สู่ดินแดนมหัศจรรย์
ลมหนาวเข้ามาทักทายเมืองไทยหลายวัน แล้ว ก็เหมือนทุกปี จะต้องมีเพื่อนคนใดคนหนึ่งชอบ ถามผมว่า “หนาวนี้ควรไปเที่ยวที่ไหนดี” ที่ถามก็ด้วยความเชื่อมั่นว่า ผมจะช่วยแนะนำา เขาได้ เพราะเคยอ่านข้อเขียนของผมที่เดินทางไปโน่น ...นี่..นั่น ทั้งปี
ผมไม่อยากขัดศรัทธาเพื่อน ผมจึงแนะนำาไป ทุกปีกับทุกคน
สำาหรับปีนี้ ถ้าจะแนะนำาแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อ เสียงอยู่แล้ว คงไม่น่าสนใจเพราะเป็นเรื่องธรรมดาเกิน ไป แต่จะหาแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่แนะนำาก็ไม่ใช่ง่าย
บังเอิญผมนึกขึ้นได้ว่าเมื่อไม่นานมานี้ ผมได้มี โอกาสติดตาม คุณทศพร นุชอนงค์ อธิบดีกรม ทรัพยากรธรณีไปอีสาน ชื่อฟังแล้วน่าสนใจว่า
“เวียงเก่าหุบเขาไดโนเสาร์ มหัศจรรย์ อุทยานธรณีขอนแก่น”
การเดินทางไปกับกรมทรัพยากรธรณีครั้งนี้ ได้ ทั้งความรู้ ความสนุก ที่สำาคัญกว่าอย่างอื่นหมดก็คือเป็น แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่คนส่วนใหญ่ไม่เคยไปเห็น เช่น
แหล่งขุดพบไม้กลายเป็นหินที่มีมากที่สุดใน ประเทศไทย ลานหินรอยตีนไดโนเสาร์ ซากดึกดำาบรรพ์ กระดูกไดโนเสาร์สกุลใหม่ของโลก ผาชมตะวัน นำ้าตก ตาดฟ้า และ หินช้างสี
แต่ละแห่งข้างต้นนี้ ผู้อ่านและไม่ได้อ่านบางคน อาจจะงงว่า หินช้างสีเป็นยังไง ไม่เป็นไร อ่านต่อไปจนจบ แล้วจะรู้เอง
ผมจะแนะนำาแหล่งท่องเที่ยวแต่ละแห่งตาม ลำาดับดังนี้
ปกติ เท่าที่ผมเคยเห็น ไม้กลายเป็นหินมากที่สุด อยู่ที่พิพิธภัณฑ์ของจังหวัดนครราชสีมา ก็รู้สึกตื่นเต้นกับ จำานวนไม้เหล่านั้น
แต่พอได้มาเห็นไม้กลายเป็นหินที่ตำาบลสาวะถี เป็นกิจกรรมธรณีสัญจร ที่ตั้ง ดินแดน อำาเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น ให้รู้สึกตื่นเต้นยิ่งกว่า ที่ตื่นเต้นก็เพราะว่ามีไม้ที่กลายเป็นหินอยู่ในบริเวณ เดียวกันในเนื้อที่กว้าง
ต้นไม้ที่กลายเป็นหินมีจำานวนหลายสิบต้น ยาว ตั้งแต่ 3 เมตร ไปจนถึง 17 เมตร ต้นใหญ่ที่สุดมีเส้นผ่าศูนย์กลางถึง 2 เมตร ทั้งต้นเล็กต้นใหญ่ นอนเกลื่อนอยู่ในดิน นาน เป็นแสน ๆ ปี
แหล่งต้นไม้กลายเป็นหินที่นี่ ทางการไม่ได้ตั้งใจ ขุดหาโดยตรง แต่เกิดจากผู้รับเหมาถมดิน มาขุดเอาดิน ไปถม จึงได้พบเศษเล็กเศษน้อยของไม้กลายเป็นหิน และ เมื่อเจ้าหน้าที่มาสำารวจดูจึงได้รู้ว่ามีต้นไม้กลายเป็นหิน จำานวนมาก ที่บางส่วนจมอยู่ในดิน
สถานที่แห่งนี้จึงถือเป็นซากดึกดำาบรรพ์ เป็น แหล่งที่มีคุณค่าต่อการอนุรักษ์ มีศักยภาพในการพัฒนา ให้เป็นแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยว
จากแหล่งต้นไม้กลายเป็นหินควรไปที่เทือกเขา ภูเวียง เพื่อชมรอยตีนไดโนเสาร์ที่ปรากฏบนลานหิน ก่อนเดินทางไปยังผาชมตะวัน เพื่อชมทิวทัศน์ยามเย็น
