คุณเรียนรู้อะไรจากการเอาความรู้สึกเป็นหลักมากจนหน้าที่อื่น ๆ ได้ รับผลกระทบ?
ห่างหายจากการปล่อยเพลงใหม่ให้แฟน ๆ ได้ฟังมาหลาย ปีสำ�หรับนักร้องหนุ่ม หรือ
วัย 29 ปี แห่งค่ายไวท์ มิวสิค ใน เครือแกรมมี่ ซึ่งแฟนเพลงของเขาถามไถ่เข้ามาบ่อย ๆ ว่าเจ้าตัว หายหน้าไปไหน ทำ�ไมถึงไม่มีผลงานต่อเนื่อง จนล่าสุดหนุ่มแอมมี่ กลบัมาอกีครงั้กบัผลงานเพลงใหมท่ชี่อื่วา่ ซงึ่ไดร้บั การตอบรับที่ดีจากแฟนเพลง รวมทั้งพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า แอมมี่มีการทำ�งานเพลงที่เติบโตมากขึ้นไม่น้อย แต่ยังคงเป็นศิลปินที่ทำ�งาน ด้วยมีจิตวิญญาณทางดนตรีเต็มเปี่ยม วันนี้ ไม่รอช้าคว้าตัวหนุ่ม แอมมี่มานั่งเปิดใจหมดเปลือกถึงชีวิต การทำ�งาน และที่สำ�คญัความรักครั้ง ใหม่เป็นอย่างไรบ้างติดตามได้ในบทสัมภาษณ์เลยค่า “ใช่ครับ ค่อนข้างนานเหมือนกัน หลังจากเพลง
ก็หายไปเลย ผมเป็นคนปล่อยเพลงไม่ค่อย ต่อเน่อืงน่ยีอมรับ (ย้มิ) เป็นความผิดตัวเองน่แีหละ จริง ๆ เพลงเรามีเพลงเตรียมไว้เยอะ แต่ร่างกาย จิตใจ นี่แหละที่ไม่พร้อม เพราะอย่างที่ทราบก่อนหน้านี้ก็มีเรื่อง ความรักที่ไม่สมหวัง ตัวผมเป็นประเภทแพทชั่นเป็นหลัก มองวา่ความรสู้กึนสี่�ำคญัทสี่ดุสำ�หรบัผม คอืวธิเีขยีน เพลงตามทฤษฎจีะมอียู่ 7-8 วธิี หนงึ่ในนนั้คอืการใช้
หรือ ในการทำ�เพลง คนที่สอนผม คือ พี่เขาเคยบอกว่าไม่ว่าคุณจะเขียนเพลงจากกลอน เรื่อง สนั้ คำ�คม อะไรกต็ามความรสู้กึคอืตวันำ�ทดี่ทีสี่ดุ เพราะมนษุยม์คีวามรสู้กึที่ สามารถส่งต่อถึงกันได้ เช่นเดียวกันว่าความรู้สึกของผมสามารถเปลี่ยนเป็นงาน ได้ผมก็ดีใจครับ”
“หลายคนพูดแบบนั้น แต่สำ�หรับผมก็แลกมาด้วยความทรมานนะครับ เพราะผมจะรู้สึกมากกว่าคนอื่น เวลารักก็จะรักมาก แต่งเพลงให้อยู่กับมันอย่าง แฮปปี้ แต่พอผิดหวังมันก็จมไปเลย บางคนบอกอย่าไปนึกถึงความเจ็บปวดนั้น แต่สำ�หรับผมเราอยากจะคว้าช่วงเวลานั้น ก็พยายามต้องหยิบความกล้าไปดึง เขากลับมา มันถึงออกมาเป็นเพลง “สมดั่งใจ” นั่นเอง”
“เวลาผมผิดหวังจากความรัก ก็จะไม่มีแรงเอาแต่นั่ง เงียบ ไม่อยากทำ�อะไร นี่เป็นส่วนหนึ่งที่งานเพลงใหม่ ๆ ไม่มี จนพี่อาร์มถามว่าจะออกเพลงใหม่เมื่อไหร่ เขารู้เวลาอะไร กระทบจิตใจเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ไปหมด จนทำ�งานไม่ได้ ผมเป็น ศิลปินมานาน แต่เรากลับเอาความรู้สึกไปจับจนงานไม่โอเค ผมเอาตัวเองเป็นที่ตั้ง พอผมหมดแรงก็หยุดทำ�งาน