‘โกโก้กับสมอง’ ตอนที่ 1
ในบรรดาเครื่องดื่มประเภทชงที่มีสีด า� และเป็นที่รู้จักกันแพร่หลายก็คือ กาแฟ ช็อกโก แลต และโกโก้ เครื่องดื่มทั้ง 3 อย่างล้วนมาจาก พืชและมีกรรมวิธีการผลิตที่ซับซ้อน แต่เมื่อนา� มาชงและผสมกับนมและนา้�ตาลแล้วลักษณะ ใกล้เคียงกันคือสีนา้�ตาลเข้มปนดา� มีรสหวาน ด้วยน้�าตาลและออกรสมันด้วยนม เครื่องดื่ม ทั้ง 3 อย่าง เป็นที่รู้จักกันมายาวนานและมีการ วิเคราะห์เปรียบเทียบถึงคุณประโยชน์นานัปการ แต่ความเป็นจริงในปัจจุบันเราจะเห็นว่า กาแฟดูจะเป็นเครื่องดื่มที่ แพร่หลายไปทั่วโลกและเป็น ที่นิยมอันดับต้น ๆ เป็นที่หนึ่ง ส่วนช็อกโกแลตค่อนข้างแพร่ หลายมากกว่าในโลกตะวันตก ส่วนโกโก้ยังมีความนิยมอยู่ใน หลาย ๆ ซีกโลก แต่ดูว่าจา�นวน ผู้ที่นิยมดื่มโกโก้จะมีจา�นวนด้อย น้อยกว่า 2 อย่างแรก
จากการวิเคราะห์ด้วยเอกสารอ้างอิงไม่ตา่�กว่า8 เอกสาร ซึ่งค้นคว้ามาด้วยเรื่องคุณสมบัติส่วนประกอบและคุณประโยชน์ ของโกโก้เทียบเคียงกับกาแฟและช็อกโกแลต โดย ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิพนธ์ พวงวรินทร์ ราชบัณฑิต สาขาวิชาประสาท วิทยา ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้รวบรวมไว้ดังนี้
มนุษย์เราเริ่มรู้จักดื่มโกโก้กันมานานแล้ว โดยคนพื้น เมืองในทวีปอเมริกาได้เริ่มต้นดื่มกันมาก่อน และต่อมาในราวกลางคริสต์ ศตวรรษที่ 16 จึงมีความนิยมดื่มกันอย่างแพร่หลายและรวดเร็วทั่วทั้งทวีป ยุโรป และเห็น ชาวมายา(Maya) พื้นเมืองในทวีปอเมริกาใต้นิยมดื่มโกโก้ กันโดยทั่วไป
โกโก้ (Cocoa) จัดเป็นอาหารประเภทถั่ว (nut) ที่มีส่วนประกอบ ทางเคมีมากกว่า700 ชนิด โดยมีคุณสมบัติที่มีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ และ ถือเป็นอาหารที่วิเศษที่สุด (super food) ของมนุษย์และได้จัดประเภทอยู่ ในกลุ่มผลไม้ อนึ่งนักวิทยาศาสตร์ทั้งในอดีตและปัจจุบันต่างก็ทึ่งกับ สรรพคุณและคุณสมบัติอันมหัศจรรย์ของ โกโก้ มาตลอด และเรียก โกโก้ ว่าเป็น ยาวิเศษ ของทุกยุคสมัย (the greatest medicine of all time)
ในด้านความปลอดภัย กล่าวได้ว่า โกโก้ มีคุณสมบัติหรือ ประสิทธิผลต่อร่างกายในด้านบวกมาตลอด และจัดว่าเป็นสารอาหารที่ทา�ให้ เกิดสุขภาพดีที่สุดเท่าที่มนุษย์เราจะนา�มาใช้เพื่อรับประทานได้โดยปลอดภัย ในลา�ดับรองลงมาจากนา้�บริสุทธิ์ นอกจากนี้ยังพบว่า โกโก้ ยังมีคุณสมบัติ ในการป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ ในมนุษย์ได้ดีที่สุด ในบรรดาของสารเคมี ทั้งหลายที่เรารู้จักกัน โดย โกโก้ จัดว่าเป็นยาที่ดีสุดของคนเราในปัจจุบัน และได้รับการพิสูจน์ว่า โกโก้ ใช้ได้ผลดีมาตลอดทุกยุคทุกสมัยดังปรากฏ ในค�าบันทึกของ Hippocrates ซึ่งกล่าวว่า “ยาที่ดีสุดของมนุษย์เรา คืออาหาร” และในปัจจุบันพบว่าอาหารที่มีประโยชน์สูงสุดอย่างหนึ่งของ คนเรา คือ โกโก้ นั่นเอง
