ฉากขายคือการถอดหัว ทำ� การบ้านเป็นพิเศษยังไง?

ปได้สวยกับการแสดงสำ�หรับ มิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ 2559 ที่ตอนนี้กำ�ลงัโชว์ฝีมือใน ละคร ทางช่อง 8 ด้วยบทบาทสุดท้าทาย กับการเป็นนางเอกเต็มตัวครั้งแรก แถมยังกอบโกยเสียงชื่นชมในการ แสดงเพียบ วันนี้ เลยไม่พลาดนัดสาวคนนี้มาพูดคุยแบบ สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ทั้งเรื่องการแสดงที่เธอทุ่มเท รวมถึงดราม่าต่าง ๆ ตั้งแต่ วันแรกที่เธอก้าวรับตำ�แหน่ง มุมมองการใช้ชีวิต คติที่เธอยึดถือและทำ�ให้ เธอก้าวผ่านอุปสรรคต่าง ๆ จนทำ�ให้กลายเป็นนํ้าตาลในวันนี้ได้ นอกจาก นี้ยังอัพเดทเรื่องหัวใจ ที่เจ้าตัวยังรอหนุ่มในฝันด้วย

“รู้สึกท้าทายและเป็นอะไรที่ยากมาก เพราะเป็นเรื่องแรกที่ ต้องทำ�ทกุอย่างจริง ๆ ทั้งเป็นผี ซีนอารมณ์ ครบทุกรสและความรู้สึกตัว ละคร ตาลก็เตรียมตัวมารับบทครั้งนี้เยอะพอสมควร เรียนการแสดงเพิ่ม เติม ในเรื่องแสดง 2 คาแรกเตอร์ สำ�หรับพาร์ทอดีตเราเป็น “สาวิตรา ณี” ที่เป็นผู้หญิงที่กัดฟันสู้สุดใจขาดดิ้น เป็นผู้หญิงแกร่ง ส่วนพาร์ท ปัจจุบันรับบท “นลิน” เป็นผู้หญิงที่ยึดมั่นในความรัก โลกสวย 2 คาแรก เตอร์นี้มีความยากง่ายต่างกัน ด้วยความที่ฉากอดีตแสดงอารมณ์เยอะ เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของการโดนสาป เลยต้องแสดงอารมณ์ให้ชัดเจนมาก ส่วนใหญ่เล่นด้วยสีหน้าแววตา ส่วนพาร์ทปัจจุบันจะยากในอารมณ์ที่ต้อง เป็นผู้หญิงลึกลับ เพราะว่ารู้ว่าตัวเองเป็นกระสือ ก็พยายามปิดบังตัวเอง”

“วันที่ถ่ายถอดหัวครั้งแรก เราใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง ตาล ต้องถ่ายทอดความทรมาน ซึ่งเราไม่รู้ว่าความรู้สึกกระสือเวลาถอดหัว รู้สึกยังไง (ยิ้ม) แต่มันคงจะเจ็บมาก เราเลยต้องถ่ายทอดความทรมาน นั้นออกไป ส่วนเรื่องอาถรรพณ์ตาลไม่แน่ใจว่าเจอรึเปล่า แต่ฉากแรกที่ เราต้องถอดหัวนั้นตากล้องต้องถ่ายโคลสอัพเรา เพื่อให้เห็นสีหน้า เรา นอนรอถ่ายทำ�แล้วรู้สึกว่าทำ�ไมเหมือนมีอะไรจะหล่นใส่หน้าเรา ตาลเลย ตัดสินใจหันอีกด้าน แล้วเหล็กที่แขวนอยู่ตรงนั้นก็หล่นผ่านหูเราเลย ตกใจ มาก ไม่มีสติเลย และมีอีกฉากที่เราไปถ่ายทำ�ทปี่ราสาทเมืองสิงห์ ก็มีพี่ พีอาร์ถ่ายติดกลุ่มควัน เราไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ใช่ เราโฟกัสที่การแสดง ณ ตรงนั้น เพราะเป็นฉากอารมณ์ที่ต้องสื่อถึงมาก ส่วนตัวด้วยความที่ตาล เป็นคนไทย ก็เชื่อเรื่องเหล่านี้บ้าง เพื่อความสบายใจเรา แต่การมารับ บทกระสือตาลไม่กลัวเรื่องอาถรรพณ์ เพราะเราจะไหว้ขอขมาตลอด ไม่รู้ ว่าเราได้ทำ�อะไรผิดรึเปล่าและเราก็อยากให้เวลาถ่ายทำ�ทกุอย่างราบรื่น” เป็นเสาหลักของบ้าน ก็ต้องทำ�ให้เต็มที่”

“ช่วงรับตำ�แหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์แล้ว และมีคน มาด่าเรามาก ๆ คือเราไม่เคยอยู่ในวงการบันเทิงมาก่อน ไม่รู้ว่าต้องทำ�ตวัยังไง ก็รู้สึกว่าทำ�ไมคนเราถึงไม่ให้เวลา คน สิ่งเหล่านี้มันควรให้โอกาสเขาพัฒนาเปลี่ยนตัว เองให้ดีขึ้น ได้แต่คิดตอนนั้นว่าทำ�ไมเขาต้องด่าหนู ขนาดนี้ ทั้งที่ยังไม่เคยทำ�อะไรให้เขาเลย และเรา ไม่รู้จักกันด้วยซํ้า ตอนนั้นเครียด ร้องไห้ พี่นุ่มบอก ว่าถ้าไม่ไหวก็คือสละตำ�แหน่งไปเลย แต่พอมา คิดถึงสิ่งที่เราทำ�มากับเขาและเราก็ทำ�มาขนาดนี้ แลว้จะยอมแพเ้หรอ จะทิง้โอกาสตวัเองทำ�ไม กเ็ลย สู้ใหม่ ทำ�ทกุวันให้ดีให้เขาเห็น ก็กลายเป็นเราสามารถ พิสูจน์ตัวเองให้คนเห็นได้ และเชื่อมั่นในตรงนี้ว่าเวลาที่ เราทำ�เต็มที่ ทุกคนจะเห็นโดยที่เราไม่ต้องพูดค่ะ”

“ใช่ค่ะ เพราะมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ ความคิดและรสนิยมก็ต่าง กัน สิ่งเหล่านี้ทำ�ให้เรารู้จักคิดมากขึ้น เวลาทำ�อะไรก็ทำ�ให้เราคิดทบทวน หลายอย่างก่อนทำ� ส่งผลให้เราโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้น คิดก่อนพูดมากขึ้น ได้พัฒนา ตัวเองหลายอย่างในจุดที่ตัวเองยังบกพร่องค่ะ”

“ตาลเอาทุกอย่างมารวมกัน ด้วยความที่เราประกวดนางงาม การ ใช้ชีวิตคือต้องช่วยตัวเอง อดทน จริง ๆ ในทุกอาชีพอย่างแรกเลยคือต้อง อดทน เพราะต้องไปเจอคนหมู่มาก ไม่รู้เขานิสัยยังไง คิดกับเราแบบไหน ขอ แค่เราอดทน และตั้งใจทำ�ในทุกวันที่เราได้รับหน้าที่ ส่วนเรื่องโดนจับตาหรือ ถูกถามเรื่องส่วนตัว ตาลเริ่มชินแต่ไม่อยากใส่ใจมาก เพราะยิ่งใส่ใจมากก็จะ ท้อ ดูที่คนรอบข้างเรา เขาเห็นว่าเราไม่ได้เป็นอย่างคนอืน่พูด