ช้างแอฟริกา
นักอนุรักษ์มีความหวังกับรายงาน เรื่องการเพิ่มขึ้นของจ�านวนประชากรช้าง แอฟริกา และอัตราการล่าที่ลดลง อันเป็น ผลมาจากความพยายามของหน่วยงานที่เกี่ยว ข้อง ซึ่งดูเหมือนจะเป็นสัญญาณที่ดี รวมถึง การออกกฎหมายที่เข้มงวดในหลายประเทศ เพื่อยับยั้งการค้าอันเป็นแรงกระตุ้นให้เกิด การล่า
หนึ่งในโครงการที่เผยให้เห็นความคืบ หน้าสา�คัญคือปฏิบัติการในเขตอนุรักษ์เซโลส กาเมของแทนซาเนีย พื้นที่ที่เรียกได้ว่าเป็น “กราวนด์ ซีโร่” ของการล่า ซึ่งหมายความ ว่านี่คือจุดหนึ่งที่เกิดการล่าอย่างรุนแรงมาก ที่สุดของแอฟริกา
ทีมงานได้ใช้เวลาร่วมปีในการใส่ ปลอกคอติดตามตัวด้วยระบบจีพีเอสซึ่งมีน้า� หนักราว 12 กิโลกรัม ให้กับช้าง 60 ตัว ทั้ง ในและพื้นที่โดยรอบเขตอนุรักษ์แห่งนี้ ซึ่ง หากสามารถควบคุมการล่าในแทนซาเนียได้ ก็ยังพอมีหวังได้ว่าจะยับยั้งการล่าที่เกิดขึ้นใน บริเวณอื่นของแอฟริกาได้
อย่างไรก็ตาม แม้จ�านวนการล่าดู เหมือนจะลดลงขณะที่จา�นวนประชากรช้าง เพิ่มขึ้นในเขตอนุรักษ์แห่งนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญ มองว่า มันยังคงเร็วไปที่จะกล่าวได้ว่าสถาน การณ์ได้กลับพลิกฟื้นคืนมาแล้ว เพราะนักล่า ได้เปลี่ยนเป้าหมายย้ายท�าเลไปที่อื่น ขณะ เดียวกันก็ยังมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการล่า เพื่อหลีกเลี่ยงกฎหมาย โดยได้อานิสงส์ของ ช่องโหว่ที่เกิดจากการทุจริต
อัตราการสูญเสียยังคงล้�าหน้าอัตรา การเกิดใหม่อยู่ไกลโข นอกจากนี้ ถิ่นที่อยู่ อาศัยของช้างยังถูกรุกรานอย่างหนักจากการ ขยายพื้นที่ตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ คริส โธเลส ผู้เชี่ยวชาญจากองค์กรเซฟดิเอเลเฟ่นใน เคนยาซึ่งเป็นประเทศที่มีจ�านวนประชากร ช้างเพิ่มขึ้น กล่าวว่า ยังอีกไกลกว่าจะถึงจุด ที่จะพอวางใจได้
หลายประเทศยกระดับมาตรการทาง กฎหมายเพื่อเข้มงวดเรื่องการลักลอบค้าสัตว์ ป่า โดยเฉพาะกลุ่มงาช้างและนอแรด โดย สหรัฐได้มีการแบนงาช้างมาตั้งแต่ปี 2559 ยกเว้นชิ้นที่มีอายุเกินกว่า 100 ปี ขณะที่จีน และอังกฤษห้ามไม่ให้มีการค้าขายงาช้าง
ประชากรช้างในแอฟริกาลดลงจาก จา�นวนหลายล้านตัวเมื่อช่วงปี 2443 มาอยู่ที่ อย่างน้อย 415,000 ตัว ในปัจจุบัน กฎหมาย ห้ามไม่ให้มีการค้าขายงาช้างในเชิงพาณิชย์ ระหว่างประเทศเริ่มน�ามาบังคับใช้เมื่อราวปี 2533 แต่การค้าขายงาช้างภายในประเทศบาง ประเทศยังคงกระทา�ได้
หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลต่อการเติบโต ของการล่า คือความต้องการของตลาดงาช้าง ในจีน รายงานระบุว่า ช้างสะวันนาแอฟริกา ลดจา�นวนลงราวร้อยละ 30 ระหว่างปี 25502557 มาอยู่ที่ราว 352,000 ตัว ส่วนใน แทนซาเนีย ข้อมูลจากรัฐบาลเผยว่า ประชากร ช้างลดลงร้อยละ 60 มาอยู่ที่ 43,000 ตัว ระหว่างปี 2552-2557 โดยการล่าส่วนใหญ่ เกิดขึ้นในเขตเซโลสและมิคูมิ
อย่างไรก็ตาม มีรายงานว่าอัตราการ ล่าชะลอตัวลง โดยจ�านวนของเมื่อปีที่แล้ว มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 20 ของตัวเลขเมื่อ 4 ปีก่อน ขณะที่ในภาพรวมของการล่าช้าง แอฟริกา อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่าง ประเทศเกี่ยวกับชนิดพันธ์ุพืชป่าและสัตว์ป่า ที่ใกล้สูญพันธ์ุ หรือไซเตส เผยว่า ตัวเลขลด ลงไปอยู่ในระดับเดียวกับเมื่อช่วงก่อนปี 2551 ก่อนที่มันจะพุ่งถึงจุดสูงสุดในปี 2554
แม้จะเป็นแนวโน้มที่ดี แต่ผู้เชี่ยวชาญ ชี้ว่า นั่นเป็นผลมาจากการที่จา�นวนช้างเหลือ ไม่มากพอสา�หรับการล่า ในภูมิภาคเซโลสของ แทนซาเนีย ช้างบางกลุ่มขยายพื้นที่หากินออก ไปไกลเกินกว่าบริเวณที่เป็นพื้นที่คุ้มครอง ซึ่ง ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่พวกมันจะถูกล่า
ขณะเดียวกัน ความเข้มงวดของ กฎหมายที่เพิ่มขึ้นทุกวันกลับยิ่งท�าให้เกิด การกักตุนสินค้า และยังมีการปรับเปลี่ยนรูป แบบการค้า โดยเฉพาะในส่วนของงาช้างที่ถูก แปรรูปเป็นเครื่องประดับชิ้นเล็กซึ่งทา�ให้ยาก ต่อการตรวจจับ
ถึงกระนั้น พื้นที่ป่าอันกว้างใหญ่ของ แทนซาเนียนับเป็นหนึ่งในความหวังและ อนาคตของสัตว์สายพันธ์ุนี้ เอ็ดวาร์ด โคฮี จากสถาบันวิจัยสัตว์ป่าแทนซาเนีย กล่าวว่า มันจะกลายเป็นเขตอนุรักษ์ช้างที่ส�าคัญใน อนาคตอีก 50-100 ปี นับจากนี้ ซึ่งอัตรา การเติบโตของประชากรมนุษย์เพิ่มสูงอย่าง รวดเร็ว.