ดังนั้นในปัจจุบันจึงยอมรับกันโดยทั่วไปว่า โกโก้ เป็นอาหารที่ดี ที่สุดของมนุษยชาติโดยมีความพิเศษในด้านที่มีทั้งกลิ่นหอมและมีคุณ ประโยชน์อนันต์ พร้อมกันนี้ โกโก้ ยังช่วยทา�ให้ทั้งอารมณ์และจิตใจของ คนเราดีขึ้นอีกด้วย สา�หรับช็อกโกแลตนั้นถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์หรือเครื่อง ดื่มที่ทา�มาจาก โกโก้ เช่นกัน โดยมีการเติมส่วนผสมของนา้�ตาล นม เนย เพิ่มขึ้นในสัดส่วนต่างกันออกไป
ในปัจจุบันมีรายงานทางการแพทย์มากมายที่พบว่า โกโก้ มี คุณสมบัติก่อให้เกิดผลดีต่อระบบการไหลเวียนเลือด ระบบทางเดินหายใจ และระบบการทา�งานของสมอง โดยพบว่า โกโก้ มีผลทา�ให้ลดความดัน โลหิตสูง ลดอาการไอและหอบหืด ลดการเกิดโรคหัวใจ ลดการเกิด โรคหลอดเลือดสมอง (อัมพฤกษ์อัมพาต) และยังสามารถป้องกันการเกิด โรคมะเร็งได้อีกด้วย
ล่าสุดมีรายงานทางการแพทย์มากมายที่แสดงอย่างชัดเจนว่า โกโก้ สามารถช่วยลดภาวการณ์ถดถอยของความจา�ในผู้สูงอายุ (age-related memory deficit) ได้ นั่นคือ โกโก้ จะมีผลช่วยด้าน ความจา� และ เพิ่ม ประสิทธิภาพ ของการทา�งานของเซลล์สมองในด้านการเรียนรู้ การรับรู้ การตัดสินใจ ความนึกคิด ความคิดคา�นงึ ความคิดเชิงเหตุผล ความรู้สติ โดยมีชื่อเรียกรวมกันว่า ประชา (cognition) อีกด้วย ส่วนประกอบของโกโก้
โกโก้ ตามธรรมชาติมีองค์ประกอบของสารเคมีต่าง ๆ มากกว่า700 ชนิด ซึ่งรวมทั้งส่วนที่เราทราบกันดีในปัจจุบันทั้งทางด้านสูตรโครงสร้างและ คุณสมบัติกับส่วนประกอบที่เป็น สารเคมีชนิดใหม่ ๆ ที่เรายังไม่รู้จัก กันดีอีกด้วย โกโก้ มีองค์ประกอบที่ สา�คญั คือมีสารเคมีที่จัดประเภทว่า เป็นตัวต้านอนุมูลอิสระ(Antioxidants) ชนิดที่มีคุณสมบัติแรงรวม กันอยู่หลายชนิด สารต้านอนุมูล อิสระเหล่านี้เป็นสารเคมีที่พืชสร้าง ขึ้นมาเพื่อป้องกันมิให้เซลล์ของ ตัวเองถูกท�าลายหรือตายไปก่อน กา�หนด ซึ่งอาจเป็นผลเกิดมาจาก ปัจจัยสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ เช่น ความร้อน แสงสว่าง ความชื้นและมลพิษ ต่าง ๆ ในอากาศ นอกจากนี้การเสื่อมสลายหรือการตายของเซลล์ยังเกิด เป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงอันเนื่องมาจากปัจจัยของกาลเวลาอีกด้วย
ในร่างกายมนุษย์เรา โดยปกติจะมีปฏิกิริยาทางเคมีที่เรียกว่า Reactive Oxygen Species (ROS) ที่เกิดขึ้นมาเองในธรรมชาติ เพื่อท�าลายเซลล์ของตัวเราเอง และเป็นต้นเหตุที่ท�าให้คนเราเกิด สภาวะแก่เร็วกว่ากา�หนด (premature aging) ซึ่ง โกโก้ มีสารเคมีที่ เป็นองค์ประกอบที่มีคุณสมบัติท�าให้การเกิด ปฏิกิริยาของROS ลดลง ดังนั้น โกโก้ จึงมีฤทธ์ิ ชะลอความชราภาพในผู้สูงอายุได้
โกโก้ มีส่วนประกอบของ สารโพลีฟี นอลส์ (polyphenols) จา�นวนมากมายหลาย ชนิด ซึ่งสารเหล่านี้ในปัจจุบันพบว่าเป็นสารที่ ทา�ให้มีการเกิดอนุมูลอิสระลดลง และชะลอ การตายหรือสูญเสียของเซลล์ได้ ในธรรมชาติ สารโพลีฟีนอลส์ เหล่านี้พบได้ในสารอาหาร ต่าง ๆ หลายประเภท เช่น เหล้า องุ่นแดง ชาเขียว ชาดา� กาแฟ ผลไม้ตระ กูลเบอรี่ (berries) ไซตรัส (ผลไม้กลุ่มส้ม มะนาว เกรปฟรุต เป็นต้น) ซึ่ง สารเหล่านี้ต่างมีข้อมูลจากการค้นคว้าวิจัยและการศึกษามากมาย โดย อ้าง ว่ามีคุณสมบัติในด้านการส่งเสริมความจา�ของคนเราได้ด้วย แต่อาหารหรือ เครื่องดื่มเหล่านี้ล้วนมีส่วนประกอบของโพลีฟีนอลส์ที่แตกต่างกันทั้งทาง ด้านปริมาณ คุณภาพและชนิดของสารเคมีต่าง ๆ
