ธ ทรงช่วยคลายเศร้าคราวธาตุพนมล่ม
สังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ในฐานะประธานฝ่าย สงฆ์ได้ร่วมประกอบพิธีสมโภชพระอุรังคธาตุ อันหมาย ถึงอัฐิส่วนพระอุระ (อก) ของพระพุทธเจ้า ที่รื้อค้นมาได้ จากซากปรักหักพัง ช่วยให้สามารถลดความเศร้าโศกกันไป ได้ระดับหนึ่ง
การบูรณะพระธาตุพนมตามรูปแบบองค์เดิม ให้คืน กลับมาเป็นองค์ใหม่ ต้องใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 3 ปีเศษ ท่ามกลางการรอคอยของคน 2 สองแผ่นดิน ในที่สุดเมื่อ วันที่ 21-23 มีนาคม 2522 วันแห่งความเป็นจริงก็มาถึง วันนั้นผู้คนต่างพากันมุ่งหน้าไปยังวัดพระธาตุพนมวรมหา วิหาร เพื่อรอรับการเสด็จฯ ของ พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เพื่อทรงบรรจุพระอุรังคธาตุกลับคืน สู่องค์พระบรมธาตุ โดยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กับสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้า จุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี ก็ได้เสด็จฯ ร่วมพิธี
และสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จฯ ทรงเป็นประธานยกฉัตรพระธาตุขึ้นในคราเดียวกันนั้น
หลังพระองค์ทรงประกอบพิธีแล้วเสร็จ ตั้งแต่บัดนั้น เป็นต้นมาบรรยากาศของผู้คน ก็ได้ฟื้นคืนมาเสมือนเหตุ การณ์วันที่ 11 สิงหาคม 2518 นั้นเป็นเพียงคืนฝันร้ายที่ มิใช่ความจริง!
ทุกปีเมื่อ วันขึ้น 8 ค่ำาถึงแรม 1 ค่ำา เดือน 3 จะ มีงานนมัสการพระธาตุพนมเหมือนดั่งเดิม แต่ละปีจะมี ประชาชนไปร่วมงานไม่ต่ำากว่าสองแสนคน โดยเพื่อนบ้านนั้น แน่นอนเขาถือว่าทุกปีจะต้องข้ามฝั่งมาร่วมนมัสการให้ได้ และปีหน้านี้จะตรงกับ วันที่ 4-12 กุมภาพันธ์
ทุกปีอีกเช่นกันเมื่อถึงวันเสาร์สัปดาห์ที่ 2 ธันวาคม การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ภูมิภาคอีสาน จะร่วม กับ จ.นครพนม และหอจดหมายเหตุพุทธทาสฯ จัดงาน ปฏิบัติบูชาเพื่อเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ปีนี้ถึงพระองค์จะเสด็จสู่สวรรคาลัยแล้ว แต่งาน ดังกล่าวก็จะยังคงดำาเนินกันบนลานวัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร เพื่อถวายและน้อมรำาลึกถึงเมื่อครั้งที่ พระองค์เคยเสด็จฯ ไปทรงย่ำารอยพระบาททิ้งไว้เมื่อปี 2522 นี่คืออีกโอกาสหนึ่งของคนที่รัก ร.9 อย่าง แท้จริง!!.
บริสุทธิ์ ประสพทรัพย์