หากยังไม่เหนื่อยก็ให้เดินเท้าไปชมนำ้าตกดาดฟ้า ซึ่งเป็นนำ้าตกขนาดใหญ่ของเทือกเขาภูเวียง
วันแรกขอเพียงแค่นี้พอ รุ่งขึ้นอีกวันให้ไปที่หลุม ขุดค้นที่พบส่วนท่อนหางของไดโนเสาร์กินเนื้อชนิดใหม่ใน โลก หรือไม่ไปก็ได้ เพราะต้องเดินขึ้นเขาหลายร้อยเมตร
แต่ถ้าต้องการนั่งรถสบาย ๆ ควรไปที่พุทธ อุทยานถำ้าผาเกิ้ง ตั้งอยู่เชิงเทือกเขาภูเวียง เป็นวัดที่สร้าง ขึ้นมาใหม่
ในวัดมีมหาวิหาร สูง 3 ชั้น ชั้นบนจะมีพระพุทธ สัมฤทธ์ิพร องค์ใหญ่มาก หน้าตักกว้างถึง 19 เมตร สูง 26 เมตร ความสูงใหญ่ของพระพุทธรูปสามารถมองเห็น มาจากที่ไกล ๆ บริเวณรอบ ๆ มหาวิหารมีรูปปั้น พญานาคหลายตน
สุดท้ายอยากให้เผื่อเวลาไว้มาก ๆ ความงามของ หินช้างสี
ตอนแรก พอผมได้ยินชื่อนี้ก็นึกว่าจะต้องได้เห็น ช้างตัวเป็น ๆ แต่พอไปเห็นขึ้นมาจริง ๆ มีแต่หินขนาด ใหญ่มหึมาจำานวนหลายสิบก้อน
เรียกเป็นก้อนคงไม่ได้ เพราะแต่ละก้อนใหญ่เท่า ตึกหลายชั้นเลยทีเดียว แต่ถ้าไม่เรียกว่าก้อน ก็ไม่รู้ว่าจะ เรียกว่าอย่างไร
หินช้างสีแต่ละก้อน เป็นประติมากรรมทาง ธรรมชาติที่ธรรมชาติได้ตกแต่งผืนป่าบนภูเขาโดยให้มี หินขนาดใหญ่มหึมาประดับอยู่ห่างกันบ้างใกล้กันบ้าง อีก ทั้งหินแต่ละก้อนมีรูปร่างหน้าตาแปลก สุดแล้วแต่จะ จินตนาการให้เป็นรูปอะไร ศิลปินน่าจะไปที่หินช้างสีเพื่อ วาดรูป ก็คงจะได้งานที่แปลกแหวกแนว
ที่มาของชื่อหินช้างสีก็เพราะว่า แต่เดิมเป็นป่า มีช้างอาศัยอยู่เป็นจำานวนมาก โดยพบโป่งดินที่มีรอยแทะ กินของสัตว์ ที่มีรอยโคลนดินและขนของช้างติดอยู่ จาก การเสียดสีผิวหนังของช้างป่า จึงเป็นที่มาของชื่อ หิน ช้างสี เพื่อไปชม
บริเวณที่ว่านี้ ไม่ได้มีแต่ประติมากรรมหิน ขนาดใหญ่เท่านั้น แต่จะมีโป่งธรรมชาติ นำ้าในโพรงหิน และภาพเขียนสีก่อนประวัติศาสตร์ด้วย
ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งคือ บริเวณที่เป็นจุดสูง สุดของภูเขาลูกนี้มีก้อนหินขนาดใหญ่ คล้ายหัวกะโหลก ตั้งโดดเดี่ยว ท้าลมท้าแดดให้ได้เห็นมาจากที่ไกล ๆ
ถ้ายืนอยู่ที่ลานหินรอบหินคล้ายหัวกะโหลก จะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ไปยังผืนป่าเบื้องล่าง และ อ่างเก็บนำ้าของเขื่อนอุบลรัตน์จนสุดสายตาที่เทือกเขา ภูเวียงและภูเก้า แล้วยังสามารถมองเห็นตัวเมือง ขอนแก่นอยู่ไกลลิบด้วย
หากผู้ใดมายังจุดชมวิวที่หินช้างสีตั้งแต่เช้าตรู่ ก็จะเห็นทะเลหมอกที่สวยงาม ไม่แพ้ที่อื่น ๆ ในฤดูหนาว ของประเทศไทย
ผมจึงรู้สึกภูมิใจที่สามารถแนะนำาเพื่อน ๆ ให้ได้ไปเที่ยวยังแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของ ขอนแก่นซึ่งเหมือนเป็นดินแดนมหัศจรรย์ เพราะทุก อย่างที่ได้ไปเห็นมีอายุเป็นแสนเป็นล้านปีทั้งนั้นจะ บอกให้.
ไมตรี ลิมปิชาติ