สั่งทา�แผนแก้อุทกภัย
(ตร.) พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า ได้มอบหมาย พล.ต.อ.ปัญญา มาเม่น จเรตำารวจแห่งชาติ (จตช.) ลงไปตรวจสอบ ความเป็นมาเรื่องนี้ ขอเวลาเจ้าหน้าที่ทำางาน ก่อนเรื่องนี้กำาลังจะเริ่มแล้ว
ส่วนพล.ต.อ.ปัญญา กล่าวว่าตนลงไป ตรวจสอบเพราะเป็นห่วงกระบวนการยุติธรรม ทั้งระบบ รวมถึงตำารวจที่ถูกกล่าวหา จึงไป ตรวจสอบว่าทำาถูกต้องหรือไม่จากการลงไปที่ ภ.จว.นครพนม รับรายงานจาก ภ.จว.นครพนม และบช.ภ.4 พบว่าการทำาคดีนี้เมื่อปี 48 การ ปฏิบัติงานทั้งของฝ่ายสอบสวน นิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงผู้บังคับบัญชาระดับต่าง ๆ ในตอนนั้น ทำาอย่างครบถ้วน ถูกต้องตามระเบียบ จนมีการ ลงโทษในคดีนั้น เมื่อมีความพยายามรื้อฟื้น คดีโดยอ้างว่านางจอมทรัพย์ เป็นแพะ มีนาย สับ วาปี รั บว่าเป็นคนขับรถชน มารับผิดแทน พบมีการดำาเนินการที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย หลายอย่าง
ในชั้นนี้จะให้ บช.ภ.4 ดำาเนินการร้อง ทุกข์กล่าวโทษ รับเลขคดีคาดว่าทำาได้ภายใน วันนี้เพื่อดำาเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่ เกี่ยวข้องการกระทำาผิดเชื่อว่าภายใน 2 วัน ทุก อย่างจะกระจ่างขึ้นซึ่งการร้องทุกข์กล่าวโทษจะ มีทั้งในส่วนที่ให้การไม่ตรงกับความจริงการได้ พยานหลักฐานบางส่วนที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้อง และยังตรวจสอบพบขบวนการรับจ้างรับผิด โดยผู้เสียหายในชั้นนี้เป็นตำารวจ ที่ได้รับฟัง ข้อมูลและลงบันทึกประจำาวัน ย้ำาว่าไม่ใช่เรื่อง ของการหมิ่นประมาทแต่เป็นเรื่องของการพบ ขบวนการ ในการกระทำาผิดตรงนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่าพบนางจอมทรัพย์ สมอ้างตัวเองเป็นแพะในคดีหรือเข้าไป เกี่ยวข้องกับการว่าจ้างขบวนการนี้หรือไม่ พล.ต.อ.ปัญญา กล่าวว่าในชั้นนี้ยังไม่แน่ใจว่า นางจอมทรัพย์ ไปร่วมเกี่ยวข้องหรือไม่เพราะ ว่าคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการนี้ เราได้ ข้อมูลมาว่าเป็นกลุ่มที่ดำาเนินการในเรื่องนี้อยู่ แล้ว อย่างไรก็ตาม ในข้อเท็จจริงตามที่ศาลฎีกา พิพากษาไปตอนนี้นางจอมทรัพย์ยังถือว่าเคย เป็นผู้กระทำาผิด เบื้องต้นยังคงสืบสวน สอบสวนความเกี่ยวข้องของนางจอมทรัพย์กับ ขบวนการนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าเกี่ยวข้อง หรือไม่ อย่างไร เรายังไม่อยากกล่าวหานางจอม ทรัพย์ตราบใดที่พยานหลักฐานยังไม่ชัดเจน ตอนนี้ยังอยู่ในชั้นของการตรวจสอบแต่ในชั้น นี้มั่นใจว่านายสับ ที่สมอ้างว่าเป็นคนขับรถชน เป็นการออกมารับแทน ส่วนที่ศาลพิพากษาไป แล้ว เรื่องนี้มีการสมอ้างรับผิดแทนและมี ขบวนการที่ได้รับประโยชน์
