตุลาคม ศกนี้
ที่ผมจำาเป็นต้องหยิบเรื่องนี้มาเขียน ก็เพื่อจะ บอกความในใจบางอย่างว่า สกุลไทยเป็นนิตยสารฉบับ ต้น ๆ ที่เลือกนา�เสนอสารคดีท่องเที่ยวอันเป็นสาระ ด้านการท่องเที่ยวแก่ผู้บริโภค โดยมีอนุสาร อ.ส.ท. ซึ่งเป็นสื่อของรัฐวางแผงอยู่คู่กันอย่างถาวรเพียง ฉบับเดียวในยุคนั้น
ผมพอจะจำาเรื่องราวความเป็นมาได้บ้างว่า ปี 2520 คือปีที่สกุลไทยเริ่มต้นนา�เสนอเรื่องท่องเที่ยว ด้วยการเปิดคอลัมน์สารคดีท่องเที่ยวไทยแล้วเชิญ คุณปราโมทย์ ทัศนาสุวรรณ นักเขียนสารคดีท่องเที่ยว ชั้นแนวหน้าขณะนั้น และมีสถานะเป็นผู้ช่วยบรรณาธิการ อนุสาร อ.ส.ท. รองจากคุณหญิง คณิตา เลขะกุล มา เป็นผู้เขียน ทำาให้ได้รับความนิยมจากนักอ่านอย่าง ล้นหลาม
นอกจากนี้คุณสุภัทร สวัสดิรักษ์ ผู้บริหารสกุล ไทยยามนั้น ก็ยังสนับสนุนให้คุณพิบูลย์ศักด์ิ ละครพล มาเขียนสารคดีท่องเที่ยวกึ่ง นิยายหลายตอนจบชุด “สู่ อ้อมกอดแผ่นดินล้านนา” ก็ทำาให้สกุลไทยกลายเป็น หนังสือส่งเสริมการท่องเที่ยวแผ่นดินไทยอยู่คู่กันนานนับ แตบดนน แต่บัดนั้น
ผมเองมีโอกาสได้เข้าไปเป็นส่วน ร่ ร่วมในนิตยสารฉบับนี้ เมื่อประมาณปี 2 2522 ด้วยการชักชวนของคุณประกาศ วัช วัชราภรณ์ ให้ไปทำาคอลัมน์ “พบนัก เขี เขียน” ประจำาฉบับ เคยสัมภาษณ์คุณ เพ็ เพ็ญแข วงศ์สง่า, ศรีฟ้า ลดาวัลย์, ปรา โม โมทย์ ทัศนาสุวรรณ, “ศุภักษร” ยุคเฟื่อง ฟูชุ ฟูชุดชีวิตรักนักศึกษา ก่อนผันชีวิตมารับ จั จัดพิธีเปิด-ปิดการแข่งขันกีฬาระดับชาติด พร้อมกันนั้นก็ทำาคอลัมน์้ ั บ้านเมืองของเรา นำา เ เสนอภาพถ่ายสถานที่ท่องเที่ยวไทยกับคำาบรรยายให้พอ รู้ รู้จักสถานที่นั้น ๆ กับคอลัมน์ ศิลปวัฒนธรรม ว่าด้วย เ เรื่องวัฒนธรรมและวิถีชุมชนไทยทุกหัวระแหงทั่ว ป ประเทศ...ก็สนุกอยู่ครับ!
ครั้นพอปี 2539 คุ ณปราโมทย์ ทัศนาสุวรรณ เ เสียชีวิต ผมถึงได้เข้าไปเขียนสารคดีท่องเที่ยวไทยแทน โ โดยสลับกับนักเขียนแนวท่องเที่ยวที่เป็นคลื่นลูกใหม่เข้า มาผสมโรง บางครั้งก็เขียนสารคดีท่องเที่ยวต่างประเทศ ไปด้วย เนื่องจากในช่วงที่เป็นมนุษย์เงินเดือนก็มีภารกิจ ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศอยู่บ้างแต่ก็ไม่บ่อยครั้งนัก
ต่อมาเมื่อคุณสุภัทร สวัสดิรักษ์ เกิดเสียชีวิต และสกุลไทยได้ทายาทคือคุณนรีภพ สวัสดิรักษ์ ซึ่งเป็น ที่รู้จักในนาม “คุณเจี๊ยบ” เข้ามารับไม้ต่อในฐานะบรรณา ธิการบริหาร ผมก็ยังคงเขียนสารคดีท่องเที่ยวทั้งใน ประเทศและต่างประเทศอยู่อีก จะหยุดชะงักก็ช่วงปี 2554-2556 เพราะต้องทำางานเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มี ภาระมากขึ้น แล้วกลับมาเขียนต่ออีกครั้งเมื่อ 2557
และที่สุดก็ต้องหยุดสุดท้ายเมื่อสกุลไทยจำาต้อง ปิดตัวเอง เพราะฝืนสู้กับการลงทุน การจำาหน่ายที่ เปลี่ยนแปลงไปตามสังคมโลกด้านเทคโนโลยีไม่ไหว อย่างไรก็ตามผมก็ได้แต่หวังว่า คนไทยคงไม่เมินที่จะ เลือกบริโภคอาหารสมอง ไม่ว่าจากสื่อแขนงใดก็ตาม
อย่าให้ไทยถูกจัดอันดับเป็นประเทศที่ไม่นิยม การอ่านหนังสือกันอีกเลย!!.
บริสุทธิ์ ประสพทรัพย์