สารโพลีฟีนอลส์ ในปัจจุบันพบว่ามีส่วนประกอบหลายชนิด ได้แก่ flavonols, flavanols, flavanones, flavones, isoflavones, anthocyamins เป็นต้น สา�หรับส่วนประกอบที่มีชื่อเรียกว่า ฟลาวานอลส์(flavanols) ใน โกโก้ นั้นได้รับความสนใจมากที่สุด จึงมีการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับสารชนิด นี้ออกมามากมาย นอกจากนี้ยังพบว่า สารโพลีฟีนอลส์ นอกจากจะมี คุณสมบัติเป็นตัวต้านอนุมูลอิสระแล้ว ยังมีฤทธ์ิในการป้องกัน การเกิด ภาวการณ์แข็งตัวของหลอดเลือดแดงทั่วร่างกาย (atherosclerosis) ได้อีกด้วย โดยสารโพลีฟีนอลส์นี้มีคุณสมบัติท�าให้ ระดับของค่า คอเลสเตอรอลตัวร้าย (bad cholesterol) คือ low density lipoprotein (LDL) ซึ่งคอเลสเตอรอลชนิดนี้จะไปพอกตัวและจับอยู่ที่ผนังของ หลอดเลือดแดงทั่วทั้งร่างกายและเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตของคนเราที่ สา�คญัยิ่งคือ เกิดจากโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน, โรคหลอดเลือดสมองตีบ, (อัมพฤกษ์อัมพาต) และโรคหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน ซึ่งพบได้ บ่อยมากในประชากรทั่วโลก นอกจากนี้ ยังพบว่า สารโพลีฟีนอลส์ เหล่า นี้ยังมีฤทธ์ิทา�ให้เกิดการยับยั้งของการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดซึ่งเป็นสาเหตุ สา�คัญของการเกิดการอุดตันของหลอดเลือดแดง และทา�ให้เกิดโรคหลอด เลือดแดงผิดปกติทั่วร่างกายตามมาอีกด้วย ผลของโกโก้ต่ออารมณ์และจิตใจ
ความรู้เรื่อง โกโก้ และ ช็อกโกแลต ที่ก่อให้เกิดผลดีต่อสุขภาพทั้ง ทางด้านจิตใจและอารมณ์ของมนุษย์นั้น เราทราบกันมานานแล้ว โดยนัก วิทยาศาสตร์พบว่า โกโก้ มีสารเคมีที่มีคุณสมบัติทา�ให้สมองมีการ หลั่งสาร เคมีที่ดี และ เกิดมีความสุข ออกมาเป็นจา�นวนมาก อันได้แก่ สารโดปา มีน(dopamine) และ สารเซโรโทนิน(serotonin) จึงทา�ให้คนเรามีอารมณ์ ดีและมีความสุขหลังได้ดื่ม โกโก้ ดังนั้น โกโก้ จึงมีคุณสมบัติในการป้องกัน และรักษาการเกิดอาการซึมเศร้าซึ่งเกิดจากการที่สมองขาดสารเซโรโทนิน และการดื่ม โกโก้ ยังทา�ให้สามารถยกระดับอารมณ์ของคนเราให้ดีขึ้น และ มีความสุขเพราะมีการเพิ่มขึ้นของสารโดปามีนในสมองนั่นเอง ในอดีตชน ชาวเผ่ามายา (Maya) ต่างรู้จัก โกโก้ ดีในด้านคุณสมบัติที่ทา�ให้เกิดความ สุข สดชื่น ปีติและอารมณ์ดี จึงนิยมใช้ดื่มกันมาตลอดตั้งแต่ในครั้งอดีตกาล
นอกจากนี้ยังพบว่าใน โกโก้ ยังมีส่วนประกอบของ สารกาเฟอีน (Caffeine) ที่มีมากในกาแฟร่วมด้วย แต่พบกาเฟอีนใน โกโก้ ที่ปริมาณ น้อยมาก กล่าวคือ50 กรัมของช็อกโกแลตจะมีกาเฟอีนราว10-60 มิลลิกรัม เท่านั้น แต่ในขณะที่หนึ่งถ้วยชาของกาแฟ (ปริมาณราว 5 ออนซ์) จะมี กาเฟอีนสูงถึง 180 มิลลิกรัม.