ศธ.จี้53จังหวัดตั้งอกศจ.เคลียร์งานด่วน
ดร.พิษณุ ตุลสุข
จากที่เคยเสนอว่าการแบ่งภูมิภาคตาม วิธีของคณะกรรมการนโยบายการบริหารงาน จังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ(ก.น.จ.) แบ่งเป็น ๖ ภูมิภาค และเรียกชื่อเช่นเดียวกับ ภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ตามที่คณะกรรมการ ภูมิศาสตร์แห่งชาติได้แบ่งไว้ แต่มีขอบเขตพื้นที่ บางภาคต่างไปจากภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ คือ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาค ตะวันตก มีเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและ ภาคใต้ที่เหมือนกัน ฉบับนี้ขอนำาขอบเขตของ ภูมิภาคตามที่ ก.น.จ. แบ่งไว้มาเสนอเฉพาะ ภูมิภาคที่ต่างจากภูมิภาคทางภูมิศาสตร์ ดังนี้
ภาคเหนือ ประกอบด้วย ๑๗ จังหวัด ได้แก่ เชียงราย น่าน พะเยา เชียงใหม่ แม่ฮ่องสอน แพร่ ลำาปาง ลำาพูน อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก สุโขทัย เพชรบูรณ์ พิจิตร กำาแพงเพชร นครสวรรค์ และอุทัยธานี ภาคกลาง ประกอบ ด้วย กรุงเทพมหานคร และอีก ๘ จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สระบุรี พระนคร ศรีอยุธยา ปทุมธานี และนนทบุรี ภาคตะวัน ออก ประกอบด้วย ๙ จังหวัด ได้แก่ สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด นครนายก และสมุทรปราการ ภาคตะวัน ตก ประกอบด้วย ๘ จังหวัด ได้แก่ สุพรรณบุรี กาญจนบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม ราชบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์
จากข้อมูลที่ผู้เขียนได้เสนอไว้ใน ๒ ฉบับที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าการแบ่งภูมิภาคทาง ภูมิศาสตร์โดยใช้ลักษณะภูมิประเทศเป็นเกณฑ์ ทำาให้แต่ละภูมิภาคมีลักษณะที่แตกต่างกัน เด่นชัด คือ ภาคเหนือเป็นภูเขาสูงสลับกับหุบเขา และที่ราบลุ่มแม่นำ้าขนาดเล็ก ภาคกลางเป็น ที่ราบลุ่มแม่นำ้าขนาดใหญ่ มีภูเขาอยู่เป็นบาง ตอน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือเป็นที่ราบแอ่ง กระทะ โดยมีผาชันกั้นเป็นขอบเขตทางด้านทิศ ตะวันตกและทิศใต้ แยกออกจากภาคกลางและ ภาคตะวันออกอย่างชัดเจน ภาคตะวันออกเป็น ที่ราบลุ่มแม่นำ้าและที่ราบชายฝั่งทะเล โดยมีภูเขา แทรกอยู่เป็นบางตอน ภาคตะวันตกเป็นภูเขาสูง สลับกับที่ราบลุ่มแม่นำ้าขนาดเล็ก แต่ทางตอนใต้ ของภาคจะติดชายฝั่งทะเลด้วย ส่วนภาคใต้มี ลักษณะเป็นคาบสมุทร มีภูเขาทอดตัวเป็นแนว ยาวอยู่ทางตอนกลางของคาบสมุทร และมีที่ราบ ชายฝั่งทะเลแคบ ๆ ขนาบอยู่ทั้ง ๒ ด้าน ลักษณะ ภูมิประเทศที่แตกต่างกันนี้ทำาให้ประเทศไทยมี สถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติในหลายรูปแบบ ทั้งทะเล ภูเขา แม่นำ้า ลำาธาร เป็นต้น.
อารี พลดี