แต่จะไม่ ทำ�ตวัแบบนั้นแล้ว ผมต้องเรียนรู้ประสบการณ์ได้ซะที เราจะ เป็นคนแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ ความรักทำ�ให้ผิดหวัง แต่ผมไม่ควรจม ไปกับมัน จนเอาพลังงานตรงนั้นมาแต่งเพลงดีกว่า” คือ “เจสซ”ี่ ทมี่าเลน่ใหว้งผม หรอืผมกบัประณต เกท็สโึนวา่มา สร้างศิลปะร่วมกันอะไรทำ�นองนี้ ปีนี้ผมอายุ 29 ปีแล้ว ผิดพลาด บ้าคลั่งมาเยอะ แล้วเราควรโตได้แล้วครับ” พี่อาร์มบอกผมต้องเลี้ยงน้อง ๆ ให้ได้ ผมโตแล้วมีทีมงานของตัวเอง ต้องทำ�งาน หางานตอ่ยอดบรษิทั ดนตรคีวรจะเปน็แบบนี้ ตอนนีผ้มมคีวามสขุในการทำ�เพลง มาก เหมือนผมอยู่ในสนามเด็กเล่น ที่ให้เพื่อน ๆ ตักดินทรายมาเล่นกันได้หมด ไมม่คีวามกดดนัและเลกิคดิวา่เพลงตอ้งฮติเทา่นนั้ ขอถา่ยทอดเพลงในมมุมอง ตัวเองและหาตรงกลางให้ได้ดีกว่า ผมโชคดีเจ้านายเข้าใจในความเป็นผมครับ”
“หลายคนมองแบบน้นั คนไม่ชอบผมเยอะ มองว่าผมเป็นโรคร็อก สตาร์ซินโดรม ต้องเรื่องเยอะ แต่ผมต้องพิสูจน์มาหมดแล้ว ทำ�ไมเวลาแอมมี่ ไปเล่นคอนเสิร์ตต้องขนโคมไฟไปเอง ทำ�ไมให้ความสำ�คญักับสเตจ เรารู้เรา ต้องการอะไร ไม่ใช่เราไม่รับฟัง เราจะหว่านเมล็ดที่ดีให้วงการดนตรีได้ ดินที่ เราเตรียมเพื่อปลูกงานก็ต้องดีผมคิดแบบนี้ ศิลปินเริ่มออกมาคุยกัน ไปด้วย กันไปได้ไกล ทุกคนพี่น้องช่วยกันแบบนี้มากกว่า” “ผมแต่งเพลงแรกตอนผมอยู่ ม.1 จากนั้นจนปัจจุบันผมก็ยังอยู่กับ เพลงมาโดยตลอด แล้วคิดว่าเป็นสิ่งเดียวที่ทำ�ได้ดีด้วยนี่แหละเหมาะกับตัวเอง ที่สุด โชคดีที่เราเรียนจบบริการธุรกิจมา เรานำ�ความรู้ตรงนั้นมาปรับใช้ ในการทำ�งาน ผมไม่ใช่ศิลปินอินดี้ ผมเป็นเมนสตรีมที่มีตัวตน ผม เปิดใจคนมาดูโชว์เยอะน้อยไม่สำ�คญัเท่าเขามาดูเรา แค่เราสนุก ไปกับทุกคน นอกจากนี้ช่วงพักทำ�เพลง มีโอกาสไปสอน เด็กที่เคยติดคุกเอามาฝึกซาวด์เอ็นจิเนียน สอนศิลปะ แล้วคิดได้ว่าเราช่วยสังคมได้ ก็ต้องดูแลครอบครัว เราให้ดีเช่นกัน ก็กลับมาบอกพ่อแม่ว่าเราจะเป็น หวัหนา้ครอบครวัทดี่ขีนึ้ รวมทงั้ดแูลลกูสาว “ลลัลา เบลล์” ให้เต็มทีเช่นกัน” “ผมอยากขอโอกาส อยากให้ลองฟังเพลง ผม แล้วเป็นไปได้อยากให้ทุดคนลองมาดูโชว์หรือ คอนเสิร์ตผมบ้างนะครับ ยังไงจากนี้ไปก็จะทำ�งาน เตม็ท่ี ไมท่งิ้ชว่งหายไปไหนนานอกี แลว้เจอกนั นะครับ” “จากการพูดคุยกับ ในคร้งันี้ เรารสู้กึถงึการเตบิโต และความตงั้ใจจรงิในการ ทำ�งานในฐานะศิลปิน ยังไงฝากเพลง และผลงานอื่น ๆ ในอนาคตของเขาด้วยนะคะ.