แต่ยำ้าว่าไม่อยากฟันธงไปถึงความ เกี่ยวข้องกับนางจอมทรัพย์ กับขบวนการ เนื่องจากยังไม่มีพยานหลักฐานยืนยันรวมถึงเหตุ จูงใจที่เอาตัวเองเข้าไปเกี่ยวข้อง วันนี้เราจะสอบ ปากคำาอดีตส.ว.มุกดาหาร คนหนึ่งในฐานะพยาน หลังศาลฎีกาพิพากษาแล้ว มีบุคคลเข้ามาติดต่อ กับส.ว.ท่านนี้ขอให้รับเป็นทนายคดีนี้ แต่ส.ว.ไม่ รับงานนี้ มีการเสนอว่าจ้างราคาประมาณ 2-3 แสนบาท เท่าที่พบตอนนี้มีคนเข้ามา เกี่ยวข้องและอาจต้องแจ้งข้อกล่าวหา ประมาณ6 คน ยังไม่รวมนางจอมทรัพย์ส่วนจะ สอบนางจอมทรัพย์ เป็นพยานหรือไม่ ยังไม่ จำาเป็นต้องใช้หลักฐานตรงนี้แต่กำาลังตรวจสอบ อยู่ รวมถึงยังไม่ต้องสอบนายวันชัย
จเรตำารวจ กล่าวอีกด้วยว่า ส่วนเหตุ จูงใจยังชี้ไม่ได้ชัด จะบอกว่าเพื่อดิสเครดิต องค์กร คงไม่ต้องทำาขนาดนั้นอย่างไรก็ตามจาก การสืบสวนพบว่าขบวนการดังกล่าวทำาแบบนี้ มาหลายครั้งในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บางคดีสำาเร็จ บางคดีมีปัญหาเกี่ยวพันร้องเรียน ภายหลังบางคดีพยายามทำาก็ไม่สำาเร็จ มีการอ้าง เป็นแพะ มีคนรับผิดแทน คอยดูว่ามีคดีไหนมี ช่องทางจะเข้ามาได้จะไปติดต่อรับงาน ทั้งนี้ ภาวนาให้นางจอมทรัพย์เป็นเพียงเหยื่อของ ขบวนการนี้ย้ำาว่าเราไม่มีเจตนาทำาร้ายฝ่ายใด เพราะไม่รู้จักใครเป็นการส่วนตัว อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน พล.ต.ท.มนู เมฆหมอก ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้ลงพื้นที่ติดตามคดีแล้ว
ทางด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบ แห่งชาติ (คสช.) กล่าวในเรื่องดังกล่าวว่าขอ ให้ฟังเหตุผลก่อนว่าเป็นอย่างไร อย่าเพิ่งไป เขียนว่าเป็น “ครูแพะ” หรือตัดสินทันทีว่าใคร ผิดใครถูกแม้เขาได้รับโทษจำาคุกไปแล้ว แต่ก็ ต้องไปดูสำานวน พยานหลักฐานหรือพยาน บุคคลว่าเป็นอย่างไรบ้าง ถ้าพิสูจน์ได้ว่านาง จอมทรัพย์เป็นฝ่ายถูกก็ต้องได้รับการเยียวยา อย่างเหมาะสม และกลับไปรับราชการครูต่อไป นอกจากนี้อย่าสร้างกระแสกล่าวโทษตำารวจ เนื่องจากตอนนี้ยังไม่มีการตัดสินใด ๆ จึงต้อง รอให้ตัดสินชัดเจนว่าเป็นแพะหรือแกะ ไม่ใช่ อะไร ๆ ก็ไปกล่าวหาตำารวจทั้งหมด.