เอื้อพวกพ้อง

ไม่ รู้มีใครสังเกตกันบ้างหรือเปล่า ในยุค “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” ดา�รงตา�แหน่ง นายกรัฐมนตรี ข่าวคราว ที่เกี่ยวข้อง กับผู้มีอ�านาจในรัฐบาล ไปหาประผลประโยชน์ จ้องกินเปอร์ เซ็นต์จากโครงการต่าง ๆ ไม่ค่อยมีให้ได้ยิน

เหมือนดั่งสา�นวนที่ว่า ’เมื่อหัวไม่ส่าย หางไม่กระดิก“เช่นเดียวกัน กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ในหน่วยงานราชการ แม้จะมีข้อสงสัย มีข้อท้วงติง ก็เดินหน้าตรวจสอบกันไป วัน นี้ไม่มีใครหนีพ้น จากกระบวนการตรวจสอบ แถมยังได้นัก การเมือง เข้ามาคอยตรวจสอบอีกชั้นหนึ่ง ต้องบอกว่าใครใช้ อา�นาจไม่ถูกต้อง วันใดวันหนึ่งข้อเท็จจริงต่าง ๆ ย่อมถูกเปิดเผย ออกมา

อย่างเช่นเรื่องร้องเรียน ให้ตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ ของ เจ้าหน้าที่ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จา�กัด (มหาชน) หรือ PTTGC กรณีการจัดซื้ออุปกรณ์โรงกลั่น ในราคาแพงแต่ ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่ง ส่งถึงฝ่ายบริหารบริษัทเมื่อปลายปีที่ผ่าน มา ประเด็นร้องเรียนคือ มีเจ้าหน้าที่ PTTGC อย่างน้อย 2 คน ชื่อย่อ “ส” ร่วมกันเอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องของตนเอง

ส่วนวิธีการที่ใช้หาประโยชน์คือ 1.ก�าหนดสเปกสินค้า เอื้อประโยชน์พวกพ้อง ทั้ง ๆ ที่บริษัทนั้นไม่มีสต๊อกสินค้า โดยไปกีดกันผู้ค้ารายอื่น ทา�ให้ขณะนี้อุปกรณ์ที่ใช้อยู่มีคุณภาพ ต า่� ผลิตจาก ไต้หวัน จีน และ อินเดีย 2.กา�หนดสเปก มีผลต่อ คุณภาพสินค้า PTTGC ต้องตั้งงบประมาณค่าซ่อม เป็นการ เพิ่มภาระต้นทุนค่าใช้จ่ายให้กับบริษัท

3.มีข้อมูล PTTGC จ่ายเงินล่วงหน้า 50% ให้กับบริษัท ผู้ค้า โดยที่ยังไม่ได้รับสินค้าจากใบสั่งของ 4. ให้คนใกล้ชิดตั้ง บริษัท หากสินค้าใดที่ผ่านการทดสอบจากบริษัทนี้ จะไม่มี ปัญหาการตรวจรับสินค้า ในทางตรงข้ามหากเป็นสินค้าที่บริษัท นั้นไม่อยู่ในเครือข่ายตัวเอง จะไม่ผ่านการทดสอบ

หรือทดสอบสินค้าไม่เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานสากล API (American Petroleum Institute) โรงกลั่นเกือบทั่วโลก ยึดตามมาตรฐานนี้ ปรากฏว่า ในเวลาต่อมาได้เปลี่ยนแปลงชื่อ ผู้ถือหุ้น

ที่น่าดีใจคือ ผู้บริหารของบริษัทพีทีทีฯ ให้ความสนใจ กับข้อร้องเรียนต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น “นายอดิศร วิชัยขัทคะ” ผู้ จัดการฝ่ายหน่วยงานตรวจสอบภายใน บริษัท พีทีทีฯ เปิดเผย ว่า ได้รับเรื่องร้องเรียนแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการรวบรวม หลักฐานต่าง ๆ พร้อมทั้งเชิญผู้ร้องเรียน ให้เข้ามาให้ข้อมูลเมื่อ ต้นเดือนที่ผ่านมา จากนั้น จะให้ฝ่ายถูกร้อง มาชี้แจง ขอเวลา ให้บริษัทด า�เนินการตามขั้นตอน

“เราจะเอาข้อร้องเรียนมาดูว่า มีประเด็นใดบ้าง จากนั้น จะสืบหาเอกสารหลักฐาน และสืบพยานบุคคล ว่า ข้อเท็จจริงมี มูลหรือไม่ กรณีมีมูล จึงจะเสนอตั้งกรรมการสอบสวน ซึ่งเป็น ไปตามหลักทั่วไปของบริษัท หรือหน่วยงานราชการที่ด�าเนิน การแบบเดียวกันนี้ หากกรณีกรรมการสอบสวนมีมติอย่างใด แล้ว จะเสนอผู้บังคับบัญชา” นายอดิศร กล่าว

ส่วนกรณีที่ทุจริต บริษัทมีบทลงโทษว่ามีความผิดสถาน ใด มีโทษ ขนาดไหน จึงจะท�าเรื่องเสนอผู้บังคับบัญชาให้ ลงโทษตามหลักฐานความผิดนั้น นายอดิศร ยอมรับว่า ผู้ บริหารทุกคนของบริษัททราบเรื่องนี้แล้ว แต่ข้อร้องเรียนต้อง พิจารณาเป็นขั้นเป็นตอนไป

จากนี้ไป คงต้องรอบทสรุป การตรวจสอบการจัดซื้อ อุปกรณ์โรงกลั่น ว่า มีปัญหาเรื่องคุณภาพ มีราคาแพงเกินหรือ ไม่ เชื่อเถอะตรวจสอบได้ไม่ยาก ถึงต้องบอกว่า วันนี้เป็นการ สื่อสารในยุคดิจิตอล ใครทา�อะไรไว้ปิดบังไม่ได้หรอก

สา�คัญที่สุดเมื่อกระบวนการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว ต้อง ชี้แจงให้สาธารณชนได้รับทราบด้วย ในอนาคตจะได้หาทาง ป้องกัน ไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นมาอีก.